เกิดเหตุไฟไหม้โกดังรีไซเคิลขวดแก้ววอด ก่อนจะลุกลามไปลุกไหม้อาคารพาณิชย์ที่อยู่ด้านหน้าอีกจำนวน 4 คูหา ค่าเสียหายกว่า 1 ล้านบาท เจ้าหน้าที่ระดมฉีดน้ำอยู่นานกว่า 1 ชั่วโมงเพลิงจึงสงบ คาดไฟฟ้าลัดวงจร
เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 2 กรกฎาคม 2563 ร.ต.อ.เสถียร ชูศรีวาสน์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมือง สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีเหตุไฟไหม้โกดังรีไซเคิลขวดแก้ว ไม่มีชื่อ เลขที่ 255 หมู่ 3 ตำบลท้ายบ้าน อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยรถดับเพลิงเทศบาลตำบลบางปู และเทศบาลใกล้เคียงจำนวน 10 คัน เดินทางเข้าตรวจสอบ
ข่าวน่าสนใจ:
- สูงวัยตรัง ปลื้ม เตรียมตัวรับเงินหมื่น ฝันใช้ยามแก่-ต่อยอดอาชีพบั้นปลาย
- วิกฤตพะยูนตรัง 7 วันสำรวจ พบแค่ตัวเดียว ทดลองวางแปลงอาหาร กลับถูกเมินไม่ยอมกิน
- ร้อยเอ็ด...กบห.โหวดพิฆาตเข้าพบรักษาการพ่อเมืองร้อยเอ็ด ร่วมต้อนรับรัฐมนตรีประจำสำนักฯ เปิดงานเดิน-วิ่งการกุศล ณ อ่างธวัชชัย 30 พ.ย. 67
- ค่ายรถยนต์ ผุดบูธเพิ่มช่องทางปั๊มยอดช่วงปลายปี หลังตลาดยังซบยาวต่อเนื่อง
ในที่เกิดเหตุพบเพลิงกำลังลุงไหม้โกดังชั้นเดียวขนาดใหญ่พื้นที่ประมาณ 100 ตารางวา โดยไฟได้ลุกโหมอย่างรุนแรงอยู่ภายในโกดังดังกล่าว และลุกลามไปลุกไหม้อาคารพาณิชย์ที่อยู่ด้านหน้าอีกจำนวน 4 คู่หา เจ้าหน้าที่ดับได้ช่วยกันระดมฉีดน้ำสกัดเพลิงอยู่นานกว่า 1 ชั่วโมง เพลิงจึงสงบ พบว่ามีหญิงสูงอายุวัย 70 ปีสำลักควันไฟมีอาการหายใจไม่ออก เจ้าหน้าที่มูลนิธิให้การปฐมพยามบาลเบื้องต้นก่อนนำส่งโรงพยาบาลสมุทรปราการ หลังเพลิงสงบพบว่าไฟได้เผาผลาญโกดังดังกล่าวได้รับความเสียหายทั้งหมดร่วมทั้งอาคารพาณิชย์ได้ไฟลุกลามมาลุกไหม้ที่บริเวณห้องครัวด้านหลังทั้ง 4 คูหา ส่วนค่าเสียหายคาดว่าไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท
จากการสอบถามนายชัยวัฒนะ สงวนชัยกิจ อายุ 53 ปี เจ้าของโกดังที่เกิดเหตุ ได้เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุไม่มีคนอยู่ภายในโกดัง และตนกำลังกินข้าวอยู่ที่บ้านย่านถนนลวด และมีชาวบ้านที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุโทรศัพท์มาบอกว่าไฟไหม้โกดังเก็บขวดของตนจึงรีบเดินทางมาดูพบเพลิงกำลังลุกไหม้อยู่ภายในโกดัง และลุกลามออกมาด้านนอกไปลุกไหม้ด้านหลังอาคารพาณิชย์ที่อยู่ด้านหน้าจำนวน 4 คูหา ตนและชาวบ้านได้พยายามช่วยกันเอาน้ำและถังเคมีมาฉีดสกัดเพลิงแล้วแต่เอาไม่อยู่ จึงได้โทรศัพท์แจ้งขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิฐานว่า สาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้น่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร แต่อย่างไรก็ตามจะได้ประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: