พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1 เป็นประธาน เปิดยุทธการ ปิดเมือง สยบโจร โค่นอิทธิพล เมืองปากน้ำ หวั่นเกิดเหตุซ้ำรอย นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง รวม 250 นาย เข้าทำการตรวจค้นเป้าหมายรวม 31 จุด ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักทั้งยาเสพติดและอาวุธและกลุ่มผู้อิทธิพล หลังจากเกิดเหตุสองกลุ่มวัยรุ่นยกพวกไล่ทำร้ายกันในโรงพยาบาลทั้ง 2 แห่งในย่านสำโรงใต้
เมื่อเวลา 05.00 น.วันที่ 24 กรกฎาคม 2563 ที่ลานหน้าโรงพัก สภ.สำโรงใต้ สมุทรปราการ พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.ชุมพล พุ่มพวง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ ได้เดินทางเป็นประธานปล่อยแถวระดมกวาดล้างยาเสพติดและผู้มีอิทธิพล ตามยุทธการ ปิดเมือง สยบโจร โคนอิทธิพล เมืองปากน้ำ โดยมีข้าราชการตำรวจจากหลายหน่วยงานทั้งหน่วย ปปส. ปปง.ดีเอสไอ ชุดสยบไพรี ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่สืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ และชุดสืบสวนภาค 1 รวมกว่า 250 นาย เข้าทำการตรวจค้นเป้าหมายรวม 31 จุด ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักทั้งยาเสพติดและอาวุธและกลุ่มผู้อิทธิพล หลังจากเกิดเหตุสองกลุ่มวัยรุ่นยกพวกไล่ทำร้ายกันในโรงพยาบาลทั้ง 2 แห่งในย่านสำโรงใต้ สมุทรปราการ โดยเฉพาะในชุมชนวัดมหาวงษ์ และชุมชนเปรมฤทัย ซอย 7 และซอย 10 ซึ่งเป็นชุมชนเป้าหมายหลักที่มีเครือข่ายเป้าหมาย ซึ่งมีการแพร่ระบาดอยู่ในชุมชนทั้งสองแห่ง เมื่อครั้งก่อนประมาณ 2 ปีที่ผ่านเจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดยาบ้าได้เกือบ 1 ล้านเม็ดที่ถูกซุกอยู่ในป่าหญ้าหลังชุมชน แต่การตรวจค้นในครั้งนี้คาดว่าตัวการสำคัญน่าจะไหวตัวทันได้หลบหนีไปก่อนที่กำลังของเจ้าหน้าที่จะเดินทางมาถึง พบเพียงญาติพี่น้องที่ยังอยู่ในชุมชนดังกล่าว
โดย พล.ต.ต.สุภธีร์ บุญครอง ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 1 ได้กล่าวหลังเข้าตรวจค้นว่า สืบเนื่องมาจากคดีที่มีกลุ่มวัยรุ่นไปทะเลาะและทำร้ายบุคลากรทางการแพทย์ ทางผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 โดยข้อสั่งการท่าน พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ให้ตำรวจภูธรภาค 1 และตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ เร่งดำเนินการว่าจะทำอย่างไรจะทำให้สมุทรปราการสงบไม่มีภาพแบบในครั้งนี้เกิดขึ้นอีก เบื้องหลังจากข้อมูลที่เรามีกลุ่มวัยรุ่นก็มีตัวลูกพี่ เราก็เลยมาพิสูจน์ทราบเครือข่าย ซึ่งตนในฐานะหัวหน้าชุดปฏิบัติการ 15 จุดในวันนี้ในเขตพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ และอีก 15 จุดเป้าหมายเป็นของตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ เป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งจากการตรวจค้นเบื้องต้นเราได้พบเพียงเครือญาติบางส่วนอาจจะรู้ข่าวหรือว่าหลบหนีไปก่อนล่วงหน้า แต่เราไม่ได้จบเพียงวันนี้เราก็จะลุยติดตามพฤติการณ์ต่อเนื่องตลอดไปรวมทั้งกลุ่มคนอื่นด้วยที่สร้างปัญหาให้สังคม
ทางด้าน พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รอง ผบช.ภ.1 ได้กล่าวว่า ในวันนี้เนื่องจากเราเริ่มต้นที่สมุทรปราการก่อนเนื่องจากมีเหตุการณ์ตามที่พี่น้องสื่อมวลชนได้นำเสนอไปแล้ว ว่ามีกลุ่มวัยรุ่นได้ทำร้ายร่างกายกันในสถานพยาบาล ซึ่งมันไม่ควรเกิดขึ้น วันนี้จึงเปิดยุทธการ ปิดเมือง สยบโจร โคนอิทธิพล เมืองปากน้ำ เราดำเนินการระดมกวาดล้างโดยบูรณาการกำลังทุกภาคส่วนในพื้นที่ของภาค 1 และส่วนกลาง ไม่ว่าจะเป็น ปปส. หรือ ปปง. รวมทั้งเจ้าหน้าที่ ดีเอสไอ เจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายปกครองหลายหน่วยในวันนี้ ซึ่งในวันนี้ท่านผู้บัญชาการภาค 1 ท่านได้มาเป็นประธานในการปล่อยแถวระดมกวาดล้างเมื่อเช้านี้ สิ่งแรกเลยมันเป็นป้องปราม เป็นการกดดัน กลุ่มบุคคลต่าง ๆ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความมันใจให้พี่น้องประชาชนโดยเฉพาะบุคคลากรทางการแพทย์ ขอให้ท่านเชื่อมั่นในการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และผลการระดมในครั้งนี้ มีบุคคลเป้าหมายที่มีหมายจับก็มีการหลบหนีออกนอกพื้นที่ขณะนี้ทางตนและผู้บัญชาการ ได้มอบหมายให้ผู้บัญชาการศูนย์สืบสวนภาค 1 ดำเนินการไล่ล่าติดตามจับกุมให้ได้
ส่วนในเป้าหมายอื่น เป้าหมายยาเสพติด เป้าหมายอาวุธปืนอาวุธสงคราม ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักของเราและบุคคลตามหมายจับ แผนยุทธการนี้ที่เกิดขึ้นก็คือเพื่อเป็นการป้องปรามเป็นอันดับแรก และเป็นการสร้างความเชื่อมั่นตามที่ได้เรียนไปแล้ว วันนี้ท่านผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ท่านได้สั่งการณ์ทุกพื้นที่ไปแล้วว่าใน 9 จังหวัดจะต้องทำอย่างต่อเนื่อง สมุทรปราการ ถือว่าเป็นจังหวัดแรก และทางท่านผู้การเองท่านก็มีแผนการปฏิบัติในเชิงรุกอย่างต่อเนื่องอยู่แล้วในเรื่องนี้ และเรามีเป้าหมายอยู่แล้วไม่ว่าจะเป็นของมหาวงษ์ หรือโรงเหล็กก็ดีหรือพื้นที่ข้างเคียงมันก็เป็นเป้าหมายของยาเสพติดและเรื่องอาวุธปืน ซึ่งก่อนหน้านี้ก็สามารถจับกุมยาเสพติดและอาวุธปืนสงครามได้ในจุดนี้ และที่ผ่านมาท่านผู้การเองก็มีการระดมกวาดล้างอยู่เป็นระยะอยู่แล้ว ซึ่งก็มีบางคนที่หลบหนีออกนอกพื้นที่ บางคนก็พึ่งเข้ามาใหม่ จากเหตุการณ์ตรงนี้ก็เป็นลักษณะกลุ่มวัยรุ่นไม่ใช้เจ้าพ่อหรือผู้มีอิทธิพล ตนยืนยันเลยว่า ต้องไม่มีผู้มีอิทธิพล ต้องไม่มีเจ้าพ่อ ไม่มีมือปืน เพราะถ้ามีก็อยู่ไม่ได้ ตำรวจต้องบังคับใช้กฎหมายและใช้ปฏิบัติเชิงรุกทุกรูปแบบ โดยเฉพาะในภาค 1 ผู้บัญชาการได้มอบหมายให้ตนเป็น รอง ผอ.ศูนย์ปราบปรามผู้มีอิทธิพล และมือปืนรับจ้าง พวกนี้ไม่ใช้เจ้าพ่อหรือผู้มีอิทธิพลแต่อย่างไร ตนขอยืนยัน เป็นแค่พวกทำผิดกฎหมายธรรมดาเท่านั้น ซึ่งมีพฤติกรรมที่เหิมเกริม ไม่เกรงกลัวกฎหมายท้าทายอำนาจรัฐ โดยเฉพาะรัฐบาล ได้สั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเร่งระดมกวาดล้างเพื่อสังคมอยู่เย็นเป็นสุข
