กองปราบร่วมกับกรมสรรพสามิต บุกทลายแหล่งผลิตเหล้าต่างประเทศปลอม ย่านบางพลีใหญ่ หลังล่อซื้อผ่านทางโลกออนไลน์ สามารถจับกุมชาวมาเลเซีย และชาวไทย ซึ่งมีหน้าที่นำเหล้าของประเทศมาเลเซียมาผสมกับส่วนผสมอื่น ๆ และบรรจุใส่ขวด พร้อมติดสติกเกอร์เลียนแบบเหล้าหลายยี่ห้อ ก่อนนำไปขาย
เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 17 ตุลาคม 2561 นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมสรรพสามิต พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช รักษาการแท่นผู้บังคับการกองปราบ พ.ต.อ.พัลลภ แอร่มหล้า รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ พ.ต.อ.พิสุทธิ์ จันทรสุวรรณ ผกก.สภ.บางแก้ว นายธรรมศักดิ์ ลออเอี่ยม ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางสรรพสามิต และนายวิวัฒน์ เขาสกุล ผู้อำนวยการสำนักตรวจสอบ ป้องกันและปราบปราม พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่กองปราบและเจ้าหน้าที่สรรพสามิต เข้าทำการตรวจค้นบ้านเลขที่ 114 / 9 หมู่ 13 หมู่บ้านคัลเล่อร์ เฟส 5 ซอย 3 ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ หลังจากที่สายลับได้ทำการล่อซื้อสุราต่างประเทศผิดกฎหมายและแกะลอยมาจนทราบว่า ที่บ้านหลังดังกล่าวเป็นแหล่งผลิตสุราต่างประเทศหลากหลายยี่ห้อ ผิดกฎหมาย จึงได้นำกำลังเข้าทำการตรวจค้นที่บ้านหลังดังกล่าวพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากกรมสรรพสามิต ได้พบ นาย ลี ซี เกียง ( Mr.Lee lee chee keong ) อายุ 48 ปี ชาวมาเลเซีย และนายสิทธิพงษ์ วันทา 30 ปี ชาวไทย กำลังนั่งช่วยกันกรอกส่วนผสมของสุราต่างประเทศยี่ห้อต่าง ๆ บรรจุลงขวดเปล่าที่เตรียมไว้พร้อมฝาปิดผนึกและแสตมป์อากรของกรมสรรพสามิต และกล่องบรรจุสุราต่างประเทศยี่ห้อต่าง ๆ จำนวนมาก จึงได้ทำการตรวจยึดทั้งหมดไว้เป็นของกลางพร้อมด้วยสุราต่างประเทศที่บรรจุขวดแล้วเตรียมส่งขายให้ลูกค้าแบ่งเป็นยี่ห้อ Red ขนาด 1 ลิตร จำนวน 60 ขวด ยี่ห้อ Black ขนาด 1 ลิตร จำนวน 36 ขวด ยี่ห้อ Double bkck ขนาด 1 ลิตร จำนวน 1 ขวด ยี่ห้อ Swimg ขนาด 0.750 ลิตร จำนวน 3 ขวด ยี่ห้อ Walton ขนาด 1 ลิตร จำนวน 90 ขวด เบียร์ยี่ห้อ Hoegaarden ขนาด 0.330 ลิตร จำนวน 11 ขวด
จากการสอบสวนนาย ลี ซี เกียง และ นายสิทธิพงษ์ สองผู้ต้องหาได้ให้การรับสารภาพว่า ตนทั้งสองเพิ่งมาเช่าบ้านหลังดังกล่าวได้ประมาณเดือนเศษ เพื่อเป็นสถานที่ผสมสุราต่างประเทศและบรรจุลงขวดส่งขายให้ลูกค้า โดยได้รับการว่าจ้างจากนาย เดวิท สัญชาติมาเลเซียที่ว่าจ่างตนทั้งสองคนวันละ 1 พันบาทต่อคน โดยนาย ลี ซี เกียง ชาวมาเลเซียมีหน้าที่นำส่วนผสมของสุราต่างประเทศที่ลักลอบนำเข้ามาจากประเทศมาเลเซียมาผสมกับส่วนผสมอื่น ๆ และเทบรรจุใส่ขวดและปิดฝาปิดแสตมป์อากรสรรพสามิต และเอาใส่กล่องบรรจุใส่ลัง ซึ่งอุปกรณ์ทั้งหมดขนขึ้นมาจากภาคใต้ของไทย ส่วนนายสิทธิพงษ์ มีหน้าที่นำสุราต่างประเทศทั้งหมดส่งขายให้ลูกค้า ที่มีการสั่งซื้อมาทางไลน์ ที่ใช้ชื่อไลน์ว่า มาซ่า ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่เป็นสถานบันเทิงตามแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ ในประเทศไทย ส่วนสถานที่การผลิตจะเปลี่ยนไปตามเลื่อย ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการติดตามของเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนกระทั่งมาถูกจับกุมได้ดังกล่าว
นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมสรรพสามิต ได้กล่าวว่า ในการเข้าจับกุมในครั้งนี้ จริง ๆ ทางทีมงานจับกุมได้ร่วมกับตำรวจพื้นที่ร่วมกันติดตามมาพักใหญ่แล้ว จนทราบเป็นที่แน่ชัดและสถานที่นี้เป็นการขยายผลเบื้องต้น ซึ่งเราคงต้องมีการติดตามต่อไป เพราะว่าผู้กระทำผิดที่จับกุมได้ในครั้งนี้เคยกระทำผิดในทำนองเดียวกันมาหลายครั้งแล้ว เท่าที่เช็คประวัติมาเบื้องต้น ซึ่งอาจเป็นทีมงานเดิม ส่วนตัวการใหญ่คงต้องขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ของเราทำการสืบค้นสักระยะหนึ่งโดยต้องอาศัยความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า ผลิตสุราโดยไม่ได้รับอนุญาต และมีไว้เพื่อขายซึ้งสินค้าที่มิได้เสียภาษีสรรพสามิต ก่อนควบคุมตัวสองผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งสำนักงานคุมครองผู้บริโภค เพื่อทำการสอบสวนขยายผลและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
