ประธาน กกต.ชี้แจงเรื่องคณะกรรมการได้ร้องเรียนว่ามี กรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งได้เคลื่อนย้ายหีบเลือกตั้ง เป็นการยกหีบจากที่วางเอาไว้ไปยังบริเวณในช่องที่จัดไว้สำหรับผู้ที่มีอุณหภูมิสูง เผยเป็นแนวทางปฎิบัติในช่วงมีการแพร่ระบาดโควิด
เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 9 ส.ค.63 นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง ได้ออกมาชี้แจงกรณีที่มีพรรคการเมืองพรรคหนึ่งได้ร้องเรียนว่ามีกรรมการประจำหน่วยเคลื่อนย้ายหีบเลือกตั้งนั้นในเรื่องขอชี้แจงว่า เป็นยกหีบจากที่วางเอาไว้ไปยังบริเวณเดียวกันในช่องที่จัดไว้สำหรับผู้ที่มีอุณหภูมิสูง อันนี้เป็นแนวทางที่เราแจงให้กรรมการหน่วยรับทราบ เพราะว่าถ้าเราไม่ทำอย่างนี้แล้วนั้น คนที่ไปใช้สิทธิ์ในช่องพิเศษก็มีโอกาสเดินเข้ามาและปะปนกับผู้มาใช้สิทธิ์ที่มีอุณหภูมิปกติ อันนี้เป็นแนวทางที่มีการกำหนดไว้อย่างชัดเจนและอยู่ในคู่มือของการอบรม กปน.และก็ทราบมาว่าท่านผู้แจงเหตุได้มีการโทรเข้ามาสอบถาม ผอ.จังหวัด ซึ่งทาง ผอ.จังหวัดก็ได้มีการอธิบายให้ฟังว่า เป็นแนวทางที่ชัดเจนมีแจ้งและกำชับกันไว้อย่างนั้น และเห็นว่าเป็นแนวทางในการช่วยในแง่การป้องกันการแพร่ระบาดได้ดีที่สุดก็เลยทำเช่นนั้น
ส่วนในเรื่องร้องเรียนที่ว่ามีการกระทำให้ลักษณะการแจ้งเงินและการเอาป้ายหาเสียงมาตั้งนั้น ตั้งแต่เช้าจนมาถึงบัดนี้ก็ยังมาได้รับรายงานในเรื่องนี้แต่อย่างใด ซึ่งการที่ยังไม่ได้รับรายงานก็ไม่ได้ถือว่าไม่มีการแจ้งเหตุมา เพราะฉะนั้นถ้ามาการแจ้งเหตุมา และถ้ามีพยานหลักฐานก็จะยิ่งดีเป็นอย่างยิ่ง เพราะฉะนั้นในเรื่องนี้ตนยังไม่ได้รับรายงาน และถ้ามีเรื่องเพิ่มเติมที่ตนจะบอกได้ หรือทาง ผอ.จังหวัดก็น่าจะมีรายละเอียดมากกว่านี้ แต่เรายินดีมากเลยถ้าพบเหตุการณ์ไม่ปกติแล้วแจ้งให้ทางเราทราบพร้อมพยานหลักฐาน และในคืนนี้อาจจะมีการประกาศผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ ก็ยังเวลาเหลือที่จะให้ผู้เข้ามาร้องเรียนได้เรื่อย ๆ เพราะว่า 30 วันหลังจากประกาศผล คือถ้าเราประกาศไปแล้วไม่ตัดสิทธิ์ยังร้องเรียนได้อยู่ และการประกาศผลก็ยังไม่ได้ตัดสิทธิ์ กกต.ที่จะพิจารณาเรื่องการเลือกตั้งจะสุจริตหรือไม่สุจริต อย่างที่บอกไปในช่วงเช้าว่าผลอย่างเป็นทางการถ้าเราเปิดกฎหมายมาตรา 127 กกต.จะต้อง ประการแรกจะต้องมีการตรวจสอบเบื้องต้น และถ้าหากมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าการเลือกตั่งสุจริต กกต.ก็ประกาศผลได้ โดยให้คำนึงถึงรายงานของผู้ตรวจการเลือกตั้งและข้อมูลจากแหล่งข่าวต่าง ๆ ประกอบการพิจารณาตัดสินใจ อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจ และข้อเท็จจริงหลังจากนี้จะเป็นอย่างไร
