รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ลงพื้นที่เยี่ยมชมความพร้อมสถานที่ในการดูแลผู้สงสัยติดเชื้อโควิด-19 ที่โรงพยาบาลรามาธิบดีจักรีนฤบดินทร์ บางพลีสมุทรปราการ
เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 20 สิงหาคม 2563 ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม พร้อมด้วยคณะ ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมความพร้อมในการรองรับสถานการณ์การติดเชื้อโรคโควิด-19 สถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ โดยมี คณบดีคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล และผู้อำนวยการโรงพยาบาลรามาธิบดีจักรีนฤบดินทร์ พร้อมด้วย นายธฤต สำราญเวทย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ ร่วมให้การต้อนรับ
ข่าวน่าสนใจ:
- 2 เฒ่า ถูกนำมาทิ้งขนส่งแม่สาย ไร้ที่ไป
- วธ.จังหวัดนครปฐมส่งเสริมประเพณี “ลอยกระทง วิถีไทย ใส่ใจสิ่งแวดล้อม” ประจำปี 2567 “คืนจันทร์เพ็ญงามอร่ามตา สืบสานรักษาคลองเจดีย์บูชา…
- บุรีรัมย์ ปัดฝุ่นประเพณีผูกเสี่ยวเชื่อลดปัญหาขัดแย้งทั้งเยาวชนและผู้ใหญ่
- สนามแข่งบุญชิงถ้วยพระราชทานงานพ่อโสธร เจ้าถิ่นครองเจ้าสนาม 55 ฝีพาย
ภายหลังการตรวจเยี่ยม ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ได้กล่าวว่า โรงพยาบาลรามาธิบดีจักรีนฤบดินทร์แห่งนี้ เป็นโรงพยาบาลได้รองรับผู้ป่วยโรคโควิด-19 จำนวนมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ รู้สึกประทับใจมากที่ประเทศไทยมีโรงพยาบาลที่มีความพร้อมในทุกด้าน ทั้งเจ้าหน้าที่และบุคลากรทางการแพทย์และสถานที่รวมถึงห้องความดันลบ และใช้หุ่นยนต์ในการส่งของและส่งอาหารร่วมทั้งหุ่นยนต์ทำความสะอาด ขอให้ความมั่นใจว่าเรามีความพร้อมที่จะดูแลและบริหารจัดการสถานการณ์หากจะมีการระบาดในระยะต่อไป และยังชี้ให้เห็นว่าโควิด ทำให้โรงพยาบาลไทยทั่ว ๆ ไปก้าวหน้าขึ้น โดยเฉพาะโรงพยาบาลรามาธิบดีก็มีความก้าวหน้าขึ้นมากมาย เป็นลักษณะที่ว่า เมื่อยามเกิดการคับขันขึ้นเราคนไทยก็มีความสามารถพิเศษที่จะปรับตัวให้เกิดนวัตกรรมเกิดความสร้างสรรค์ต่าง ๆ ซึ่งจริง ๆ ตนก็ได้สั่งการณ์ไปแล้วว่า ต่อไปนี้ด้านการแพทย์สาธารณ์สุขของเราไม่ว่าจะเป็นระบบไม่ว่าจะเป็นบุคลากรมันดีระดับโลกอยู่แล้ว แต่อยากจะให้เพิ่มทางด้านการทำอุตสาหกรรมยา อุตสาหกรรมวัคซีน อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับสาธารณสุข เพื่อที่จะว่ายามที่มีเหตุการณ์เกิดขึ้นเรามีหมอเรามีพยาบาลมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่เก๋ง แต่ว่ายังขาดเครื่องมือเรายังขาดยาขาดวัคซีนและขาดงานนวัตกรรมที่สำคัญ ๆ และจำเป็นที่จะต้องจัดซื้อเราก็พบว่ามันหาซื้อไม่ได้ เพราะทุกประเทศก็ต้องการของและบริการเหล่านั้นไว้กับตัวเองทั้งนั้น อันนี้ก็ได้สั่งการไว้แล้วให้คิดหาวิธีที่จะเพิ่มความสามารถของประเทศให้พึ่งตนเองได้มากขึ้น และประเทศไทยก็เป็นประเทศที่ใช้วิคซีนได้เร็วที่สุดประเทศหนึ่ง แต่อันนี้มันมีรายละเอียด ก็อยากจะให้ทาง ศาสตราจารย์ ด๊อกเตอร์ นายแพทย์ สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล เลขาธิการคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ หรือ วช. เป็นคนชี้แจ้งในรายละเอียด
ศาสตราจารย์ ด๊อกเตอร์ นายแพทย์ สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล เลขาธิการคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ ได้กล่าวว่าตามที่รัฐบาลได้มีนโยบายใช้การได้มาด้วยวัคซีนทั้งสามแนวทางควบคู่กันไป ก็คือการวิจัยในประเทศซึ่งทางกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม หรือ อว. ก็ได้สนับสนุนการวิจัยอยู่ 7 แบบ และการรับการถ่ายทอดอีวีเพื่อการผลิต จากการผลิตชั้นนำจากต่างประเทศ ร่วมทั้งการจัดหาวัคซีนที่ได้ผลิตแล้วจากที่ต่าง ๆ เข้ามา โดยคาดการว่าประเทศไทยจะได้รับวัคซีนเป็นประเทศต้น ๆ ในโลกตามกำหนดเวลาที่ได้
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: