รถพ่วงปริศนาซิ่งสยอง ชนหนุ่มพนักงานสำรวจเส้นทางท่องเที่ยวของบริษัท บิ๊กแมพ ดับ ขณะเปลี่ยนยางรถยนต์กระบะ ซึ่งยางแตก บนทางด่วนกาญจนาภิเษก แล้วหลบหนีไป
เมื่อเวลา 01.30 น.วันที่ 23 ตุลาคม 2561 ร.ต.อ.สง่า มูลจัด รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมือง สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีเหตุชายถูกรถพ่วงเฉี่ยวชนเสียชีวิตในขณะที่กำลังลงมาเปลี่ยนยางล้อรถ บนทางด่วนกาญจนาภิเษก บางพลี – สุขสวัสดิ์ จากพระราม 2 มุ่งหน้าบางนา ต.เทพารักษ์ อ.เมือง จ.สมุทรปราการหลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยมูลนิธิร่วมกุศลสมุทรปราการ และอาสามูลนิธิร่วมกตัญญู รวมทั้งกู้ภัยทางด่วน ได้เดินทางเข้าตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุพบร่างของนายพรชัย วิเศษแสง อายุ 28 ปี พนักงานสำรวจเส้นทางท่องเที่ยวของบริษัท บิ๊กแมพไทยแลนด์ ซึ่งประกอบกิจการเกี่ยวกับเว็บไซต์ข้อมูลการท่องเที่ยวและแผนที่ นอนหงายจมกองเลือดเสียชีวิตอยู่หน้ารถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ สีขาว ทะเบียน 1 ฒธ 5754 กรุงเทพมหานคร ในสภาพต้นแขนขวากระดูกแตกหักตามร่างกายกระดูหักหลายท่อน และที่บริเวณหลังรถคันดังกล่าวได้พบยางล้อรถที่แตกระเบิดวางอยู่ใต้ท้องรถยังพบว่ามีแม่แรงยกดุมล้อหลังข้างขวาคาอยู่ พร้อมด้วยบล็อกไขล้อรถอีก 1 อัน
จากการสอบถามนายวิชัย บุญรังสี อายุ 36 ปี ซึ่งนั่งรถมากับผู้ตาย ได้เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนและผู้ตายได้ขับไปสำรวจเส้นทางท่องเที่ยวที่เขาหลัก จังหวัดพังงา หลังจากเสร็จงานไปพากันขับรถเพื่อที่จะบ้านในย่านลาดกระบัง ในขณะที่ผู้ตายขับรถขึ้นทางด่วนกาญจนาภิเษก มาจากด่านพระราม 2 มุ่งหน้าบางนา ขณะขับมาถึงที่เกิดเหตุยางหลังข้างขวา ได้เกิดระเบิดขึ้น ผู้ตายจึงประคองรถเข้าชิดข้างทางและจอดก่อนลงมาช่วยกันเปลี่ยนเอายางอะไหล่มาใส่ยางเส้นที่ระเบิด ในขณะที่ตนกำลังจะนำยางที่ระเบิดเส้นดังกล่าวเก็บใต้ท้องรถส่วนผู้ตายอยู่ระหว่างขันน๊อตล้ออยู่นั้น อยู่ ๆ ได้มีรถพ่วงขนาดใหญ่ที่ขับมาด้วยความเร็วที่ขับมาจากเส้นทางพระราม 2 มุ่งหน้าบางนา โดยขับมาทางด้านเลนซ้ายก่อนที่จะเฉี่ยวชนจนร่างของผู้ตายกระเด็นไปตกที่หน้ารถและถูกล้อของรถพ่วงทับซ้ำจนเสียชีวิตคาที่ ด้วยความตกใจตนได้พยายามมองเลขทะเบียนของรถพ่วงคันดังกล่าว แต่มองไม่ทันรถพ่วงที่ก่อเหตุได้ขับหลบหนีไปทางบางนาตราดด้วยความเร็ว ตนจึงรีบลโทรศัพท์แจ้งข้อความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จะได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทางด่วนเพื่อขอตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด ที่ติดตั้งอยู่ในละแวกใกล้เคียง เพื่อหาหลักฐานในการติดตามรถพ่วงคันที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
