บรรทุกหกล้อชนรถพ่วง 18 ล้อขาดสองท่อนกลางถนนปู่เจ้าสมิงพราย บริเวณปากทางเข้าซอยโรงเหล็ก ต.สำโรงใต้ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย
เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 26 สิงหาคม 2563 พ.ต.ต. บุญฤทธิ์ เชิญเชื้อ สารวัตรสอบสวน สภ.สำโรงใต้ สมุทรปราการ ได้รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อชนกันที่บริเวณถนนปู่เจ้าสมิงพราย บริเวณปากทางเข้าซอยโรงเหล็ก ต.สำโรงใต้ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยอาสามูลนิธิร่วมกตัญญูเดินทางเข้าตรวจสอบ
ข่าวน่าสนใจ:
- บุรีรัมย์ คริสตจักรเมืองบุรีรัมย์ จัดงานเฉลิมฉลองวันคริสต์มาส ส่งความสุขก่อนปีใหม่อย่างยิ่งใหญ่
- คู่แข่งนอกสายตานายก ก้อย “พนธ์ มรุชพงษ์สาธร” ขอวัดดีกรีว่าที่นายก อบจ.แปดริ้ว
- นนทบุรี หนุ่ม 16 ขับเบนช์ เสียหลักเหินขึ้นไปคาอยู่บนรถ 6 ล้อรอดตายปาฏิหาริย์
- คอกาแฟแห่เที่ยวงานพังงาคอฟฟี่เจอร์นี่ ซีซั่น 3 ภายใต้รูปแบบที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม Coffee in the Park ในสวนสมเด็จฯพังงา
ในที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกพ่วงยี่ห้อ ฮีโน่ สีขาว หัวลากทะเบียนหัวพ่วง 70-4089 ประจวบคิรีขันธ์ หางพ่วง 70-4090 ประจวบคิรีขันธ์ โดยที่ส่วนหัวพ่วง และท้ายพ่วง ถูกบรรทุกหกล้อติดเฮี๊ยบยกด้านท้ายยี่ ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน 70-1815 สมุทรสาคร ที่บรรทุกขี้เลื่อยมาเต็มคัน ชนจนขาดออกจากกัน โดยส่วนหัวพ่วงนั้นถูกแรงชนจนพลิกตะแคงไปอัดกับเสาไฟฟ้าในที่เกิดเหตุผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย ทราบชื่อ นาย สมศักดิ์ แต่งจุ๋ย อายุ 50 ปี น.ส.สายัน บุญมาก อายุ 51ปี มากับหกล้อ และนางประภาสรณ์ น้อยสง่า มากับรถพ่วง เจ้าหน้าที่มูลนิธิได้ช่วยนำรักษาที่โรงพยาบาลใกล้เคียง
จากการสอบถาม นายประเวก พรมพินิจ อายุ 60 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ ได้เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้เห็นรถพ่วงที่วิ่งมาจากท่าน้ำพระประแดงและกำลังเลี้ยวเข้าซอยโรงเหล็ก ขณะที่หัวพ่วงผ่านเข้าไปในซอย รถบรรทุกหกล้อคันดังกล่าวที่วิ่งลงมาจากสะพานด้วยความเร็วได้พุ่งชนระหว่างกลาง ระหว่างหัวพ่วงกับหางพ่วง จนขาดออกจากกันส่วนหัวพ่วงได้พลิกตะแคง และมีผู้บาดเจ็บดังกล่าว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่าขณะที่รถหกล้อวิ่งลงมาจากสะพานโดยไม่ทันได้มองว่ารถพ่วงคันดังกล่าวกำลังเลี้ยวเข้าซอยโรงเหล็ก จึงได้พุ่งชนเข้าอย่างแรงจนรถพ่วงขาดเป็นสองท่อน อย่างไรก็ตามจะได้เชิญตัวคนขับทั้งสองมาทำการสอบสวนข้อเท็จจริงเพื่อดำเนินการตามกฏหมายต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: