หนุ่มวิศวกรลูกผู้คุมเรือนจำสมุทรปราการ วัยเบญจเพส ซิ่งเก๋งคู่ใจ คาดว่าแข่งขันมากับอีกคัน ในระหว่างที่จะแซงรถเลนกลาง ได้แซงซ้ายไปเจอรถสองแถวสาย 36 จอดรับส่งผู้โดยสารอยู่ จึงหักหลบชนเสาไฟฟ้าข้างทางรถโอบรอบเสาไฟฟ้า คนขับดับคาที่
เมื่อเวลา 22.30 น.วันที่ 23 ตุลาคม 2561 ร.ต.อ.สุธาดา ศรีสุวงศ์ รองสารวัตรเวร สภ.บางปู สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถยนต์เก๋งชนเสาไฟฟ้าที่บริเวณข้างตู้ยามบริการประชาชนวิทยาลัยเทคนิค สมุทรปราการ ถนนสุขุมวิท หลักกิโละเมตรที่ 33 มุ่งหน้าบางปู ต.บางปูใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ มีผู้เสียชีวิตติดคาอยู่ในซากรถ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยอาสามูลนิธิปอเต๊กตึ้งและมูลนิธิร่วมกุศลสมุทรปราการ นำเครื่องตัดถ่างเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ข่าวน่าสนใจ:
- นักท่องเที่ยวแห่ชมดอกไม้งามดอยตุง ชิมอาหารพื้นถิ่น ถ่ายรูปดอกไม้สวย
- สอ.สามัญศึกษาเพชรบูรณ์ประชุมใหญ่ โชว์กำไร 52 ล้าน พร้อมเลือกตั้งกรรมการและผู้ตรวจสอบกิจการ
- พิธีเปิดนิทรรศการฟอสซิลช้างดึกดำบรรพ์และสัตว์ร่วมยุคในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา
- นนทบุรี หนุ่ม 16 ขับเบนช์ เสียหลักเหินขึ้นไปคาอยู่บนรถ 6 ล้อรอดตายปาฏิหาริย์
ในที่เกิดเหตุพบรถยนต์เก๋งยี่ห้อ ฮอนด้า ซีวิค สีดำ ทะเบียน 2 กง 7418 กรุงเทพมหานคร ตัวรถฝั่งขวาชนอัดติดอยู่กับเสาไฟฟ้าจนตัวรถพังยับเยินเสาไฟฟ้าขาดสองท่อนแต่ยังไม่ล้มลงมาเนื่องจากด้านบนยังมีสายไฟฟ้าดึงอยู่ ภายในซากรถตำแหน่งคนขับพบร่างของนายกรกฎ แก้วมณี อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 339 / 7 หมู่ 5 ต.คลองด่าน อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ ทำงานเป็นวิศวกรอยู่บริษัทแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร และเป็นลูกชายของผู้คุมเรือนจำกลางจังหวัดสมุทรปราการ ร่างถูกอัดติดอยู่กับโคนเสาไฟฟ้าจนกระดูกตามร่างกายหักหลายท่อนเสียชีวิตติดคาอยู่ในซากรถ เจ้าหน้าที่มูลนิธิได้ช่วยกันใช้เครื่องตัดถ่างมาทำการตัดโครงเหล็กซากรถก่อนนำร่างของนายกรกฎ ผู้ตายออกมาได้ก่อนมอบให้มูลนิธินำส่งชันสูตรที่สถาบันนิติเวช นอกจากนี้ยังทราบว่าในที่เกิดเหตุยังผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 2 รายเป็นสามีภรรยากันที่นั่งอยู่ที่ศาลาพักผู้โดยสารอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุที่ถูกเศษชิ้นส่วนและเศษกระจกของตัวรถกระเด็นมาถูกตามร่างกายได้รับบาดเจ็บมูลนิธิได้ช่วยนำส่งรักษาที่โรงพยาบาลรัทรินทร์บางปู นอกจากนี้ในที่เกิดเหตุยังพบรถจักรยานยนต์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจและอาสาสมัตรช่วยเหลือเจ้าพนักงานที่จอดอยู่ในที่จอดรถด้านหลังตู้บริการประชาชนดังกล่าวถูกชิ้นส่วนของตัวรถที่เกิดเหตุกระเด็นมาใส่ได้รับความเสียหายไปอีก 3 คัน
จากการสอบถามนายอาคม สมปอง อายุ 35 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ได้เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุในขณะที่ตนกำลังขับรถเพื่อที่จะกลับบ้านพักที่อยู่ในย่านบางปู โดยขับมาบริเวณเลนกลาง ในระหว่างนั้นได้มองกระจกมองหลัง ได้พบเห็นรถยนต์เก๋งจำนวน 2 คัน คันแรกสีขาว ส่วนคันที่สองสีดำ ได้ขับไล่กันมาด้วยความเร็วมาบริเวณเลนกลางซึ่งเป็นเลนเดียวกันที่ตนขับรถมา ซึ่งขณะนั้นมีรถสองแถวโดยสารสาย 36 จอดรับผู้โดยสารอยู่ที่ป้ายหยุดรถบริเวณฝั่งซ้าย ด้วยความตกใจตนจึงได้พยายามเชนเกียร์เหยียบคันเร่งเพิ่มความเร็วเพื่อหนีรถทั้งสองคันที่ขับมาด้วยความเร็ว แต่ไม่ทันรถทั้งสองคันขับมาเร็วมากพอมาใกล้ถึงท้ายรถของตนรถเก๋งคันแรกสีขาวได้หักหลบออกทางด้านเลนขวาแซงรถตนไป ส่วนรถเก๋งคันที่สองสีดำ ได้หักหลบออกทางด้านเลนซ้ายซึ่งเป็นเลนที่มีรถสองแถวจอดรับผู้โดยสารอยู่ซึ่งขณะนั้นมีผู้โดยสารนั่งอยู่เต็มคันรถประมาณ 10 กว่าคน ด้วยความตกใจคาดว่าผู้ตายซึ่งขับรถเก๋งสีดำที่หักออกมาทางซ้ายจึงตัดสินใจหักหลบออกมาเข้าข้างทางซึ่งมีเสาไฟฟ้าและต้นไม้ตั้งอยู่ ซึ่งคาดว่าผู้ตายน่าจะพยายามหักหลบให้เข้าช่องระหว่างเสาไฟฟ้าและต้นไม้เพื่อที่จะได้ลงไปในคลองระบายน้ำ แต่ด้วยความเร็วของรถจึงทำให้พุ่งชนและดักติดอยู่กับเสาไฟฟ้าดังกล่าวจนทำให้ตัวเองเสียชีวิตคาที่
ขณะเดียวกันทางด้านพ่อและแม่ ของผู้ตายหลังทราบเรื่องได้เดินทางมาดูที่เกิดเหตุ ด้ายอาการเศร้าโศกเสียหาย พร้อมทั้งเล่าว่า เมื่อช่วงหัวค่ำผู้ตายได้ขับรถคันดังกล่าวออกมาส่งน้องสาวที่ตลาดปากน้ำ และคาดว่ากำลังจะขับรถกลับบ้านพักแต่มาประสบเหตุเสียก่อนและพูดทิ้งท้ายว่า บุญเขาทำมาแค่น้ำ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ประสานเจ้าหน้าที่การไฟฟ้านครหลวงสาขา สมุทรปราการ มาทำการตัดกระแสไฟพร้อมทั้งยกเสาไฟฟ้าต้นดังกล่าวออกเนื่องจากโคนเสาไฟฟ้ จอดาต้นดังกล่าวขาดออกจากกัน และจะได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่บริเวณใกล้เคียงเพื่อตรวจสอบว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นอย่างไรเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: