สามชายฉกรรจ์ถือปืนยาวคล้ายอาวุธสงคราม บุกไปข่มขู่คู่กรณีถึงบ้านย่านสำโรงใต้ ช่วงกลางดึก ล่าสุดได้ย่องเข้าพบตำรวจแล้ว อ้างแค่ปืนบีบีกัน
จากกรณีที่มีคนนำคลิปกล่องวงจรปิดที่มีกลุ่มชายฉกรรจ์จำนวน 3 คนที่ลงจากรถยนต์เก๋งสีขาวพร้อมด้วยอาวุธปืนยาว ก่อนที่จะเดินหายเข้าไปในมุมกล่อง พร้อมระบุข้อความว่าบ้านเมืองไม่มีขื่อมีแปลผู้มีอิทธิพลถือปืนกันเกลื่อนเมือง เขตบางหญ้าแพรกสำโรงใต้สมุทรปราการ ทำตัวเป็นขาใหญ่ไม่เห็นกฎหมายอยู่ในสายตา วอนสังคมช่วยหน่อย โดยได้ระเหตุว่าเหตุเกิดตั้งแต่เวลา 5 ทุ่มของคืนวันที่ 27 สิงหาคม 2563 หลังจากที่คลิปดังกล่าวถูกโพสต์บนโลกโซเชียล
ข่าวน่าสนใจ:
- ทนายเกรียง พา สาวนักแข่งรถจักรยานยนต์ทีมชาติไทย แจ้งความดำเนินคดีกับนายกสมาคม ข้อหาหมิ่นประมาท และ พรบ.คอม
- ตรัง ชาวบ้านสืบสานอนุรักษ์การปลูกข้าวไร่ไว้กินเองครอบครัวเหลือขาย
- กกต.ตรัง พร้อมเปิดสนาม จัดเลือกตั้งอบจ. เปิดยิม 4,000 ที่นั่งรับสมัคร พื้นที่กว้างขวางรองรับกองเชียร์ผอ.กกต.ตรัง เผยการข่าวพบ 3…
- ภาคธุรกิจเอกชนหอการค้าชัยภูมิชี้แนวทางรัฐบาลพลิกวิกฤตเศรษฐกิจไทยฝ่าวิกฤตโลก!
ล่าสุดเมื่อช่วงสายของวันนี้ที่ 29 สิงหาคม 2563 พ.ต.ท. สุเมธ สาลี สารวัตรสืบสวน สภ.สำโรงใต้ สมุทรปราการ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้กระจายกำลังออกหาเบาะแสของกลุ่มชายฉกรรจ์ดังกล่าว จนกระทั่งทราบตัวกลุ่มชายฉกรรจ์ทั้งสาม และทะเบียนรถคันก่อเหตุ จึงประสานติดต่อให้เข้ามอบตัว ล่าสุดเมื่อช่วงเวลา 10.00 น. วันนี้ 29 สิงหาคม 2563 นาย เกรียงศักดิ์ หรืออู๊ด สุขจะ อายุ 54 ปี ผู้ที่ถือปืนตามภาพในกล้องวงจรปิด พร้อมด้วย นาย ณรงค์ชัย หรือเบิร์ด เพิ่มธงชัย อายุ 30 ปี คนขับรถ นาย สมคิด หรือจ๊าบ เกตุแก้ว อายุ 48 ปี ที่เดินลงมาจากรถตามหลังนาย อู๊ด ชายทั้งสามที่ปรากฏภาพอยู่ในคลิปภาพกล่องวงจรปิด ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.สำโรงใต้ สมุทรปราการ พร้อมด้วยรถยนต์เก๋งยี่ห้อ โตโยต้า สีขาว ทะเบียน กต 4801 สมุทรปราการ พร้อมด้วยอาวุธปืนยาวบีบีกัน เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ
นายเกรียงศักดิ์ หรืออู๊ด คนที่ถือปืน ยาว ได้เล่าว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นบริเวณหน้าร้านสนุกเกอร์แห่งหนึ่งภายในตลาดนัดเลียบด่วนบางหญ้าแพรก ตำบลบางหญ้าแพรก อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ โดยก่อนหน้านี้ นาย ณรงค์ชัย หรือเบิร์ด ซึ่งเป็นหลานชายตนได้มีเรื่องกับวัยรุ่นในพื้นที่ จนต้องใช้ชีวิตแบบหลบ ๆ ซ่อน ๆ เนื่องจากกลัวเรื่องความปลอดภัย หลังจากที่ตนทราบเรื่องและทราบว่าหนึ่งในกลุ่มวัยรุ่นที่มีเรื่องกับหลานชายตนมาเล่นสนุกเกอร์ จึงพากันมาเจรจาพูดคุยให้จบเรื่อง หลานชายจะได้ไปทำงานตามปกติ ไม่ต้องคอยหลบซ่อนอีก เมื่อเดินทางไปถึงพบว่าฝ่ายตรงข้ามมีจำนวนหลายคน จึงนำเอาปืนบีบีกันที่อยู่ในรถถือลงไปข่มขู่คู่กรณี เพราะเห็นว่าอีกฝ่ายอยู่กันหลายคน เมื่อพูดคุยเสร็จก็พากันกลับบ้านโดยไม่ได้มีเรื่องหรือทำร้ายร่างกายกันแต่อย่างใด จนกระทั่งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจติดต่อไปให้มามอบตัวเนื่องจากปรากฏเป็นข่าว จึงพากันมามอบตัวเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจในวันนี้ ส่วนสาเหตุที่ต้องถือปืนไปข่มขู่นั้น เพื่อต้องการให้เรื่องจบโดยที่ไม่มีฝ่ายใดสูญเสียหรือมีเรื่องมีราวกันอีก
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจยึดอาวุธปืน บีบีกัน กระบอกที่นำลงไปข่มขู่เอาไว้ พร้อมบันทึกภาพทำประวัติ และลงบันทึกประจำวันเอาไว้เป็นหลักฐานก่อนปล่อยตัวกลับไป เนื่องจากขณะนี้ยังไม่มีผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนแต่อย่างใด หากมีผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความก็จะเรียกตัวมาดำเนินการตามกฎหมายภายหลัง
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: