วินรถจักรยานยนต์รับจ้าง คู่กรณีที่ยิงกันหน้าห้างแห่งหนึ่ง ถนนหลังวัดหนามแดง ตำบลบางแก้ว อำเภอบางพลี สมุทรปราการ ได้เดินทางเข้ามอบตัวแล้ว พร้อมให้การรับสารภาพ และอ้างว่าป้องกันตัว ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางแก้ว จะคุมตัวไปทำแผนที่เกิดเหตุ
จากกรณีเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 8 กันยายน 2563 วินรถจักรยานยนต์รับจ้าง 2 ฝ่ายเปิดศึกสาดกระสุนปืนสนั่นหน้าห้างชื่อดัง ถนนหลังวัดหนามแดง ตำบลบางแก้ว อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืน ขนาด .38 ซุปเปอร์ ตกกระจายเกลื่อนพื้น จำนวน 8 ปลอก และมีรถยนต์ชาวบ้านถูกกระสุนปืนยิง ได้รับความเสียหาย 1 คัน หลังเกิดเหตุคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่ายต่างแยกย้ายหลบหนี และเมื่อช่วงเช้าของวานนี้ที่ 9 กันยายน 2563 นายสมเจต ปอเจริญ อายุ 55 ปี เจ้าของวินจักรยานยนต์หน้าห้างหนึ่งในผู้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงต่อสู่ ได้เข้ามอบตัวแล้ว พร้อมด้วยอาวุธปืนแบบลูกโม่ขนาด .22 ที่ใช้ก่อเหตุ ตำรวจ สภ.บางแก้ว ได้นำตัวไปชี้ที่เกิดเหตุเพื่อประกอบสำนวนการสอบสวน
ล่าสุดในวันนี้ที่ 10 กันยายน 2563 นายประยูร โหงอ่ำ อายุ 47 ปี คู่กรณีที่ใช้อาวุธปืนยิงต่อสู้ได้เดินทางเข้ามอบตัวกับ พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รอง ผบช.ภ.1 ที่ได้เดินทางมาติดตามความคืบหน้าของคดีดังกล่าว พร้อมด้วยอาวุธปืนขนาดแบบแม็กกาซีนขนาด .38 ซุปเปอร์ ที่ใช้ก่อเหตุ โดยนายประยูร ได้ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนได้เดินไปเคลียร์เรื่องวิน ซึ่งตนก็บอกว่าไม่มีอะไรเพียงแต่จอดให้เป็นที่อย่าขยับเข้าเหมือนแย่งลูกค้ากัน ซึ่งจริงแล้วมันคนละฝั่งกัน ก็ต้องแล้วแต่ผู้โดยสารจะขึ้น ถ้าเขาจะไปทางโน้นเขาก็ไปขึ้นทางโน้น แต่เขาจะมาทางนี้เขาก็ต้องขึ้นทางตนผู้โดยสารเขาก็รู้อยู่แล้วใครจะเลือกขึ้นทางไหนก็เลือกขึ้นเอาตนก็ไม่เคยคิดอะไร ตอนที่ลูกน้องเขาแย่งปืนตนก็ยังขยับถอยหนี ส่วนปืนที่ตนต้องพกติดตัวนั้นด้วยหน้าที่ตนเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านต้องดูแลท้องที่ตัวเองอยู่แล้ว ปกติก็ไม่ได้พกติดตัว เผื่อผู้ใหญ่จะให้ออกตรวจเวลาไหนตนก็ต้องเตรียมเอาไว้ จริง ๆ แล้วไม่ได้ตั้งใจว่าจะพกปืนติดตัวไป แต่ในวันนั้นผู้ใหญ่ได้บอกตนว่าในช่วงเย็นจะออกตรวจพื้นที่ ตนก็เลยพกปืนติดตัวไปด้วย และเขายิงมามีปืนจะให้ตนหลบเหรอก็ตายอยู่ดี ถ้าไม่ยิงสวน ตนก็ต้องป้องกันตัวเอง คือชั่วโมงนั้นก็ต้องป้องกันตัวเอง ถามว่ากลัวหรือเปล่า ก็ชีวิตตน ตนก็อยากขอโทษต่อสังคมและตนก็ไม่ได้ตั้งใจ ตนแค่ป้องกันตัวเอง ตนไม่คิดจะทำร้ายใคร คือถ้าต่างคนต่างอยู่มันก็จบแล้วตนไม่เคยไปอะไร หลังจากที่นายประยูร ให้ปากคำเรียบร้อยแล้ว พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รอง ผบช.ภ.1 พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางแก้ว ได้คุมตัวนายประยูรมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังจุดที่เกิดเหตุบริเวณหน้าห้างบิ๊กซี สาขาหลังวัดหนามแดง ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ
พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รอง ผบช.ภ.1 ได้กล่าวว่า จากคำให้การของผู้ต้องหาและทำแผนเมื่อสักครู่ เป็นลักษณะที่ว่าดวลปืนกันในระยะกระชั้นชิด ซึ่งเป็นอันตรายต่อพี่น้องประชาชนที่สัญจรไปมา ตรงนี้ตนได้สั่งการให้ทางพื้นที่เพิ่มมาตรการป้องกันเหตุโดยเฉพาะการตั้งจุดตรวจจุดสกัดและการระดมกวาดล้าง โดยเฉพาะการเข้าตรวจค้นบุคคลกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งเราข้อมูลอยู่แล้วเกี่ยวกับอาวุธปืนอาวุธสงคราม เหตุการณ์ในครั้งนี้เป็นลักษณะวินต่อวินมันไม่ควรเกิดขึ้น เพราะต่างคนต่างทำมาหากินกันโดยอาชีพที่สุจริต ซึ่งอีกวินหนึ่งก็เคยมีต้องโทษในคดีอาญาฆ่าผู้อื่นมา ซึ่งตนได้สั่งการไปยังผู้บังคับการจังหวัดแล้วให้เพิ่มความเข้มในเรื่องนี้และต้องตรวจสอบทุกวินอย่างให้มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีกในพื้นที่ของภาค 1 และจังหวัดสมุทรปราการ ในส่วนพยานหลักฐานนอกจากภาพจากกล้องวงจรปิดแล้วเรายังมีพยานบุคคลรวมทั้งวัตถุพยานคือปลอกกระสุนที่ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ ซึ่งได้สั่งการณ์ให้เร่งรัดส่งตรวจพิสูจน์ ว่าอาวุธปืนนี้เคยก่อเหตุที่ไหนบ้าง ส่วนข้อหาก็คือพยามยามฆ่าผู้อื่น และมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่รับอนุญาตและพกพาไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะ และยิงอาวุธปืนโดยไม่มีเหตุอันควร แต่สิ่งต่าง ๆ เราต้องตรวจสอบประวัติว่าทั้งสองฝ่ายเคยมีคดีอะไรมาก่อนหรือไม่ และอาวุธปืนทั้งหมดที่เราตรวจยึดเราก็จะส่งตรวจเปรียบเทียบคดีก่อน ๆ ทั้งหมด และจากพฤติกรรมของทั้งสองฝ่ายที่ยึดได้มันไม่ได้ซื้อเอาไว้เพื่อป้องกันตัวเองและทรัพย์สินมาก่อเหตุแบบนี้ อาจจะเป็นอันตรายต่อชีวิตและร่างกายกับพี่น้องประชาชนผู้บริสุทธิ์เราจะตรวจสอบในเชิงลึก ถ้าไม่มีเหตุผลอันสมควรเราก็จะเสนอนายทะเบียนให้ถอนใบอนุญาต
