ศาลอุทธรณ์ อ่านคำพิพากษาคดี เจ้าของเนอสเซอรี่และพี่เลี้ยงทำร้ายเด็ก 6 ขวบดับ พิจารณาปรับบทกฎหมายจากเดิม ยกฟ้องจำเลยทั้งสอง ในข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุทำให้ถึงแก่ความตาย เป็นการกระทำการโดยประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
จากกรณีที่นางสาว วราลี เสริมจันทร์ มารดาของเด็กชายจตุภัทร วรศาสตร์ อายุ 11 เดือน หรือน้องนาวา ผู้ตายได้เข้าร้องขอความเป็นธรรมสื่อมวลชน จากการที่ตนเองนำน้องนาวา ไปฝากเลี้ยงที่เนอสเซอรี่ ครูอ้อ ภายในหมู่บ้านสวัสดี เลขที่ 986 / 116 หมู่ 4 ตำบลแพรกษา อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ ได้เพียง 6 วัน ลูกชายก็มาเสียชีวิตแบบมีเงื่อนงำ เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 13.25 น.วันที่ 25 เม.ย.2561 กระทั่งผล ทางนิติวิทยาศาสตร์ออก มาแล้วว่าน้องเสียชีวิตจากเหตุสมองขาดอากาศหายใจ ซี่โครงซีกที่ 2 และ 4 แตก, ม้ามแตก ทำให้เป็นหลักฐานมัดตัว นางกมลวรรณ จีนจะโปะ เจ้าของเนอสเซอรี่ และ นางนางอัมพร ดาวเรรัมย์ พี่เลี้ยงก่อนที่ทั้งคู่จะถูกพนักงานสอบสวน บางปู แจ้งข้อหา ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุถึงแก่ความตาย
ข่าวน่าสนใจ:
- ภาคธุรกิจเอกชนหอการค้าชัยภูมิชี้แนวทางรัฐบาลพลิกวิกฤตเศรษฐกิจไทยฝ่าวิกฤตโลก!
- ตรัง ชาวบ้านสืบสานอนุรักษ์การปลูกข้าวไร่ไว้กินเองครอบครัวเหลือขาย
- ศค.จชต. สร้างการรับรู้สัญจร เพื่อขับเคลื่อนนโยบายการศึกษา “เรียนดี มีความสุข”…
- พร้อมรับสมัครเลือกตั้งนายกและสมาชิกสภา อบจ.พังงา เชิญชวนคนดีมีความสามารถมาสมัคร 23-27 ธันวาคมนี้
ต่อมาวันที่ 16 ส.ค.62 ศาลชั้นต้น ได้พิพากษาว่าจำเลยทั้งสองมีความผิด ร่วมกันทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตาย จำคุกคนละ 3 ปี ให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชดใช้คำสินไหมทดแทนเป็นเงิน 820,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปีของต้นเงินดังกล่าวนับตั้งแต่วันที่ 25 เม.ย.61 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จคำขออื่นนอกจากนี้ให้ยกฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ ต่อมา นางกมลวรรณ ยืนประกันตัวศาลชั้นต้น เพื่อออกมาต่อสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรม ส่วนนางอัมพร พี่เลี้ยงไม่ขอสู้ ถูกคุมตัวเข้าเรือนจำกลางสมุทรปราการ ตามทีได้เสนอข่าวไปนั้น
ความคืบหน้าในวันนี้ที่ 24 กันยายน 2563 ที่ศาลจังหวัดสมุทรปราการ ศาลอุทธรณ์ ภาค 1 นัดฟังคำพิพากษา คดีแดง อ 6016 / 61 คดีแดง อ 1261 / 62 พนักงานอัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้องนางกมลวรรณ จีนจะโปะ จำเลยที่ 1 และนางอัมพร ดาวเรรัมย์ จำเลยที่ 2 ในข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกาย ด.ช.จตุภัทร วรศาสตร์ หรือ น้องนาวา อายุ 11 เดือน เป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย โดยศาลพิเคราะห์ พยานหลักฐานของ โจทก์ ของจำเลย ซึ่งได้ขอเบิกความสู้คดีในชั้นอุทธรณ์ โดยศาลพิจารณาปรับบทกฎหมายจากเดิม ยกฟ้องจำเลยทั้งสอง ในข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุทำให้ถึงแก่ความตาย เป็นกระทำการโดยประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย สำหรับโทษจำคุกจำเลยทั้งสองนอกจากที่แก้ ให้เป็นไปตามคำพิจารณาศาลชั้นต้น จำคุกคนละ 3 ปี ร่วมกันชดใช้คำสินไหมทดแทนเป็นเงิน 820,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปีของต้นเงินดังกล่าวนับตั้งแต่วันที่ 25 เม.ย.61 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ
ส่วนบรรยากาศ ภายหลังจากนางวรารี เสริมจันทร์ และนายสถิตย์ ผิวอ่อน ทนายความ ได้ลงมาจากห้องพิจารณณาคดี นางวรีได้เดินถือรูปของน้องนาวา ออกมาด้วยสีหน้ากังวล ภายหลังจากได้ทราบว่า จำเลยทั้งสอง ได้ถูกพิจารณาจากโทษ ร่วมกันทำร้ายร่างกายเป็นเหตุทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย เป็นกระทำโดยประมาทเป็นเหตุทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย พร้อมกับกล่าวทั้งน้ำตาว่า สำหรับวันนี้หลังจากได้รับฟังคำพิพากษาตามที่ลงโทษจำเลยทั้งสองแล้ว ยังไม่เป็นไปตามที่ตนเองต้องการ เนื่องจากตนนั้นสูญเสียมาเยอะ เมื่อสี่เดือนก่อนตนเองก็เพิ่งจะสูญเสียสามีไป จึงทำให้ตนเองต้องต่อสู้เพียงคนเดียว โดยตนเองยืนยันว่าจะขอสู้เพื่อน้องนาวาให้ถึงที่สุด อยากฝากศาลให้ความยุติธรรมกับตนด้วยเนื่องเป็นจากเป็นฝ่ายสูญเสียไม่ได้ร่ำลาแม้กระทั่งลูก ส่วนฝ่ายจำเลยยังมีโอกาสได้ต่อสู้คดี อย่างไรก็ตามหลังจากนี้ตนเองจะได้ให้ทนายความเตรียมยืนคำร้องต่อสู้ในชั้นฎีกาต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: