วิศวกรรมสถานลงพื้นที่ตรวจโครงสร้างอาคารเบื้องต้นให้กับประชาชน และหน่วยงานราชการ ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุแก๊สระเบิดในเขต ต.เปร็ง อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ โดยได้ลงพื้นที่สำรวจโรงเรียนเปร็งวิสุทธาธิบดี ซึ่งเป็นโรงเรียนมัธยม ที่อยู่ห่างจากจุดที่ท่อก๊าซระเบิด 200 เมตร
ต่อมาเมื่อช่วงสายของวันนี้ ดร.ธเนศ วีระศิริ นายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) ได้นำผู้เชี่ยวชาญ ลงพื้นที่เพื่อสำรวจโครงสร้างเบื้องต้นให้กับประชาชน และหน่วยงานราชการ ที่ได้รับความเสียหายจากเหตุท่อก๊าซระเบิด ในเขต ต.เปร็ง อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ โดยได้ลงพื้นที่สำรวจโรงเรียนเปร็งวิสุทธาธิบดี ซึ่งเป็นโรงเรียนมัธยม ที่อยู่ห่างจากจุดที่ท่อก๊าซระเบิด 200 เมตร เป็นเหตุให้อาคารเรียน อุปกรณ์ต่างๆ ของราชการ ได้รับความเสียหาย และเด็กนักเรียนได้รับบาดเจ็บ โดยผู้เชี่ยวชาญได้ใช้อุปกรณ์ตรวจสอบความหนาแน่นของอาคารซีเมนต์ จำนวน 2 อาคารคือ อาคาร 3 ชั้น อาคาร 2 ชั้นที่ชั้นล่างจะเป็นโรงอาหาร และบ้านพักครู
ข่าวน่าสนใจ:
- กกต.ตรัง พร้อมเปิดสนาม จัดเลือกตั้งอบจ. เปิดยิม 4,000 ที่นั่งรับสมัคร พื้นที่กว้างขวางรองรับกองเชียร์ผอ.กกต.ตรัง เผยการข่าวพบ 3…
- ศค.จชต. สร้างการรับรู้สัญจร เพื่อขับเคลื่อนนโยบายการศึกษา “เรียนดี มีความสุข”…
- ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา>ชาวพุทธ+ทพ.48 ร่วมทอดผ้าป่า
- ตรัง สถาบันพระบรมราชชนกเตรียมผลิต 9 หมอรุ่นใหม่ นวัตกรรมสุขภาพไทยสู่ระดับโลก
ดร.ธเนศ วีระศิริ นายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ได้กล่าวว่า จากการลงพื้นที่สำรวจบ้านเรือนประชาชนที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ในครั้งนี้เราจะดูที่โครงสร้างของบ้านเป็นหลัก ถ้าโครงสร้างกระดูกของบ้านไม่มีการแตกร้าว รอยต่อมีการประสานกันดี ซึ่งอาการดังกล่าวมาจากการตรวจเช็ค ไม่ใช้มองด้วยตาเปล่า เพราะอาคารบางแห่งดูจากภายนอกไม่มีอะไรแต่พอเราใช้คลื่นตรวจเข้าไปข้างในแล้วมันอาจจะอ่อนก็ได้เพราะอย่างนั้นขอตรวจอย่างละเอียดดีกว่า ในเบื้องต้นมองด้วยสายตาจากรูปทรงและรูปร่างยังไม่เอียงยังไม่แตกร้าวในลักษณะที่บ่งชี้ว่ามันจะล้มหรือพับไป ในเบื้องต้นเราสามารถเข้าได้ก่อน เข้าไปตรวจดูหมายถึงผู้ที่มีความชำนาญเข้าไปตรวจด้านในได้ แต่ประชาชนไม่จำเป็นก็ไม่สมควรเข้าเพื่อความปลอดภัย ส่วนอาคารของโรงเรียนเปร็งวิสุทธาธิบดี นั้นจากการตรวจพบว่า อาคารด้านหลังเกิดการขยับตัวและมีรอยแตกร้าวเดิมเพิ่มขึ้น ความร้อนทำให้สายไฟฟ้าในอาคารละลาย ควรจะต้องตรวจเช็คระบบไฟฟ้าว่า มีโอกาสและวงจรหรือไม่ ซึ่งตนเองได้คุยกับทาง ปตท. ว่าจะต้องตรวจเช็คอุปกรณ์ไฟฟ้าทั้งหมด โดยทางวิศวกรรมสถานยินดีจะส่งวิศวกรอาสา มาร่วมตรวจเช็คด้วย ซึ่งวันนี้จะใช้เครื่องมือตรวจโรงเรียน สถานีตำรวจ และบ้านเรือนประชาชน สำหรับการตรวจสอบในเบื้องต้นวันนี้พบว่า อาคาร 2 ชั้นรอยร้าวเดิมมีการขยายตัวเพิ่มขึ้น จึงมีข้อเสนอขอให้ทางโรงเรียน ปิดพื้นที่ไม่ให้ใช้อาคารดังกล่าว ซึ่งเป็นสถานที่ทานข้าวของเด็ก ๆ ส่วนบ้านของประชาชน ให้สังเกตว่ามีสายไฟฟ้ามีรอยไหม้ หรือไม่ ซึ่งบางที ก็ดู ภายนอกไม่เห็น ถ้าเป็นไปได้ควรให้ผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบก่อนที่จะใช้งาน
ด้าน รศ.สิริวัฒน์ ไชยชนะ อุปนายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบอาคารโรงเรียนเปร็งวิสุทธาธิบดีพบว่า อาคาร2 ชั้น รอยร้าวเดิมที่เคยมีมีความชัดเจนมากขึ้น เมื่อเจอความร้อนทำให้รอยร้าวขยายตัว ความร้อนเข้าไปด้านใน อาคาร มีผลกระทบแน่นอน ไม่สมควรใช้งานอาคาร จึงขอให้โรงเรียนปิดประกาศจุดอันตราย ส่วนเก้าอี้ โต๊ะต่างๆ ในโรงเรียนก็ต้องระวังในการใช้งานเพราะดูภายนอกอาจจะไม่เห็น ส่วนอาคารอีกหลังที่เป็น 3 ชั้น ไม่ค่อยมีผลกระทบมากแต่ถึงอย่างไรก็ต้องให้วิศวกรมาตรวจสอบ ยังละเอียดอีกครั้ง
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: