X

เปิดใจครูพละที่โบกธงชาติให้นักเรียนหนี เผยไม่คิดห่วงชีวิตตัวเองห่วงแต่นักเรียนต้องรอดทุกคน

เปิดใจครูพละ โรงเรียนเปร็งราษฎร์บำรุง ที่โบกธงชาติให้นักเรียนเห็นเพื่อนำทางพาหนีไปที่ปลอดภัย จากเหตุท่อส่งก๊าสระเบิด เผยไม่คิดห่วงชีวิตตัวเองห่วงแต่นักเรียนต้องรอดทุกคน

ภาพจากกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่ภายในโรงเรียนเปร็งราษฎร์บำรุง ซึ่งอยู่ห่างจากจุดที่ท่อส่งก๊าซระเบิดประมาณ 400 เมตร เป็นภาพเหตุการณ์ขณะท่อส่งก๊าซระเบิดเป็นช่วงที่นักเรียนอนุบาลกำลังนอนกลางวันอยู่ ครูในโรงเรียนต้องไปปลุกนักเรียนที่กำลังนอนหลับอยู่ในชั้นอนุบาลให้ลุกขึ้นมาวิ่งหนีตายกันอลหม่าน โดยมีผู้ปกครองที่ไปนั่งรอบุตรหลานช่วยเปิดประตูรั้วเหล็กด้านหน้าอาคารเรียนให้นักเรียนทั้งหมดหนีตายออกมา  ส่วนกล่องวงจรปิดอีกมุมหนึ่งเป็นภาพในขณะที่นักเรียนในชั้นประถมศึกษาของโรงเรียนเดียวกันกำลังทำกิจกรรมซักซ่อมการแสดงที่ใช้ธงชาติและธงสัญญาลักษณ์ของพระเจ้าอยู่หัวอยู่บนเวที หลังเกิดการระเบิดนักเรียนทั้งหมดได้วิ่งถือธงชาติลงมาจากเวทีก่อนที่จะวิ่งหนีตายออกนอกโรงเรียน จนธงชาติตกอยู่กับพื้น ซึ่งก็เป็นจังหวะเดียวกับที่ครูที่สอนวิชาพละศึกษา ได้วิ่งไล่ต้อนนักเรียนออกจากโรงเรียนผ่านมาเห็นจึงหยิบธงชาติขึ้นมาวิ่งนำนักเรียนออกไปอยู่ในจุดที่ปลอดภัย ก่อนที่จะวิ่งย้อนกลับเข้ามาดูภายในอาคารเรียนว่ายังมีนักเรียนหลงเหลืออยู่หรือไม่และหนีตายออกจากโรงเรียนเป็นคนสุดท้าย หลังมีการนำเสนอคลิปนี้ออกไปตามสื่อต่าง ๆ สร้างความประทับใจให้แก่ประชาชนเป็นอย่างมาก แม้ว่าในเวลาคับขับครูทุกคนก็ไม่ยอมทิ้งนักเรียนให้ตกอยู่ในอันตรายโดยที่ไม่ห่วงชีวิตของตนเอง

ขณะที่นายนครินทร์  เอกนิกร ครูพละศึกษาที่โบกธงชาติให้นักเรียนวิ่งตาม ได้เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนกำลังซ้อมการแสดงให้นักเรียนกิจกรรมภายในโรงเรียนที่มีธงชาติประกอบบนเวทีด้านหน้าอาคารเรียน ได้มีเสียงระเบิดดังขึ้น 3 ครั้ง ครั้งที่ 3 แรงที่สุดพร้อมลูกไฟขนาดใหญ่พุ่งขึ้นบนท้องฟ้า ตนจึงตะโกนบอกให้เด็ก ๆ นักเรียนทุกคนวิ่งลงจากเวที ในขณะที่ตนวิ่งต้อนนักเรียนให้ออกจากอาคารเรียน ซึ่งตอนนั้นตนคิดอะไรไม่ออกว่าจะทำอย่างไรให้นักเรียนทุกคนเห็นและวิ่งตาม พอดีตนเหลือบไปเห็นธงชาติ ที่นักเรียนที่ซ้อมกิจกรรมบนเวทีทำตกเอาไว้ที่พื้นตนจึงตัดสินใจหยิบธงชาติและโบกสะบัดและบอกให้นักเรียนทุกคนวิ่งตามออกมา คือความรู้สึกตนตอนนั้น ตนอยากให้นักเรียนทุกคนมีจุดรวมสัญญาณลักษณ์ให้พวกเขา และตามสิ่งหนึ่งสิ่งใดไป ซึ่งตอนแรกตนจะวิ่งเลยไปแล้ว ตนย้อนกลับมาหยิบธงอย่างน้อยให้พวกเขาตามธงออกไป คือทำให้เป็นสัญญาลักษณ์ ขณะนั้นตนไม่คิดห่วงชีวิตตัวเองเลย คิดแต่เพียงว่าให้เด็กนักเรียนทุกคนออกจากอาคารเรียนให้เร็วที่สุดและไปให้ไกลที่สุด ซึ่งตนได้วิ่งวนกลับเข้ามาดูนักเรียนอีก 2 ครั้งมาดูว่านักเรียนออกไปจากอาคารหมดหรือยังจนแน่ใจว่านักเรียนออกไปหมดแล้วตนจึงออกเป็นคนสุดท้าย ความรู้สึกของตนขณะนั้นไม่รู้สึกเป็นห่วงตัวเองเลยแต่หวงเด็กนักเรียนมากกว่า

ด้านนายประวัติพงษ์  รอดกลาง ผู้อำนวยการโรงเรียนเปร็งราษฎร์บำรุง  ได้กล่าวว่า จากเหตุการณ์ท่อส่งก๊าซระเบิด หลังเหตุการณ์สงบลงเราได้ตรวจสอบนักเรียนทุกคนพบว่ามีได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยที่เกิดจากการวิ่งและหกล้ม แต่มีบ้านของนักเรียนที่ถูกไฟไหม้มีด้วยกัน 4 รายทำให้ไม่มีที่พักอาศัยเท่าที่เราติดตามทราบว่าไปพักอยู่กับญาติ และไปเช่าบ้านอยู่บ้างซึ่งทั้ง 4 รายนี้เราก็ได้ติดต่อและดูแลเด็กทั้ง 4 ไปส่วนหนึ่งแล้วในเบื้องต้น และในจุดที่เกิดเหตุกับโรงเรียนเราห่างกันประมาณ 300 – 400 เมตร ขณะเกิดเหตุได้ยินเสียงชัดเจนมากและมีไอร้อนพุ่งเข้ามาซึ่งร้อนมาก ตั้งแต่เกิดเหตุขณะนี้เราได้หยุดการเรียนการสอนเอาไว้ก่อน เนื่องจากตั้งแต่ระเบิดขึ้นมาโรงเรียนได้ให้ใช้พื้นที่เปิดเป็นศูนย์ดูแลช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยและได้รับผลกระทบตั้งแต่วันที่เกิดเหตุมาจนถึงวันนี้ศูนย์ดูแลช่วยเหลือผู้ประสบภัยก็ยังคงเปิดอยู่ไปจนถึงวันศุกร์ที่จะถึงนี้  ประกอบเราต้องได้รับการตรวจสอบอาคารเรียนและระบบไฟฟ้าจึงทำให้ยังไม่พร้อมที่จะเปิดการเรียนการสอน และคาดว่าน่าจะเปิดการเรียนการสอนได้ในวันจันทร์ที่ 2 พฤศจิกายน  ส่วนขวัญและกำลังใจของนักเรียนหลังเกิดเหตุ ในช่วงนี้ทางครูของเราต้องอยู่ช่วยเหลือในการประสาน จึงทำได้เพียงโทรศัพท์ไปสอบถามผู้ปกครองและนักเรียนเท่านั้นแต่ยังไม่ได้ลงไปเยี่ยมดูแต่อย่างใด และพึ่งลงไปเยี่ยมที่บ้านนักเรียนเมื่อช่วงเช้าของวันนี้และก็ให้เด็กกลับมาเอากระเป๋าและอุปกรณ์ในการเรียนและรองเท้า เนื่องจากขณะเกิดเหตุนักเรียนทุกคนวิ่งไปแต่ตัว ซึ่งในวันนี้เราก็พึ่งได้พบกับเด็กนักเรียนของเราโดยมีเจ้าหน้าที่มวลชนสัมพันธ์ ได้มาทำกิจกรรมร่วมกันเด็ก ๆ นักเรียนเพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้และมีของมาแจกเด็ก ๆ ทุกคนด้วย ซึ่งดูจากสีหน้าแววตาของเด็ก ๆ แล้วก็มีความสุขดีน่าจะคลายกังวลไปได้ระดับหนึ่งแล้ว ซึ้งการเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ตนได้มีการพูดคุยกับทางบริษัท ปตท.แล้วว่าให้มาจัดกิจกรรมและทำให้เด็กมีขวัญและกำลังใจเพื่อให้คลายความตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งทาง ปตท.ก็ได้รับปากว่าจะเข้ามาจัดกิจกรรมฟื้นฟูสภาพจิตใจให้กับนักเรียนและครูอาจารย์ตลอดปี

ขณะเกิดเหตุเราได้เห็นผู้ใต้บังตับบัญชาของเรามีความห่วงใยนักเรียนทุกคนยอมออกจากอาคารเรียนเป็นคนสุดท้ายตนก็รู้สึกปลื้มใจเป็นอย่างมาก ที่ครูทุกคนรักลูกศิษย์มากกว่าลูกตัวเอง อย่างครูที่ถือธงลูกเขาก็ยังเล็กอยู่และภรรยาก็ตั้งท้องอยู่ด้วย เท่าที่เห็นเขาไม่ได้ห่วงคนในครอบครัวเลยแต่ห่วงลูกศิษย์ก่อนเอาลูกศิษย์ให้รอดทุกคนคือทุกคนต้องรอด ซึ่งก็ได้รับการชื่นชมจากทุก ๆ ฝ่ายโดยเฉพาะตนเองรู้สึกปลื้มใจและภูมิใจกับลูกน้องผู้ใต้บังคับบัญชามากเลย

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน