หนุ่มวัย 30 ปี ป่วยเป็นโรคซึมเศร้าใช้เชือกผูกคอตัวเองกับที่หมุนบานเกร็ดดับคาห้องนอน ภายในบ้าน ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ
เมื่อเวลา 23.30 น.วันที่ 28 ตุลาคม 2563 ร.ต.อ.ณัฐพล ชุมภู รองสารวัตรสอบสวน สภ.สำโรงเหนือสมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีเหตุชายผูกคอเสียชีวิตภายในบ้านเลขที่ 516 / 129 หมู่ 4 ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนและมูลนิธิป่อเต๊กตึ้งเดินทางเข้าตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นบ้าน 2 ชั้นภายในห้องนอนชั้นที่ 2 ได้พบร่างของนาย สมัชชา วงษ์เทศ อายุ 30 ปี ใช้เชือกผ้าสีขาวผูกคอตัวเองกับที่หมุนบานเกร็ดหน้าต่างเสียชีวิตในสภาพนอนราบอยู่กับพื้นห้องสวมใส่กางเกงขาสั้นลายพรางเพียงตัวเดียว ขึ้นอืดส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ จากการตรวจสอบภายในห้องนอนที่เกิดเหตุไม่พบร่องรอยการรื้อค้นแต่อย่างใด จึงได้ให้มูลนิธินำศพลงมาตรวจสอบตามร่างกายไม่พบบาดแผลหรือร่องรอยการถูกทำร้ายแต่อย่างใด จึงได้มอบศพให้มูลนิธิส่งชันสูตรที่สถาบันนิติเวช
จากการสอบถามแม่ของผู้ตาย ได้เล่าว่า ในห้องดังกล่าวผู้ตายพักอาศัยอยู่คนเดียว ส่วนห้องที่อยู่ติดกันเป็นห้องของลูกสาวตนซึ่งเป็นน้องสาวผู้ตายพักอยู่ ส่วนภรรยาของผู้ตายไม่ได้พักอยู่ด้วย ที่ผ่านมาผู้ตายมักเก็บตัวเงียบอยู่แต่ในห้องไม่ชอบสุงสิงกับใคร และจะลงมาชั้นล่างก็ต่อเมื่อจะลงมาหาอะไรขึ้นไปกินบนห้องเท่านั้น ก่อนเกิดเหตุเมื่อประมาณเมื่อวันจันทร์ที่ 26 ตุลาคมที่ผ่านมาภรรยาของผู้ตายได้เดินทางมาหาผู้ตายก่อนที่และกลับไปในช่วงเย็นของวันนั้นและก็ไม่มีใครเห็นผู้ตายออกมาจากห้องนอนเลย ทุกคนจึงคิดว่าผู้ตายน่าจะกลับไปหาลูกสาวที่บ้านภรรยา จนกระทั่งในช่วงหัวค่ำของวันนี้ภรรยาผู้ตายได้โทรมาถามว่าโทรหาผู้ตายไม่มีใครรับสาย ตนจึงได้พ่อของผู้ตายขึ้นไปเคาะประตูเรียกผู้ตายอยู่นานแต่ก็ไม่มีใครตอบรับจนกระทั่งภรรยาของผู้ตายเดินทางมาถึงจึงได้ช่วยกันพังประตูเข้าไปจึงพบว่าผู้ตายผูกคอตัวเองเสียชีวิตกับตัวหมุนหน้าต่างบานเกร็ดในสภาพขึ้นอืด จึงรีบโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ ส่วนสาเหตุตนก็ไม่ทราบเช่นกันเพราะผู้ตายไม่เคยเล่าอะไรให้ใครฟังเลยจึงไม่ทราบสาเหตุ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่าผู้ตายน่าจะเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 วัน ส่วนสาเหตุคาดว่าผู้ตายน่าจะป่วยเป็นโรคซึมเศร้าชอบเก็บตัวเงียบคนเดียวและไม่สุงสิงกับใคร จึงผูกคอตัวเองตายดังกล่าว อย่างไรก็ตามจะได้ทำการสอบสวนข้อเท็จจริงอีกครั้งเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
