เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.บางแก้ว สมุทรปราการ รวบตัวโจ๋วัย 19 ปี หลังทำทีเป็นวิ่งออกกำลังกายตระเวนเข้าตามหมู่บ้านหรูย่านบางแก้ว ก่อนย่องเข้าไปลักทรัพย์ หลายหลัง
เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 3 พฤศจิกายน 2563 พ.ต.อ.ประสาทพร ศรีสุโข ผกก.สภ.บางแก้ว สมุทรปราการ พ.ต.ท.ศุภฤกษ์ จงรักษ์ รอง ผกก.สส. พ.ต.ต.ชินวัฒน์ หมื่นไกร สว.สส.พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ได้ร่วมกันจับกุมตัวนายกิตติพงษ์ หรือเต้ย ชิดนอก อายุ 19 ปี ผู้ต้องหา ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยทำลายสิ่งกีดขวาง พร้อมของกลางจำนวน 16 รายการซึ่งส่วนใหญ่เป็นพระเครื่อง โดยจับกุมได้ที่บริเวณหน้าห้องน้ำปั้มน้ำมันคาลเท็ก ถนนเทพรัตน์ขาเข้า หมู่ 13 ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ
ทั้งนี้สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ได้มีผู้เสียหายจำนวนหลายรายซึ่งส่วนใหญ่มีบ้านพักอยู่ภายในหมู่บ้านหรู ย่านตำบลบางแก้ว ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.บางแก้ว สมุทรปราการ ถูกคนร้ายตระเวนงัดประตูเข้าไปลักทรัพย์มีทั้งเงินสดและพระเครื่องรวมทั้งทรัพย์สินอื่น ๆ นับร้อยรายการ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนจึงได้กระจายกำลังออกสืบสวนหาข่าวได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่บริเวณใกล้เคียงหมู่บ้านที่เกิดเหตุ จนกระทั่งได้พบชายต้องสงสัยอายุประมาณ 18-20 คน ที่แต่งกายคล้ายกับคนที่มาวิ่งออกกำลังกายได้ทำทีวิ่งออกกำลังกายเข้าไปตามหมู่บ้านต่างที่ผู้เสียหายอยู่ โดยมีกระเป้สีน้ำเงินสะพายหลังเข้าไปทุกครั้ง ก่อนที่จะวิ่งกลับออกมา เจ้าหน้าที่จึงเร่งสืบสวนหาข่าวจนกระทั่งทราบว่าชายคนดังกล่าวชื่อนายกิตติพงษ์ หรือเต้ย ชิดนอก อายุ 19 ปี มีบ้านพักอาศัยอยู่ในย่านตำบลบางพลีใหญ่ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ จึงได้กระจายกำลังออกติดตามจับกุมตัวนายกิตติพงษ์ ได้ที่บริเวณหน้าห้องน้ำภายในปั้มน้ำมันคาลเท็ก ริมถนนเทพรัตน์ ตำบลบางพลีใหญ่ จึงได้แสดงตัวเข้าทำการจับกุม ซึ่งขณะที่นายกิตติพง์ พบเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แสดงท่าทีมีพิรุธ และพยายามจะหลบหนีเจ้าหน้าที่จึงเข้าทำการจับกุมตัวเอาไว้ได้ จากการตรวจค้นภายในกระเป๋าเป้ ที่นายกิตติพงษ์ สะพายหลังอยู่ได้พบของกลางพระเครื่องที่ก่อเหตุลักมาจำนวนหลายรายการ จึงได้คุมตัวมาทำการสอบสวนที่โรงพัก สภ.บางแก้ว สมุทรปราการ
จากการสอบสวนนายกิตติพงษ์ ได้ให้การรับสารภาพว่า บุคคลที่ปรากฏในภาพกล้องวงจรปิดเป็นภาพของตนเอง ที่ทำทีเป็นชาวบ้านวิ่งออกกำลังกายโดยจะตระเวนเข้าไปวิ่งในหมู่บ้านหรูราคาแพง เพื่อดูลาดราว สบโอกาสบ้านไหนไม่อยู่ก็จะปีนรั้วเข้าไปใช้ไขควงเหล็กงัดประตูบ้านหรือหน้าต่างก่อนเข้าไปลักทรัพย์โดยจะเลือกลักเอาทรัพย์สินที่มีขนาดเล็กสามารถใส่กระเป๋าเป้ที่ตนเองสะพายมาได้เท่านั้น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพระเครื่องเงินสดโทรศัพท์มือถือและอื่น ๆ ที่สามารถใส่กระเป๋าได้ ก่อนที่จะปีนหลับออกมาและทำทีวิ่งออกกำลังกายผ่านป้อมยามหน้าหมู่บ้านออกมาทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ก่อนที่จะนำทรัพย์สินที่เป็นพระเครื่องแยกไปขายที่ร้านรับซื้อขายพระเครื่องในย่านตลาด ม.รามสอง เขตประเวศ และนำเงินที่ได้มาเที่ยวเตร่ และยอมรับว่าได้ก่อเหตุมาแล้วเกือบ 10 ครั้ง
เบื้อวงต้นเจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า ลักทรัพย์ในเคหะสถานในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ ก่อนควบคุมตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางแก้ว สมุทรปราการ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
