กลุ่มวัยรุ่นเจ้าถิ่นโชว์กร่างยกพวกเข้ามารุมทำร้ายกู้ภัย ขณะเข้าให้การช่วยเหลือคนเจ็บ จากอุบัติเหตุ รถจักรยานยนต์ชนคนเดินเท้า ภายในซอยวัดหอมศีล ตำบลบางพลีน้อย อำเภอบางบ่อ สมุทรปราการ
กลายเป็นประเด็นร้อนทางโซเชียล ชาวเน็ตวิพากษ์วิจารณ์กับเรื่องราวที่เกิดขึ้น เมื่อมีเพจของอาสาสมัครกู้ภัยป่อเต็กตึ้งอำบางบ่อ ได้ออกมาโพสต์เรื่องราวที่อาสากู้ภัยเข้าแจ้งความกับทางพนักงานสอบสวน สภ.บางพลีน้อย สมุทรปราการหลังจากที่ถูกทำร้ายร่างกาย โดยโพสต์ข้อความพร้อมกับรูปภาพ ระบุข้อความว่า ขอประณามการกระทำในครั้งนี้
เวลาประมาณ 18:30 อาสาฯป่อเต็กตึ๊งบางบ่อ ออกปฏิบัติการตามคำสั่งกู้ชีพปราการ ตรวจสอบอุบัติเหตุ รถจักรยานยนต์ชนคนเดินเท้า ซอยวัดหอมศีล ระหว่างปฏิบัติหน้าที่นำคนเจ็บส่งโรงพยาบาล จุฬารัตน์ 11 แล้ว มีอาสาฯป่อเต็กตึ๊งบางบ่อ อยู่ในที่เกิดเหตุเพื่อรักษาที่เกิดเหตุและวัตถุพยาน ถ่ายภาพเพื่อรอพนักงานสอบสวนของ สภ.บางพลีน้อย ขณะกลับฐานได้มีบุคคลมาก่อกวน ด้วยการมาดึงกุญแจรถ อาสาฯป่อเต็กตึ๊ง บางบ่อ ทางอาสาฯ ได้ไปขอกุญแจคืนกลับถูกกล่าวหาว่าจะไปทำร้ายร่างกายบุคคลดังกล่าว ขณะนั้นได้มีกลุ่มวัยรุ่นประมาณ 4-5 คนอ้างว่าเป็นหลานของบุคคลที่เข้ามาก่อกวน ได้เข้ารุมทำร้ายด้วยการชกต่อย ทางอาสาฯไม่ได้ตอบโต้แต่อย่างใด แถมอ้างตัวใหญ่โตว่ารู้จักผู้หลักผู้ใหญ่ในพื้นที่ ท้าทายว่า เรียกมาให้หมดพวกกู้ภัยมึงเนี่ย กูจะได้ปิดซอยตี คำพูดแบบนึ้ออกจากคนที่รู้จักผู้หลักผู้ใหญ่ในพื้นที่อย่างนั้นหรือ ขณะที่ทางอาสาฯที่ถูกทำร้ายได้เข้ามาแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.บางพลีน้อย เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย หลังจากเรื่องราวดังกล่าวถูกโพสต์ลงทำให้มีชาวเน็ตแห่แชร์และเข้ามาคอมเม้นจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่ต่างพากันประณามการกระทำของกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุทำร้ายกู้ภัยในครั้งนี้
ล่าสุดผู้สื่อข่าวเราเดินทางไปพบกับนาย ศุภชัย คำสี อาสาสมัครกู้ภัยที่ถูกทำร้ายร่างกาย พบว่าเจ้าตัวมีบาดแผลฟกซ้ำตามร่างกายและมีบาดแผลปูดบวมที่คางและต้นคอ จากการถูกรุมทำร้ายร่างกาย เจ้าตัวเล่าว่า ตนและเพื่อนอาสาสมัครได้รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุรถคนเดินทางภายในซอยวัดหอมศิล ก็นำกำลังไปตรวจสอบและให้ความช่วยเหลือ เมื่อเดินทางไปถึงก็พบว่ามีคนเจ็บ 1 ราย จึงปฐมพยาบาลและให้อาสาอีกชุดนำส่งโรงพยาบาล ระหว่างนั้น ตนเองจึงเฝ้าอยู่ที่เกิดเหตุ เนื่องจากเป็นเหตุที่มีรถจักรยานยนต์ชนคนเดินเท้าได้รับบาดเจ็บ จะต้องมีทางพนักงานสอบสวนมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ ระหว่างนั้นมีหญิงคนหนึ่งที่อ้างตัวว่าเป็นกำนันในพื้นที่พยายามเข้ามาเคลียร์ และจะให้คนขับรถซึ่งเป็นคู่กรณีซึ่งอยู่ในอาการคล้ายคนเมาสุรา ขับรถออกจากที่เกิดเหตุไปโดยไม่รอเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตนเห็นว่าเป็นเหตุทางคดี เพราะมีผู้บาดเจ็บและมีคู่กรณี อีกทั้งหวั่นว่าจะมีการทำลายวัตถุพยานและหลักฐานในที่เกิดเหตุหรืออาจมีการเปลี่ยนตัวคนขับ จึงนำโทรศัพท์มือถือมาถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐานให้กับทางพนักงานสอบสวน ซึ่งก็ถือว่าเป็นการปฏิบัติงานในฐานะผู้ช่วยเจ้าพนักงานตามปกติเหมือนที่เคยปฏิบัติมา หลังจากที่ตนถ่ายรูปทำให้ฝ่ายตรงข้ามไม่พอใจและมีหญิงรายหนึ่งเดินไปชักกุญแจออกจากรถตน ตนจึงเข้าไปแย่งกุญแจรถกลับและบอกหญิงคนดังกล่าวให้คืนกุญแจและไม่มีสิทธ์มาชักกุญแจรถตนไปแต่กลับถูกหญิงคนดังกล่าวพักอกจนไปติดกับท้ายรถจากนั้นก็มีกลุ่มวัยรุ่นไม่ต่ำ 5 คน กรูกันเข้ามาทำร้ายร่างกายตนเองจนได้รับบาดเจ็บดังกล่าว เบื้องต้นตนเองได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนไว้แล้วและขอเรียกร้องความเป็นธรรมกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ทำคดีตรงไปตรงมา เนื่องจากฝ่ายผู้ก่อเหตุมีการข่มขู่และอ้างเป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่จึงเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม
ขณะที่ ผู้สื่อข่าวติดต่อไปยังทางด้าน พ.ต.อ.ปิยวุฒิ แก้วมณี ผกก.สภ.บางพลีน้อย ผ่านทางโทรศัพท์ ระบุเบื้องต้นได้รับรายงงานเรื่องนี้ในเบื้องต้นแล้ว โดยในวันพรุ่งนี้ตนเองจะตรวจสอบข้อเท็จจริงและสั่งดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายอย่างเด็ดขาด โดยยืนยันจะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่ายโดยจะต้องดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ก่อเหตุทุกคนโดยไม่สนว่าเป็นใครหากพบว่ามีความผิดก็จะดำเนินการตามกฎหมาย
