สาวเจ้าของแมวพันธ์ไทยวัย 1 ปี 21 วัน หอบหลักฐานเข้าแจ้งความหลังติดใจการรักษาของสัตว์แพทย์เจ้าของโรงพยาบาลสัตว์แห่งหนึ่ง ในย่านตำบลแพทย์แพรกษาใหม่ รักษาแมวแล้วเสียชีวิต
เมื่อเวลา 15.30 น.วันที่ 7 ธันวาคม 2563 น.ส.สุกัญญา อ่อนศรีทอง อายุ 37 ปี ได้หอบเอกสารใบรักษาและใบชันสูตรการเสียชีวิตของเจ้าแมวพันธ์ไทยวัย 1 ปี 21 วัน ชื่อไทเกอร์ และเอกสารการร้องเรียนของสำนักงานสัตว์แพทย์สภา เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ ร.ต.ท.อดิเทพ โพธิ์เจริญ รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมือง สมุทรปราการ หลังติดใจขั้นตอนการรักษาของสัตว์แพทย์เจ้าของโรงพยาบาลสัตว์แห่งหนึ่ง ในย่านตำบลแพทย์แพรกษาใหม่ ที่รักษาเจ้าแมวที่ชื่อไทเกอร์และเสียชีวิต ทั้ง ๆ ที่ก่อนไปรับการรักษาอาการทุกอย่างยังเป็นปกติ
โดย น.ส.สุกัญญา ได้เล่าว่า ตนเลี้ยงเจ้าไทเกอร์ ซึ่งเป็นแมวพันธ์ไทยลายสลิดมาตั้งแต่แรกเกิด จึงมีความรักและผูกพันธุ์เหมือนคนในครอบครัวจนอายุได้ 1 ปีเศษด้วยความซนของเจ้าแมวที่เริ่มโตเป็นวัยรุ่นก็ชอบกัดและเล่นสิ่งของต่างโดยเจ้าไทเกอร์ชอบกัดผ้าจนเส้นด้ายหลุดออกมา ด้วยความวิตกของตนที่เกรงว่าเจ้าไทเกอร์อาจจะกินเส้นด้ายเข้าไปและจะเกิดอันตราย ในวันที่ 8 พฤศจิกายน ที่ผ่านมาตนได้พาเจ้าไทเกอร์ไปปรึกษากับสัตว์แพทย์ที่โรงพยาบาลสัตว์ แห่งหนึ่งในย่านตำบลแพรกษาใหม่ ซึ่งสัตว์แพทย์ของโรงพยาบาลสัตว์ดังกล่าวก็ได้ให้เจ้าไทเกอร์กลืนแป้งเข้าไปก่อนทำการเอ็กซเรย์ตรวจเช็คเส้นด้ายในลำไส้ ก็ปรากฏว่าไม่พบเส้นด้าย แต่กลับพบว่าแป้งที่ให้เจ้าไทเกอร์ กลืนลงไป ไปติดอยู่ที่กลางลำไส้ใหญ่ สัตว์แพทย์คนดังกล่าวจึงบอกว่าน่าจะเกิดจากที่เส้นด้ายเข้าไปพันอยู่ที่ลำไส้ใหญ่จึงทำให้แป้งที่กลืนลงไปติดค้างอยู่และมีความจำเป็นต้องทำการผ่าตัดเอาออก มิเช่นนั้นเจ้าไทเกอร์อาจจะเสียชีวิตได้ ด้วยความที่ตนรักเจ้าไทเกอรจึงได้ยินยอมให้สัตว์แพทย์ทำการผ่าตัดเอาสิ่งแปลกปลอมออกจากลำไส้ของเจ้าไทเกอร์ แต่เจ้าไทเกอร์กลับมีอาการเซื่องซึมไม่ยอมกินข้าวนั่งเหม่อ ผ่านไปไม่กี่วันอาการน้องเริ่มแย่เพราะไม่ยอมกินอะไรเลยและถ่ายแบบควบคุมตัวเองไม่ได้ และอาเจียนออกมาเป็นเลือดก่อนที่จะเสียชีวิตลง ตนจึงติดใจว่าตอนไปตอนแรกทุกอย่างยังเป็นปกติอยู่ แต่หลังผ่าตัดแล้วกลับเสียชีวิต เหมือนกับเราพาเขาไปตายมันโหดร้ายเกินไป ตนจึงไปร้องขอความเป็นธรรมจากสำนักงานสัตว์แพทย์สภา และมาแจ้งความเรียกร้องค่าเสียหายและให้ดำเนินคดี
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ทำได้เพียงแค่ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานเท่านั้น คงต้องรอผลการตรวจสอบของสัตว์แพทย์สภาว่านายสัตว์แพทย์คนดังกล่าว ทำการรักษาตามขั้นตอนหรือไม่หรือเป็นการกระทำโดยประมาท เพื่อเป็นแนวทางในการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายในทางแพ่งต่อไป
