หนุ่มนามสกุลดังซิ่งเก๋งปีนแท่งปูนแยกตัววายทางลงด่วนบูรพาวิถีหลักกิโลเมตรที่ 25 ขาออกมุ่งหน้าจังหวัดชลบุรี ช่วงแยกตัววายก่อนถึงด่านเก็บเงินทางลงบางเสาธง – บางบ่อ เล็กน้อย ตำบลบางเสาธง อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการตกลงมากระแทกพื้นด้านล่างดับลง
เมื่อเวลา 00.05 น.วันที่ 9 ธันวาคม 2563 ร.ต.อ.สุพัฒน์ จันทะวงษ์ รองสารวัตรสอบสวน สภ บางเสาธง สมุทรปราการ ได้รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุรถยนต์นั่งส่วนบุคคลเสียหลักตกลงมาจากทางด่วนบูรพาวิถี หลักกิโลเมตรที่ 25 ขาออกมุ่งหน้าจังหวัดชลบุรี ช่วงแยกตัววายก่อนถึงด่านเก็บเงินทางลงบางเสาธง – บางบ่อ เล็กน้อย ตำบลบางเสาธง อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ มีผู้เสียชีวิตติดอยู่ภายในซากรถ หลังรับแจ้งพร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูและอุปกรณ์เครื่องตัดถ่างเดินทางเข้าตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุบนบางนา – ตราด หลักกิโลเมตรที่ 25 ช่องทางด่วนขาออกมุ่งหน้าจังหวัดชลบุรี พบรถยนต์เก๋งยีห้อ นิสสัน อาเมร่า สีขาว ทะเบียน ฆฎ 4588 กทม. พลิกคว่ำหงายท้องอยู่ในช่องทางด้านซ้าย สภาพหงายท้องล้อชี้ฟ้า หลังคายุบลงมาตัวรถพังยับเยิน โดยมีเศษชิ้นส่วนของรถกระจายเกลื่อนถนน ภายในซากรถเบาะนั่งด้านคนขับได้พบผู้เสียชีวิตเป็นชายชื่อนายพศวัต ชาญเลขา อายุ 30 ปีถูกโครงเหล็กตัวถังรถอัดติดอยู่ภายในเจ้าหน้าที่มูลนิธิต้องใช้เครื่องตัดถ่างทำการตัดโครงเหล็กซากรถออกโดยใช้เวลาประมาณ 5 นาที จึงสามารถนำร่างของผู้เสียชีวิตออกมาได้ และจากการตรวจสอบที่เกิดเหตุด้านบนทางด่วนบูรพาวิถีซึ่งมีความสูงจากพื้นดินด้านล่างกว่า 30 เมตร พบว่าบริเวณ
ขณะเดียวกันญาติของผู้ตายที่ทราบข่าวจากมูลนิธิได้เดินทางมายังที่เกิดเหตุ พร้อมทั้งเล่าว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายขับรถมาจากย่านทองหล่อเพื่อจะมาหาแฟนที่อยู่ซอยมหาวิทยาลัยเอแบคใกล้ที่เกิดเหตุ และต้องใช้ทางลงตรงทางด่วนบูรพาวิถีตรงจุดที่เกิดเหตุ คาดว่าผู้ตายน่าจะขับรถมาด้วยความเร็ว พอมาถึงจุดที่เกิดเหตุซึ่งผู้ตายต้องลงทางด่วนที่บริเวณด่านเก็บเงินจุดที่เกิดเหตุ คาดว่าผู้ตายน่าจะเลี้ยวเข้ามาในช่องทางออกอย่างกะทันหันด้วยความเร็วของรถทำให้พุ่งชนกับแท่งรับแรงกระแทก และเสาสัญญาณไฟร่วมถึงป้ายบอกทางแยกจนเสาขาด ก่อนที่จะเสียหลักปีนขึ้นไปบนแผ่นปูนกั้นขอบทางด่วนและเหินตกลงไปกระแทกพื้นด้านล่างโดยเอาทางหลังคาลงจนเป็นเหตุให้เสียชีวิตคาซากรถดังกล่าว
อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่ใกล้เคียงจุดที่เกิดเหตุเพื่อหาสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
