ญาติโวยถูกเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่งในจังหวัดสมุทรปราการ ปลอมลายเซ็นให้ผ่าตัดซ้ำบุตรชายจนเสียชีวิต หลังเข้ารักษาตัวจากการประสบอุบัติเหตุ
เมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 14 ธันวาคม 63 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากญาติผู้เสียชีวิตรายหนึ่งว่าติดใจสาเหตุการเสียชีวิตของบุตรชาย และถูกเจ้าหน้าที่ของทางโรงพยาบาลแอบปลอมลายเซ็น ขณะนี้ศพลูกชายถูกนำมาพักไว้ที่ห้องเก็บศพของทางโรงพยาบาลเพื่อรอพิมพ์ลายนิ้วมือและส่งชันสูจน์ ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปยังโรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่งในจังหวัดสมุทรปราการ เมื่อเดินทางไปถึงก็พบกับทางครอบครัวและญาติจำนวนมากยืนจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ถึงขบวนการรักษาคนไข้ของทางโรงพยาบาล ขณะที่ นาย อดุลย์ จิตต์มั่น อายุ 54 ปี บิดาของ นาย อดิศร จิตต์มั่น อายุ 22 ปีผู้เสียชีวิต โดยทางด้านบิดายืนลูบหัวบุตรชายทั้งน้ำตาพร้อมทั้งเอ่ยปากพูดคุยกับร่างไร้วิญาณของลูกชายตลอดเวลา ส่วนทางด้านมารดาของนาย อดิศร คือ นาง ส้มแป้น นั่งร้องไห้ฟูมฟายปานจะขาดใจ ลูก ๆ และญาติต้องเข้ามาปลอบใจและพัดให้เกรงว่าจะเป็นลมล้มพับไปอีกคน
นาย อดุลย์ บิดา ของผู้เสียชีวิต เปิดใจทั้งน้ำตาว่า บุตรชายเข้ามารักษาตัวจากการประสบอุบัติเหตุเมื่อเช้าเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 63 ที่ผ่านมา โดยบุตรชายแพทย์ระบุว่ามีอาการได้รับบาดเจ็บมีบาดแผลฉีกขาดที่ลำไส้จำนวน 4 จุด และกระดูกขาหัก ซึ่งหลังจากที่เข้ารักษาตัวที่รพ.แห่งนี้ได้สองวันแพทย์จึงแจ้งว่าจะต้องทำการผ่านตัดซ่อมแซมลำไส้ที่มีบาดแผลทั้งสี่จุด ซึ่งตนเองก็เข้าใจและเป็นห่วงลูกชายจึงตัดสินใจให้แพทย์รีบทำการผ่านตัดโดยทางด้านพยาบาลได้นำเอกสารมาให้ตนเองเซ็นยินยอมในการผ่าตัด ซึ่งตนเองก็เซ็นด้วยลายมือไป หลังจากลูกชายผ่าตัดเรียบร้อยก็ออกมาพักฟื้นที่ห้องพักพิเศษของทางโรงพยาล จนมีการรักษาอาการได้รับบาดเจ็บมาตลอดและอาการของบุตรชายก็ดูแข็งแรงขึ้นพูดคุยได้ปกติ หลังจากลูกชายพักฟื้นอยู่ในห้องพิเศษทางเจ้าหน้าที่มาแจ้งว่าจะต้องรอผ่าตัดอีกครั้งในวันนี้ที่ 14 ธันวาคม เนื่องจากคุณหมอเฉพาะทางด้านกระดูกนั้นติดวันหยุดยาว 4 วัน ตนก็รอจนมาวันนี้ทางด้านพยาบาลมาแจ้งว่าคุณหมอศัยกรรมกระดูกจะนำบุตรชายเข้ารับการผ่าตัดกระดูกขา โดยตนเองก็ไม่ได้เซ็นเอกสารใด ๆ ทั้งสิ้นจนมีการนำตัวบุตรชายเข้าห้องผ่าตัดช่วงเวลาประมาณ 14.00น. หลังจากลูกชายเข้าห้องผ่าตัดแล้วตนจึงลงมาข้างล่างผ่านไปไม่ถึง 15 นาทีเจ้าหน้าที่โทรตามแจ้งว่าลูกชายอาการแย่แล้วจึงรีบวิ่งขึ้นมาหน้าห้องผ่านตัด และแจ้งว่าอาการลูกชายไม่ไหวแล้วจนกระทั่งทราบอีกทีว่าลูกชายหยุดหายใจ ตนและภรรยาถึงกับช็อก ยอมรับว่าติดใจการเสียชีวิตของบุตรชายในครั้งนี้ ทั้งที่บุตรชายอาการดีขึ้นและการผ่าตัดครั้งนี้ไม่ใช่การผ่าตัดซ้ำสองของภายในท้องแต่เป็นการผ่าตัดที่ขา จึงไม่เชื่อว่าจะทำให้บุตรชายเสียชีวิต ส่วนลายเซ็นยินยอมให้ผ่าตัดนั้น ตรวจสอบพบว่าเป็นการแอบปลอมลายเซ็นของตนเอง อีกทั้งเอกสารมีการขีดฆ่าที่ตัวเอกสารการเซ็น ซึ่งตนเองยืนยันว่าการเซ็นยินยอมให้ผ่าตัดรอบสองนี้ตนเองไม่ได้เซ็น ตนพยายามขอเอกสารไทม์ไลน์ของการรักษาและส่งตัวเข้าผ่าตัด แต่ทางโรงพยาบาลกลับบ่ายเบี่ยงและไม่ยอมให้เอกสารใด ๆ แม้แต่เอกสารที่ระบุช่วงเวลาการเสียชีวิตยังเป็นแค่เพียงเศษกระดาษที่ทางเจ้าหน้าที่เขียนข้อความให้เบื้องต้นเท่านั้น
ส่วนทางด้านนาง ส้มแป้น แม่ของผู้ตายออกมาเปิดใจว่า น้องชายเข้ารับการรักษาจนอาการดีขึ้นมาเรียกได้ว่าแทบจะหายแล้วก็ว่าได้ จนมาเมื่อวานนี้มีพยาบาลเข้ามาพูดคุยและแนะนำขั้นตอนก่อนการผ่าตัดคือมีสองทางเลือกในการวางยาสลบคนไข้ คือการดมยาและบล็อกหลังวางยาสลบ ซึ่งพี่สาวได้แจ้งกลับไปว่าของเป็นการดมยาดีกว่าเนื่องจากคนไข้มีการผ่าตัดที่หน้าท้อง การบล็อกหลังเกรงว่าจะไม่สะดวกกับคนไข้ ซึ่งญาติทุกคนก็เข้าใจว่าดมยา แต่พอมาวันนี้ก่อนการผ่าตัดกลับพบว่าทางเจ้าหน้าที่เลือกใช้วิธีบล็อกหลังคนไข้เพื่อใช้ยาสลบ โดยไม่ได้แจ้งต่อญาติให้ทราบ ส่วนอีกประเด็นเรื่องการปลอมลายเซ็นตนเองยืนยันและจำได้ดีว่าไม่ใช่ลายเซ็นของทางคุณพ่อ เมื่อสอบถามถึงตัวบุคคลที่เดินเรื่องเอกสารการผ่าตัดแต่กลับไม่ได้รับคำตอบ ทั้งนี้ทางครอบครัวยังคงติดใจสาเหตุการตายในครั้งนี้ยืนยันจะเดินหน้าเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับผู้ตาย พร้อมกับวิงวอนให้ทางโรงพยาบาลออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงในทุกประเด็น ส่วนการปลอมลายเซ็นที่เกิดขึ้นนั้นทางครอบครัวเตรียมเข้าแจ้งความเพิ่มเติมเพื่อหาตัวผู้ที่ปลอมลายเซ็นมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
