บิ๊กโจ๊ก แถลงรวบสองผู้ต้องหาชายหญิงชาวจีนแก๊ง ริโมว่า หลังก่อเหตุลักกระเป๋าเดินทางยี่ห้อดัง ในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ รวบทรัพย์ และกระเป๋า ของผู้เสียหาย 3 ราย กว่า 3 แสนบาท
เมื่อเวลา 12.30 น.วันที่ 4 พฤศจิกายน 2561 ที่ห้องศูนย์ปฎิบัติการกองบังคับการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง 2 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จังหวัดสมุทรปราการ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รรท.ผบช.สตม. นายกิตติพงศ์ กิตติขจร รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พล.ต.ต.พฤทธิพงษ์ประยูรศิริ ผบก.ตม 2 พล.ต.ต.วรพงษ์ ทองไพบูลย์ รรท.ผบก.ทท.1 พ.ต.อ.อำนาจ โฉมฉาย ผกก 3 บก.ทท.1 พ.ต.อ.พิจิตร อังศุุภานิช ผกก.สอบสวน สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้ร่วมกันแถลงผลการจับกุมสองผู้ต้องหาชาวจีนแก๊งริโมว่า ที่ร่วมกันตระเวนลักทรัพย์กระเป๋าเดินทางของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยจะเลือกเอากระเป๋าเดินทางยี่ห้อ ริโมว่า ซึ่งมีมูลค่าใบละหลายหมื่นบาท โดยก่อเหตุบริเวรสายพานลำเลียงกระเป๋าสัมภาระภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จังหวัดสมุทรปราการ ผู้ต้องหารายแรกชื่อ นายจื่อ หยาง หลี่ (MR.TZE YEUNG LI) อายุ 35 ปี สัญชาติแคนาดาเชื้อสายจีน และ น.ส.เจ๋ว อิ๊ง โหลว (MS.JIEYING LOU) อายุ22 ปี สัญชาติจีน พร้อมด้วยกระเป๋าเดินทางซึ่งเป็นของกลางยี่ห้อริโมว่า (rimowa) จำนวน 3 ใบ และทรัพย์สินส่วนตัวของผู้เสียหาย 3 รายรวมแล้วมูลค่ากว่า 3 แสนบาท
ข่าวน่าสนใจ:
- ระทึก เพลิงไหม้บ้าน 2 ชั้นวอดทั้งหลัง น้องแมว 7 ชีวิต รอดตายหวุดหวิด โดย 3 ตัวโดนไฟลวกบาดเจ็บ
- นักท่องเที่ยวแห่ชมดอกไม้งามดอยตุง ชิมอาหารพื้นถิ่น ถ่ายรูปดอกไม้สวย
- พิธีเปิดนิทรรศการฟอสซิลช้างดึกดำบรรพ์และสัตว์ร่วมยุคในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา
- ชายวัย 50 ปี เปลี่ยนถังแก๊สเอง จุดเตาทำกับข้าวไฟพรึ่บคลอกเจ็บหนัก
ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2561 ที่ผ่านมา MS.ELSIE GRACE LIELANI MULLERS ผู้เสียหายซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวสัญชาติอเมริกัน ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ. ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ว่าขณะที่ตนเดินทางมาจากประเทศญี่ปุ่นด้วยสายการบิน All Nippon Airways มาลงที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และกระเป๋าเดินทางยี่ห้อริโมว่า ของตนได้หายไปจากสายพานลำเลียงสัมภาระ หลังทราบข้อมูลจึงได้มีการประสานกำลังเจ้าหน้าที่จากหลายฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ของศูนย์ปฏิบัติการพิเศษท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และตำรวจท่องเที่ยว เร่งกระจายกำลังออกสืบสวนหาข่าว และตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด จนกระทั่งพบเห็นชายหญิงชาวจีนต้องสงสัยทราบชื่อภายหลังชื่อนายจื่อ หยาง หลี่ และ น.ส.เจ๋ว อิ๊ง โหลว กำลังช่วยกันหยิบกระเป๋าเดินทางจำนวนหลายใบขึ้นรถเข็นกระเป๋าสัมภาระที่วางอยู่ข้างสายพานลำเลียงกระเป๋าสัมภาระของผู้โดยสารภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยที่ผู้เสียหายชี้ยืนยันว่าเป็นกระเป๋าเดินทางของตนเองที่หายไป
เจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังออกสืบสวนติดตามจนกระทั่งในช่วงบ่ายของวานนี้วันที่ 3 พฤศจิกายน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ได้พบตัวนายจื่อ หยาง หลี่ และ น.ส.เจ๋ว อิ๊ง โหลว กำลังยืนเช็คอินอยู่ที่หน้าเคาว์เตอร์ของสายการบินหนึ่ง ภายในอาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อเตรียมตัวเดินทางไปประเทศฮ่องกง จึงแสดงตัวขอตรวจสอบปรากฏว่า พบกระเป๋าเดินทางของผู้เสียหายซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวชาวอเมริกันอยู่กับผู้ต้องหาทั้ง 2 รายและยังพบกระเป๋าของผู้เสียหายรายอื่นอีก 2 ใบ จึงคุมตัวมาทำการสอบสวนขยายผลและติดต่อผู้เสียหายซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวชาวจีน และได้ยืนยันว่าเป็นกระเป๋าของตนเองจริงที่เคยหายไปภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เจ้าหน้าที่จึงคุมตัวไปตรวจค้นห้องพักของผู้ต้องหาทั้ง 2 ในโรงแรมแห่งหนึ่งย่านราชเทวี พบกระเป๋าเดินทางของนักท่องเที่ยวชาวไทยซึ่งถูกผู้ต้องหาทั้งสองลักเอาไปจากสายพานขณะเดินทางกลับมาจากประเทศเกาหลี
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รรท.ผบช.สตม. กล่าวว่า จากการตรวจสอบประวัติของผู้ต้องหาทั้งสองพบว่า ทั้งสองเดินทางเข้ามาในประเทศเกือบ 30 ครั้งซึ่งคาดว่าจะมีผู้รวมกระบวนการและก่อเหตุในลักษณะเดียวกันมากว่า 2 คน โดยพฤติกรรมของผู้ต้องหาทั้งสองจะเดินทางเข้ามาในประเทศไทยตัวเปล่าไม่มีกระเป๋าสัมภาระมา แต่พอเดินทางมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ก็จะเดินทางรอรับกระเป๋าสัมภาระที่สายพานลำเลียงของสัมภาระภายในอาคารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยทำที่เดินคุยโทรศัพท์และเดินวนหากระเป๋าเดินทางยี่ห้อ ริโมว่า ซึ่งเป็นยี่ห้อเป่าหมาย และนำนำลงมาวางไว้ข้างสายพานและยืนสังเกตการณ์อยู่ใกล้ สบโอกาสไม่มีใครมาตามก็จะทำเนียนเขนกระเป๋าแยกออกมาและเอาขึ้นรถเข็นเดินเลียงออกมาผ่านเข้าช่องตรวจของศุลกากร ซึ่งปกติศุลกากรจะทำการสุ่มตรวจหากกระเป๋าใบไหนถูกเจ้าหน้าที่นำเข้าเครื่องเอ็กซเรย์ผู้ต้องหาทั้งสองคนก็จะเดินหลบหนีออกมาด้านนอก หากไม่มีการตรวจผู้ต้องหาทั้งสองก็จะเข็นกระเป๋าทั้งหมดออกมา รีบเดินทางไปห้องพักที่เช่าโรงแรมเตรียมเอาไว้ ก่อนรื้อค้นเอาทรัพย์ออกและนำกระเป๋าส่งต่อให้เพื่อรวมแก๊งนำไปขายเป็นกระเป๋ามือสองในต่างประเทศต่อไป ซึ่งแต่ละใบจะสามารถขายได้ในราคาใบละไม่ต่ำกว่า 3-5 หมื่นบาท เชื่อว่าผู้ต้องหาแก๊งนี้น่าจะทำกันเป็นกระบวนการและก่อเหตุมาแล้วในหลายประเทศ ซึ่งจะได้ทำการสอบสวนขยายผลติดตามจับกุมผู้ร่วมกระบวนการ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า ลักทรัพย์ในท่าอากาศยานและในเวลากลางคืน ก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สมุทรปราการ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: