กรณีรถเก๋งสีขาวทับรถจักรยานยนต์ก่อนถูกไล่ทำร้ายกลางสะพานข้ามคลองปากซอยเทศบาลบางปู 55 (ยัวซ่า) ต.ท้ายบ้านใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ คนขับรถยนต์เก๋งคันดังกล่าว ได้ให้การว่า เห็นรถจักรยานยนต์ทางข้างซ้ายทำทีคล้ายจะทำร้าย จึงได้ใส่เกียร์ถอดหลังรถก่อนที่จะเบี่ยงออกทางด้านขวาจึงได้ชนเข้ากับจักรยานยนทางด้านขวา ยืนยันว่าไม่ได้ตั้งใจชน
จากกรณีที่มีรถยนต์เก๋งถูกรถจักรยานยนต์ประกอบข้างจำนวน 2 คันขณะขับรถกำลังจะข้ามสะพานข้ามคลองชลประทานออกปากซอยเทศบาลบางปู 55 (ยัวซ่า) ต.ท้ายบ้านใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ เพื่อจะออกถนนสุขุมวิท แต่ถูกรถจักรยานยนต์คันหนึ่งมาจอดขวางหน้าและมีท่าที่จะเข้ามาหาเรื่องแต่คนขับรถยนต์เก๋งคันดังกล่าวได้พยายามถอยหลังรถและเบี่ยงออกทางด้านขวาเพื่อที่จะขับรถหนีโดยไม่ทันมองว่ามีรถจักรยานยนต์อีกคันหนึ่งมาจอดประกอบอยู่ทางด้านหน้าข้างขวาจึงทำให้ถูกรถยนต์เก๋งคันดังกล่าวชนและทับอยู่ที่บริเวณกลางสะพานก่อนที่จะถูกคนขี่รถจักรยานยนต์ลงมาไล่ทำร้ายใช้หมวกกันน๊อกไล่ตี ตามคลิปที่กล้องหน้ารถของของพลเมืองดีบันทึกเหตุการณ์เอาไว้ได้โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าของวานนี้ที่ 3 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา
ข่าวน่าสนใจ:
- ตรัง การแข่งวิ่งสุดสยองชวนขนหัวลุก "วิ่งหนีเมรุ" ทำถึงธีมผีจัดเต็ม นักวิ่ง 300 คนร่วมวงหลอน
- นราธิวาส-สุดทน! พ่อค้าแม่ค้าร้อง ส.ส.นำเรื่องเข้าสภาฯ หลัง "บอสตลาดเก็นติ้ง" จัดหนัก! ปรับราคาเช่า-ต่อสัญญาสูงลิ่ว
- 2 เฒ่า ถูกนำมาทิ้งขนส่งแม่สาย ไร้ที่ไป
- บุรีรัมย์ ปัดฝุ่นประเพณีผูกเสี่ยวเชื่อลดปัญหาขัดแย้งทั้งเยาวชนและผู้ใหญ่
ล่าสุดเมื่อช่วงสายของวันนี้ที่ 4 กุมภาพันธ์ 2564 พ.ต.ต.พชรธรณ์ นพธัญสวัสดิ์ สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองสมุทรปราการ เจ้าของคดี ได้เชิญตัวคนขับรถยนต์เก๋งรวมทั้งคู่กรณีทั้งหมดมาทำการสอบปากคำ โดยนายพัสกร (ขอสงวนนามสกุล ) อายุ 29 ปี คนขับรถยนต์เก๋งคันดังกล่าว ได้ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้ขับรถไปส่งลูกสาวที่โรงเรียนแห่หนึ่งในย่านแพรกษา และกำลังจะขับรถจะกลับบ้านพักซึ่งอยู่ในซอยใกล้ที่เกิดเหตุ ขณะที่ขับมาจนเกือบถึงปากซอยได้มีรถจักรยานยนต์ทั้ง 2 คันมาจอดประกอบข้างฝั่งที่ตนขับรถอยู่ ก่อนที่ชายผู้บาดเจ็บที่ถูกรถตนทับจะเคาะกระจกประตูรถตนพร้อมทั้งโวยวายว่าตนขับรถปาดหน้าเขาทำไม่ ทำให้ตนงงว่าไปขับรถปาดหน้าเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ ด้วยความที่ตนไม่อยากมีเรื่องจึงได้ขับรถออกไปขณะที่กำลังขับรถสะพานก็มีรถจักรยานยนต์อีกคันขับแซงขึ้นมาและจอดขวางหน้ารถตนที่บริเวณกลางสะพาน ก่อนที่ชายคนขับจะลงมาจากรถเข้ามาทางประตูข้างซ้ายทำทีคล้ายจะใช้หมวกกันน็อกทำร้ายตน ตนไม่อยากมาเรื่องจึงได้ใส่เกียร์ถอดหลังรถก่อนที่จะเบี่ยงออกทางด้านขวาและเร่งเครื่องออกไปโดยไม่ทันมองว่าผู้บาดเจ็บขี่รถจักรยานยนต์ขึ้นมาประกบรถยนต์ทางขวาหน้ารถจึงทำให้ถูกรถของตนชนและล้อหน้าเหยียบทับ ตนยืนยันว่าไม่ได้ตั้งใจชน ก่อนที่ชายคนที่เอารถจักรยานยนต์มาจอดขวางหน้าจะเข้ามาทำร้ายตนโดยการใช้หมวกกันน็อกไล่ทุบตีตน ตนจึงป้องกันตัวและเกิดเหตุชุลมุนกันเกิดขึ้นดังกล่าว
ขณะที่นายทวีศักดิ์ รัตน์กระทุ่ม อายุ 45 ปี คนที่ไล่ทำร้ายคนขับรถเก๋ง ได้อ้างว่า ขณะที่ตนและแฟนสาวกำลังขี่รถจักรยานยนต์เพื่อที่จะไปทำงานได้พบเห็นผู้บาดเจ็บซึ่งรู้จักกันกำลังจอดรถจักรยานยนต์มาประกบรถเก๋งคันดังกล่าวและมีการโต้เถียงกัน จึงได้จอดสอบถาม แต่รถเก๋คันดังกล่าวได้ขับออกมาคล้ายจะหลบหนี ตนจึงได้ขี่รถจัรยานยนต์แซงขึ้นไปจอดขวางหน้ารถเก๋งคันดังกล่าวเอาไว้ โดยที่มีผู้บาดเจ็บขี่รถจักรยานยนต์ตามขึ้นมาจอดประกอบหน้ารถเก๋งขับดังกล่าวด้านหน้าซึ่งก็เป็นจังหวะเดียวกับที่รถเก๋งคันดังกล่าวเบี่ยงออกขวาและออกตัวด้วยความเร็วและพุ่งชนรถจักรยานยนต์รวมทั้งผู้บาดเจ็บอย่างแรงจนล้อหน้าทับร่างและรถจักรยานยนต์ของผู้บาดเจ็บอยู่ใต้ท้องรถ ซึ่งขณะนั้นคนขับก็ไม่ลงจากรถมาดู ตนจึงเดินเข้าไปแต่ก็ถูกคนขับรถเก๋งคันดังกล่าวใช้กำปั้นชกเข้าที่ท้ายทอย ตนจึงป้องกันตัวโดยการใช้หมวกกันน็อกไล่ทุบตีจนมีชาวบ้านเข้ามาห้ามปรามตามคลิปที่ปรากฎ
ด้าน น.ส.วารุณี ล้มจันทึก อายุ 40 ปี ภรรยาของผู้บาดเจ็บได้เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุสามีตนที่ชื่อนายนายสมเจตร์ ต้นทองคำ อายุ 44 ปี ผู้บาดเจ็บ ได้เล่าให้ตนฟังว่า ขณะที่ขี่รถจักรยานยนต์ออกมาเพื่อที่จะไปทำงานได้ถูกรถยนต์เก๋งคันดังกล่าวขับปาดหน้า ตนจึงขี่รถจักรยานยนต์ไล่ตามมาทันกันที่ก่อนข้ามสะพานออกปากทาง จึงใช้มือเคาะกระจกประตูถามว่าปาดหน้ารถตนทำไม ซึ่งก็เป็นจังหวะเดียวกับที่นายทวีศักดิ์ ที่รู้จักกันได้มาจอดรถจักรยานยนต์ถามตนพอดีว่ามีเรื่องอะไรกัน ตนจึงบอกว่าถูกรถเก๋งคันดังกล่าวขับรถปาดหน้า ระหว่างนั้นรถเก๋งได้ขับรถออกไป นายทวีศักดิ์ จึงได้ขี่รถจักรยานยนต์แซงขึ้นไปจอดขวางหน้ารถเก๋งเอาไว้ ส่วนตนได้ขี่รถจักรยานยนต์ตามหลังขึ้นไปจอดประกบที่ด้านหน้าข้างขวาซึ่งก็เป็นจังหวะเดียวกับที่ชายคนขัยรถเก๋งคันดังกล่าวเบี่ยงรถออกมาทางด้านขวาและออกตัวอย่างเร็วและพุ่งชนและทับตนและรถจักรยานยนต์อยู่ใต้ท้องรถ จนชาวบ้านต้องมาช่วยกันยกรถและช่วยเหลือตนออกมาจากใต้ท้องรถ ซึ่งก็ได้รับบาดเจ็บที่ข้อเท้าและตามร่างกายหลายแห่ง สวนรถจักรยานยนต์ได้รับคามเสียหาย ส่วนเหตุการณ์อื่น ๆ สามีตนบอกว่าไม่เห็นเหตุการณ์แต่อย่างใดและขณะนี้สามีตนก็เข้ารักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเมืองสมุทรปากน้ำ
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: