กลุ่มทริปเจ็ทสกีจำนวน 8 ลำ ขับกลับจากบางแสนหลงร่องน้ำขับเกยติดดินเลนบริเวณปากอ่าวแม่น้ำเจ้าพระยา ห่างจากฝั่งกว่าครึ่งกิโล ที่บริเวณท้ายซอยเทศบาลบางปู 114 (บางสำราญ) ต.บางปู อ.เมือง จ.สมุทรปราการ กลุ่มเพื่อน ๆ ของคนขับเจ็ทสกีที่ติดดินเลนได้เดินลุยเลนเข้ามาขอความช่วยเหลืออยู่ที่ชายฝั่งจำนวน 3 คนเนื่องจากอาหารและน้ำดื่มไม่มี ส่วนที่เหลืออีก 5 คนนั่งรออยู่ที่เจ็ทสกีที่จอดติดดินเลนซึ่งมีการส่งสัญญาณจากแสงไฟฉายเป็นระยะ
เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2564 เจ้าหน้าที่มูลนิธิได้รับแจ้งขอความช่วยเหลือมีกลุ่มเจ็ทสกีจำนวน 8 ลำ ขับหลงร่องน้ำเข้ามาติดดินเลนอยู่ที่บริเวณปากอ่าวแม่น้ำเจ้าพระยา ห่างจากชายฝั่งประมาณ 500 เมตรที่บริเวณท้ายซอยเทศบาลบางปู 114 (บางสำราญ) ต.บางปู อ.เมือง จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยกำลังเดินทางมาให้การช่วยเหลือ
ข่าวน่าสนใจ:
ที่เกิดเหตุต้องเดินลุยป่าชายเลนเข้าไปที่บริเวณชายฝั่งประมาณ 500 เมตร ได้พบกลุ่มเพื่อน ๆ ของคนขับเจ็ทสกีที่ติดดินเลนได้เดินลุยเลนเข้ามาขอความช่วยเหลืออยู่ที่ชายฝั่งจำนวน 3 คนเนื่องจากอาหารและน้ำดื่มไม่มี ส่วนที่เหลืออีก 5 คนนั่งรออยู่ที่เจ็ทสกีที่จอดติดดินเลนห่างจากชายฝั่งออกไปอีกประมาณ 500 เมตร ซึ่งมีการส่งสัญญาณจากแสงไฟฉายเป็นระยะ เจ้าหน้าที่มูลนิธิจึงได้จัดหาเสบียงน้ำและอาหารมาให้
โดยนายวิรัตน์ แซโค้ อายุ 42 ปี และนายวรภพ นามเจียก อายุ 35 ปี ซึ่งทั้งสองได้เดินลุยดินเลนเข้ามาขอความช่วยเหลือ ได้เล่าว่า เมื่อช่วงประมาณบ่าย 2 โมงของวานนี้ตนและพรรคพวกรวม 8 คนได้ชักชวนกันขับเจ็ทสกีไปเที่ยวเล่นที่หาดบางแสน โดยมีลูกชายของเพื่อนซึ่งมี อายุ 10 ขวบ 1 คนและ อายุ 15 ปี อีก 1 คนรวมอยู่ด้วย โดยได้ขับออกจากท่าเรือหน้าร้านอาหารโตมอญ ซึ่งอยู่ในคลองสรรพสามิต ฝั่งอำเภอพระสมุทรเจดีย์ สมุทรปราการ ขับไปถึงชายหาดบางแสนประมาณบ่าย 3 โมง และไปขับเล่นกันอยู่ที่ชายหาดบางแสนและเจ็ทสกีได้เกิดขัดข้องไป 1 ลำ จึงได้ชวนกันกลับโดยลากเจ็ทสกีลำที่เครื่องยนต์เสียกลับมาด้วยโดยออกจากหาดบางแสนทางตั้งแต่ประมาณ 5 โมงเย็นขับมาเลื่อยใช้ความเร็วไม่ได้เพราะต้องลากเจ็ทสกีลำที่เสียกลับมาด้วยและวิ่งมีถึงบริเวณปากอ่าวแม่น้ำเจ้าพระยาห่างจากชายฝั่งประมาร 500 เมตร ซึ่งเป็นช่วงที่น้ำลงขณะที่ขับกันมาแบบเรียงหน้ากระดานเพื่อที่จะกลับไปยังฝั่งอำเภอพระสมุทรเจดีย์ อยู่ ๆ เจ็ทสกีทั้งหมด 8 ลำก็เกยขึ้นมาบนดินเลนทั้งหมดพวกตนพยายามดิ้นแล้วแต่ก็ไม่หลุดเพราะน้ำลงเร็วมาก ประกอบอาหารและน้ำที่เตรียมก็หมดและอยู่กันท่ามกลางความมืดมีเพียงไปฉายกระบอกเล็ก ๆ ที่พอให้แสงสว่าง ตนจึงตัดสินใจเดินลุยดินเลนเข้ามาที่ชายฝั่งก่อนที่จะโทรศัพท์ไปตามเพื่อนให้โทรแจ้งขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิ แต่พอมาแล้วก็ช่วยเหลืออะไรไม่ได้เพราะเจ็ทสกีที่ติดอยู่ห่างจากชายฝั่งตั้ง 500 เมตร ประกอบกับที่น้ำกำลังไหลขึ้นจึงทำได้เพียงแต่เดินลุยดินเลนน้ำเสบียงกลับไปในจุดที่เจ็ทสกีติดอยู่รอเวลาให้น้ำขึ้นถึงจะนำเจ็ทสกีออกได้และก็จะพากันขี่กลับเข้าชายฝั่งทางด้านอำเภอพระสมุทรเจดีย์เลย ส่วนการขี่เจ็ทสกีไปเที่ยวที่ชายหาดบางแสนเราไปกันเป็นประจำอยู่แล้วไปกันเป็นทริป ปกติจะขับในร่องล้ำแต่วันนี้ขับชิดทางทางชายฝังเลนทำให้หลงร่องน้ำมาเกยและติดอยู่บนดินเลนดังกล่าว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: