X

ชาวบ้านผวาพบจระเข้ขนาดใหญ่โผล่ในหนองน้ำกลางชุมชนท้ายซอยนกแก้ว

ชาวบ้านถึงกับผวาพบจระเข้ขนาดใหญ่โผล่ในหนองน้ำกลางชุมชนท้ายซอยนกแก้ว หมู่ 6 ต.ท้ายบ้าน อ.เมือง จ.สมุทรปราการ เจ้าหน้าที่สามารถจับได้แล้ว 1 ตัว ชาวบ้านยืนยันว่ามีอีกตัว ทางด้านหมอจระเข้ค้นหาอยู่นานแต่ไม่พบ

เมื่อเวลา 12.30 น.วันที่ 8 มีนาคม 2564 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านที่พักอาศัยอยู่บริเวณท้ายซอยเทศบาลบางปู 12 (ซอยนกแก้ว 2 ) หมู่ 6  ต.ท้ายบ้าน อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ว่าพบจระเข้ขนาดใหญ่ลอยตัวอยู่ในน้ำภายในหนองน้ำน้ำที่ชาวบ้านปลูกบ้านเรือนพักอาศัยคร่อมอยู่บนหนองน้ำ หลังรับแจ้งผู้สื่อข่าวได้เดินทางเข้าตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจและกรมประมงจังหวัดสมุทรปราการ พร้อมมูลนิธิร่วมกุศลสมุทรปราการ เดินทางเข้าตรวจสอบ

ในที่เกิดเหตุเป็นหนองน้ำขนาดใหญ่มีบ้านเรือนประชาชนปลูกคร่อมหนองน้ำดังกล่าวอยู่หลายสิบหลัง ได้พบชาวบ้านจำนวนมากกำลังยืนมุงดูอยู่เป็นจำนวนมากและจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับจระเข้ที่พบเห็นว่ามีจำนวน 2 ตัว โดยตัวแรกพบเห็นที่ริมหนองน้ำบริเวณปากซอยเป็นจระเข้ขนาดใหญ่ตัวสีดำและห่างออกไปประมาณ 100 เมตรที่บริเวณท้ายซอยเดียวกันมีชาวบ้านพบเห็นจระเข้อีกตัวหนึ่งซึ่งเป็นจระเข้ที่ตัวใหญ่กว่าตัวแรกที่พบเห็น โดยจระเข้ตัวที่สองมีลำตัวสีเทาอมน้ำตาลและมีชาวบ้านในโทรศัพท์มือถือถ่ายภาพเอาไว้ได้ก่อนที่จระเข้ตัวดังกล่าวจะจมหายไป  จึงได้มีการประสานผู้เชี่ยวชาญด้านการจับจระเข้จากฟาร์มจระเข้และสวนสัตว์สมุทรปราการ ซึ่งมีรั้วกำแพงอยู่ติดกับหนองน้ำดังกล่าวให้นำอุปกรณ์เข้ามาช่วยจับตัวเจ้าจระเข้ตัวดังกล่าว  โดยได้นำเรือพายพลาสติก ที่ชื่อเรือไกรทอง 4 และอุปกรณ์ต่อสายไฟฟ้าเดินทางมาร่วมตรวจสอบ หลังจากได้ดูรูปจากที่ชาวบ้านได้ถ่ายไว้

โดยนายสมภพ ราษฎร์ดี อายุ 32 ปี ผู้เชี่ยวชาญด้านการจับจระเข้จากฟาร์มจระเข้และสวนสัตว์สมุทรปราการ ได้กล่าวว่า สำหรับจระเข้ตัวที่ชาวบ้านพบเห็น เท่าที่ดูจากรูปที่ชาวบ้านถ่ายไว้ได้น่าจะเป็นจระเข้สายพันธ์น้ำจืด อายุไม่ต่ำกว่า 10 ปี ลำตัวยาวกว่า 2 เมตร ส่วนที่ว่าจะมาจากไหนนั้นตอนนี้ยังไม่ทราบ

ด้านนายเก่ง  พลอยงาม อายุ 64 ปี ชาวบ้านที่พักอยู่ริมหนองน้ำดังกล่าว ได้เล่าว่าเมื่อช่วงสายของวันนี้ตนและชาวบ้านที่พักอาศัยอยู่ในซอยได้พบเห็นจระเข้ตัวแรกที่ไปลอยตัวอยู่ในหนองน้ำด้านหน้าปากซอย ซึ่งเป็นจระเข้ขนาดใหญ่ลำตัวสีดำ ก่อนที่จะจมหายลงไปในหนองน้ำห่างกันประมาณ 10 นาที ก็ได้ทราบว่าที่หนองน้ำข้างบ้านที่อยู่ท้ายซอยมีจระเข้อีกตัวหนึ่งซึ่งใหญ่กว่าตัวแรกลอยตัวอยู่ในหนองน้ำห่างจากจุดแรกประมาณ 100 เมตร แต่ตัวนี้ลำตัวเป็นสีเทาออกน้ำตาลและชาวบ้านได้ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายรูปเอาไว้ได้ก่อนที่จมหายไปในหนองน้ำ ซึ่งตนเชื่อว่าในหนองน้ำแห่งนี้มีจระเข้อยู่ 2 ตัวแน่นอน

หลังจากหมอจระเข้ได้เฝ้าสังเกตการณ์อยู่นานกว่า 1 ชั่วโมงก็ยังไม่พบว่าจระเข้ทั้งสองตัวจะโผล่ขึ้นมาบนผิวน้ำแต่อย่างใด จึงตัดสินใจใช้อุปกรณ์ต่อกระแสไฟฟ้า 220 โวลล์ ลงไปจิ้มไล่ช็อตในหนองน้ำดังกล่าวตามจุดต่าง ๆ ที่คาดว่าจระเข้จะซ้อนตัวอยู่ใต้น้ำตามใต้ถุนบ้านเรือนประชาชนที่ปลูกคร่อมอยู่บนหนองน้ำดังกล่าว เวลาผ่านไปกว่า 2 ชั่วโมง หมอจระเข้ได้ใช้กระแสไฟฟ้าลงไปไล่ช็อต ที่ใต้ถุนบ้านที่ปลูกคร่อมอยู่บนหนองน้ำดังกล่าวอีกครั้ง พบว่าจระเข้ตอบโต้มีเสียงคล้ายหางฟาดกับน้ำเสียงดังสนั่นอยู่ 2-3 ครั้งก่อนที่จะเงียบไป ได้พบว่าเจ้าจระเข้ตัวดังกล่าวถูกกระแสไฟฟ้าช็อตจนทำให้น็อคไปชั่วขณะอยู่ที่หนองน้ำใต้ถุนบ้าน หมอจระเข้และมูลนิธิจึงได้รีบลุยน้ำเข้าไปใช้เชือกมัดปากของเจ้าจระเข้ตัวดังกล่าวเอาไว้และรีบลากตัวออกมา ยกขึ้นเรือนำมาขึ้นบนฝั่ง ซึ่งการทำงานของหมอจระเข้และมูลนิธิต้องทำงานแข่งกับเวลาเ พราะเจ้าจระเข้ที่ถูกไฟฟ้าช็อตนั้นจะน็อคอยู่ได้ประมาณ 5 นาที ก็จะฟื้นคืนสติ จึงต้องรีบนำขึ้นฝั่งและทำการมัดปากอีกครั้งก่อนที่จะช่วยกันแบ่งมาขึ้นรถของมูลนิธิ นำตัวไปอนุบาลไว้ที่สำนักงานประมงจังหวัดสมุทรปราการ เพื่อรอให้ผู้เป็นเจ้าของมาแสดงตัว ท่ามกลางความโล่งใจของชาวบ้าน

ในส่วนจระเข้อีกตัวหนึ่งที่ชาวบ้านยืนยันว่าพบเห็นในช่วงสาย หมอจระเข้ได้พยายามค้นหาตัวอยู่นานแต่ไม่พบ จึงได้ถอนกำลังกลับไปโดยฝากให้ผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านช่วยสังเกตการณ์หากพบเห็นตัวจระเข้ที่ยังเหลืออยู่ให้รีบแจ้ง จะได้นำอุปกรณ์มาทำการจับตัว

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน