หนุ่มใหญ่ขี่รถจักรยานยนต์มารอรับหลานที่เรียนอยู่ที่โรงเรียนวัดแพรกษา เกิดอาการกรดไหลย้อนกำเริบ แวะซื้ออีโนกิน ขอนั่งพักที่บริเวณโต๊ะหินอ่อนหน้าร้านขายของชำ หมู่ 3 ตำบลแพรกษา อำเภอเมือง สมุทรปราการ ก่อนดับปริศนา คาดหัวใจวายเฉียบพลัน
เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 8 มีนาคม 2564 พ.ต.ท.วุฒิ พุฒิพานนท์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมือง สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีมีชายเสียชีวิตไม่ทราบสาเหตุที่บริเวณหน้าร้านขายของชำไม่มีชื่อ เลขที่ 138 หมู่ 3 ตำบลแพรกษา อำเภอเมือง สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกุศลสมุทรปราการ เดินทางเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ที่บริเวณโต๊ะหินอ่อนหน้าร้านขายของชำดังกล่าวได้ พบศพนายฮูเซ็น พุ่มพวง อายุ 55 ปี นอนหงายเสียชีวิตอยู่กับพื้นตามร่างกายไม่พบบาดแผลหรือร่องรอยการถูกทำร้ายแต่อย่างใด ที่บนโต๊ะหินอ่อนพบ ขวดน้ำวางอยู่จำนวน 1 ขวด ภายในขวดเป็นน้ำสีส้ม ใกล้กันพบซองเปล่าอีโนวางอยู่ 1 ซอง ที่ริมฟุตบาท พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า พีซีเอ็กซ์ 150 สีขาว ทะเบียน 1 กฬ 2434 กรุงเทพมหานครที่ผู้ตายขี่มาจอดอยู่
จากการสอบถามนายจงกล เนียมพลางค์ อายุ 56 ปี เจ้าของร้าน ได้เล่าว่า ตนพึ่งกลับมาที่ร้านและได้เห็นผู้ตายนอนฟุบอยู่บนโต๊ะหินอ่อนหน้าร้าน ก็เลยถามลูกชาย โดยลูกชายได้บอกว่าผู้ตายขี่รถจักรยานยนต์มาจอดที่หน้าร้านก่อนเดินเข้ามาบอกว่าเป็นกรดไหลย้อน ขอซื้อยาอีโน 1 ซองและน้ำเปล่า 1 ขวด ก่อนที่จะมานั่งที่ม้าหินอ่อนหน้าร้าย และเอาอีโนกับน้ำเปล่าผสมกันก่อนดื่มเข้าไปและนั่งอยู่พักใหญ่ ก่อนที่ผู้ตายจะนั่งฟุบอยู่บนโต๊ะหินอ่อน ตนเห็นว่าผู้ตายฟุบนานผิดปกติ จึงเลยเข้าไปบอกให้ผู้ตายนอนบนม้าหินอ่อนดีดี เพราะตนคิดว่าผู้ตายอาจจะเมาเลยไม่ได้สนใจ ก่อนจะเดินไปเรียงของภายในร้าน กลับมาอีกทีเห็นผู้ตายลิ้นจุกปากเลยรีบโทรแจ้งขอความช่วยเหลือจากหน่วยกู้ชีพ ด้านนางสาวกรชนก พุ่มพวง อายุ 17 ปี ลูกสาวผู้ตาย หลังทราบเรื่องได้เดินทางมาดูและได้เล่าว่า คุณพ่อ ขี่รถจักรยานยนต์มารอรับหลานที่เรียนอยู่ที่โรงเรียนวัดแพรกษา เพียงคนเดียว และตนก็ไม่ทราบว่าคุณพ่อมีโรคประจำตัวอะไรหรือเปล่าเพราะพ่อไม่เคยเล่าอะไรให้ฟังเลย
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิฐานว่า ผู้ตาย ในระหว่างที่ผู้ตายขี่รถจักรยานยนต์มารอรับหลานที่โรงเรียน และมีอาการกรดไหลย้อนกำเริบ จึงจอดรถที่ร้านขายของชำ มาซื้ออีโนกับน้ำเปล่ามาผสมกิน ก่อนจะขอนอนพักที่โต๊ะปูนหินอ่อนและเสียชีวิตดังกล่าวซึ่งเชื่อว่าน่าจะเกิดจากอาการหัวใจวายเฉียบพลัน อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะเชิญญาติและคนใกล้ชิดมาทำการสอบถามอีกครั้งเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
