พ.ต.อ. ชัชรินทร์ญาณกร เฮงสุวรรณ ผกก.สภ.พระประแดง สมุทรปราการ สั่งเร่งไล่ล่านักเรียนอาชีวะเย้ยกฎหมาย หลังยกพวกปาระเบิดปิงปองถล่มคู่อริต่างสถาบันได้รับเจ็บ ที่บริเวณสวนสุขภาพคลองลัดโพธิ์ ตำบลทรงคะนอง อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ เมื่อช่วงหัวค่ำของวานนี้ที่ 9 มีนาคม 2564
เปิดภาพวงจรปิดนักเรียนอาชีวะยกพวกทำร้ายคู่อริต่างสถาบัน ทำให้คู่อริได้รับบาดเจ็บโดนสะเก็ดระเบิดปิงปองเข้าที่ขา เหตุเกิดที่บริเวณสวนสุขภาพคลองลัดโพธิ์ ตำบลทรงคะนอง อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ โดยในภาพวงจรปิดกลุ่มนักเรียนอาชีวะปาระเบิดปิงปองมาบนถนนหน้าสวนสุขภาพ ทำให้นักเรียนต่างสถาบันได้รับบาดเจ็บจากการโดนสะเก็ดระเบิดที่ขา ซึ่งขณะเกิดเหตุภายในสวนสุขภาพลัดโพธิ์ ยังมีประชาชนจำนวนมากมาออกกำลังกายกันอยู่ ทำให้ชาวบ้านพากันแตกตื่นและวิ่งหนีตายกันอลหม่าน เหตุเกิดเมื่อช่วงหัวค่ำของวานนี้ที่ 9 มีนาคม 2564 หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระประแดง ได้ลงพื้นที่เพื่อรวบรวมหลักฐาน พร้อมนำตัวผู้บาดเจ็บส่งรักษาที่โรงพยาบาล พร้อมเชิญพยานที่เห็นเหตุการณ์มาสอบสวน โดยมีภาพจากกล้องวงจรปิดที่อยู่ในจุดที่เกิดเหตุ เป็นหลักฐานในการติดตามตัวกลุ่มนักเรียนอาชีวะที่ก่อเหตุ
ข่าวน่าสนใจ:
- ตรัง การแข่งวิ่งสุดสยองชวนขนหัวลุก "วิ่งหนีเมรุ" ทำถึงธีมผีจัดเต็ม นักวิ่ง 300 คนร่วมวงหลอน
- โครงการคุ้มครองเด็กเพื่อความปลอดภัยจากสื่อออนไลน์
- สุดยอดงานกฐินบุญต่อชีวิตคน พระอาจารย์เขียวทอดกฐินสามัคคีจัดซื้อรถพยาบาลฉุกเฉินและอุปกรณ์ทางการแพทย์มุลค่ากว่า5ล้านบาท
- ตรัง "บุญกฐิน-ตักบาตรขนมโค" หนึ่งเดียวในไทย ชาวตรังแห่ร่วมงานทอดกฐินออกโรงทานคับคั่ง
ความคืบหน้าในวันนี้ที่ 10 มีนาคม 2564 พ.ต.อ. ชัชรินทร์ญาณกร เฮงสุวรรณ ผกก.สภ.พระประแดง สมุทรปราการ ได้ตั้งทีมสืบสวนเร่งไล่ล่าติดตามตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี ซึ่งขณะนี้พอทราบตัวบ้างแล้ว ซึ่งผู้ก่อเหตุมีไม่ต่ำกว่าสิบคน ส่วนฝ่ายผู้บาดเจ็บมีประมาณห้าคน อยู่ระหว่างติดตามทั้งสองฝ่ายมาสอบปากคำ หากพบว่าเป็นการสมัครใจก่อเหตุทั้งสองฝ่ายก็จะดำเนินคดีทั้งสองฝ่าย ในข้อหาหนัก เนื่องจากพบว่ามีการใช้วัตถุดินปืนประกอบเป็นระเบิดที่ทำขึ้นเองมาใช้ก่อเหตุ และหากพบว่าผู้ก่อเหตุเป็นเยาวชนผู้ปกครองก็อาจจะเข้าข่ายความผิดถูกดำเนินคดีด้วยเช่นกัน ส่วนสาเหตุก็น่าจะมาจากเรื่องสถาบันตามความเชื่อที่ผิดของนักศึกษา ตนมั่นใจว่าจะสามารถติดตามตัวได้ในเร็ว ๆ นี้
ในส่วนจุดที่เกิดเหตุซึ่งเป็นตู้ยามของสายตรวจนั้น จากการตรวจสอบพบว่าเป็นตู้ยามร้าง ที่แขวงการทางสมุทรปราการ สร้างขึ้นมาก่อนหน้านี้นานแล้ว ที่ผ่านมาเคยมีเจ้าหน้าที่สายตรวจไปประจำการณ์เพื่อป้องกันเหตุและดูแลประชาชน แต่มาในระยะหลังทราบว่าไม่มีการจ่ายค่าน้ำค่าไฟจึงถูกตัดน้ำตัดไฟ ทำให้ไม่มีสายตรวจไปประจำการณ์ จึงกลายเป็นตู้ยามร้างมานานแล้ว หลังจากนี้ตนจะประสานแขวงการทางเพื่อเข้าไปบูรณะตู้ยามขึ้นมาใหม่เพื่อใช้ประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนในพื้นที่
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: