หนุ่มไฮโซไร้จิตสำนึกจอดรถสปอร์ตหรูที่จอดรถคนพิการ อาคารจอดรถสนามบินสุวรรณภูมิ เมิน รปภ. ขณะที่นายกิตติพงศ์ กิตติขจร รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (สายปฎิบัติการ 1 ) เผย ระหว่างนี้อยู่ระหว่างการปรับปรุงระเบียบเพิ่มอัตตราค่าปรับของผู้ที่ฝ่าฝืนระเบียบต่าง ๆ ต่อไปค่าปรับของผู้ที่ฝ่าฝืนก็จะไม่ใช้ 500 บาท อย่างที่มีการปรับอยู่ทุกวันนี้
หลักฐานจากกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่ภายในอาคารจอดรถโซน 3 ชั้น 3 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ที่บันทึกภาพเหตุการณ์เมื่อช่วงบ่ายเวลาประมาณ 14.30 น.ของวันที่ 8 มีนาคม 2564 ที่ผ่านมา เป็นภาพรถสปอร์ตหรู ฟอร์ดมาสแตง สีเหลืองออกส้ม ได้ขับรถหรูคันดังกล่าวขึ้นมาจอดในช่องจอดรถคนพิการ โดยคนขับเป็นชายหนุ่มรูปร่างผอมวัยกลางคนได้เดินลงมาจากรถและเลื่อนเหล็กกั้นช่องจอดรถคนพิการก่อนถอยหลังรถเข้าไปจอดหน้าตาเฉย โดยไม่แค่ รปภ.ที่ดูแลอาคารจอดรถดังกล่าว ที่ได้เดินเข้ามาชี้แจง แต่ชายคนดังกล่าวกลับเดินออกไปอย่างไม่แยแส เจ้าหน้าที่จึงนำอุปกรณ์มาทำการล็อกล้อเอาไว้พร้อมทำหนังสือมาแปะอยู่หน้ากระจกว่าได้ละเมิดจอดรถในที่จอดรถคนพิการ ให้ติดต่อทางเจ้าหน้าที่ก่อนนำรถออกไป
ข่าวน่าสนใจ:
ในวันนี้ที่ 11 มีนาคม 2564 ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางเข้าพบ นายกิตติพงศ์ กิตติขจร รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (สายปฏิบัติการ 1 ) เพื่อสอบถามข้อเท็จจริง โดย นายกิตติพงศ์ ได้เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ที่เป็นประเด็นกันอยู่ขณะนี้ ที่มีรถยี่ห้อ ฟอร์ทมาสแตง สีเหลือง เข้ามาจอดในพื้นที่คนพิการที่อาคารจอดรถของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งจากการตรวจสอบเป็นการได้รับแจ้งจากผู้ที่ประสบเหตุ และมีการแจ้งมาที่ศูนย์สุวรรณภูมิ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบตามภาพกล้องวงจรปิดก็ได้เห็นว่า เป็นชายวัยกลางคนซึ่งเป็นผู้ขับขี่รถยนต์คันดังกล่าว เป็นคนขัยเข้ามาเองและก็ไม่ได้มีลักษณ์ของคนพิการแต่อย่างใด โดยการลงมาเลื่อนไม้กั้น และถอยรถเข้ามาจอดและขนกระเป๋าสัมภาระลงจากรถและก็เดินออกไป ซึ่งต้องบอกว่าเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นบ่อยครั้งมาก ๆ สำหรับพื้นที่จอดรถคนพิการในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เราในฐานะเจ้าหน้าที่ก็ทราบในทางกฎหมายว่าไม่สามารถดำเนินการอะไรได้มากกว่าค่าปรับซึ่งมันก็น้อยนิดมากสำหรับท่านที่มีฐานะ อย่างเหตุการณ์ในครั้งนี้ก็ปรับได้แค่ 500 บาท ซึ่งรถคันดังกล่าวก็พึ่งออกจากพื้นที่ของเราไปเมื่อคืนนี้เวลาประมาณ 23.30 น. ซึ่งทางชายคนดังกล่าวก็มาเสียค่าปรับไปจำนวน 500 บาท ก่อนที่จะเดินทางออกไป
ทั้งนี้ตนยังจะสะท้อนว่ามันเป็นจิตใต้สำนึกของคนมากกว่าระเบียบต่าง ๆ เข้ามาระเบียบไว้หมดแล้ว แต่ถ้าท่านเคารพระเบียบของสังคมเราเตรียมพื้นที่ไว้สำหรับคนพิการ ต่อให้ไม่มีรถมาจอดในช่องดังกล่าว แต่ท่านก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะเอารถเข้ามาจอดในช่องคนพิการ เพราะฉะนั้นตนอยากจะบอกต่อสังคมว่า ค่าปรับสำหรับคนพวกนี้มันน้อยนิดเขาไม่ได้ให้ความสำคัญกับค่าปรับแต่อย่างใด ก็อยากจะวิงวอนว่ามันเป็นเรื่องของจิตสำนึกของคน และระหว่างนี้อยู่ระหว่างการปรับปรุงระเบียบของผู้ที่ฝ่าฝืนระเบียบต่าง ๆ ไม่ใช่ว่าพึ่งเกิดเรื่องแล้วเรามาทำวันนี้ ทุกอย่างมันมีขั้นตอนในการปรับแก้ ต่อไปค่าปรับของผู้ที่ฝ่าฝืนก็จะไม่ใช้ 500 บาทอย่างที่มีการปรับอยู่ทุกในนี้
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: