พายุฤดูร้อนกระหน่ำอำเภอบางพลี ภายในซอยธนสิทธ์มุ่งหน้าออกซอยยิ่งเจริญ บริเวณคลองบัวคลี ตำบลบางพลีใหญ่ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ เกิดเหตุเสาไฟฟ้าหักนับสิบต้นทับรถชาวบ้านเสียหายหลายคัน
เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 4 เมษายน 2564 ร.ต.อ.อนันต์ ทองเหลือ รองสารวัตรสอบสวน สภ บางพลี สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีเสาไฟฟ้าถูกลมพายุฤดูร้อนพัดจนหักโค่นจำนวนหลายต้น ทับรถชาวบ้านได้รับความเสียหายหลายคัน ภายในซอยธนสิทธ์มุ่งหน้าออกซอยยิ่งเจริญ บริเวณคลองบัวคลี หมู่ที่ 18 ตำบลบางพลีใหญ่ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ หลังรับแจ้งพร้อมเจ้าหน้าที่เทศบาลบางพลีใหญ่และเจ้าหน้าที่การไฟฟ้านครหลวงเดินทางเข้าตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบเสาไฟฟ้าหักโค่น จำนวน 13 ต้น โดยเป็นเสา 12 เมตร 10 ต้น เสา 8 เมตร 3 ต้น และเสาไฟฟ้าส่องสว่างอีก 3 ต้นและหม้อแปลงไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่อยู่กลางเสาตกลงมาได้รับความเสียหายจำนวน 2 ลูก โดยเสาไฟฟ้าดังกล่าวหักล้มเป็นทางยาวกว่า 300 เมตร ขวางถนนทั้งหมดทำให้รถทุกชนิดไม่สามารถสัญจรได้ นอกจากนี้ยังพบว่าเสาไฟฟ้าบางต้นหักล้มลงมาทับรถยนต์ของชาวบ้านที่จอดอยู่ริมถนน ได้รับความเสียหาย จำนวน 5 คัน เป็นรถยนต์กระบะจำนวน 4 คันรถเบนซ์ 1 คัน เจ้าหน้าที่เทศบาลและเจ้าหน้าที่การไฟฟ้า เร่งเข้าตัดกระแสไฟพร้อมระดมเครื่องจักรเข้าทำการถอนเสาที่หักและปักเสาใหม่ลงไปก่อนทำการขึงสายไฟใหม่ทั้งหมด คาดต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 6 ชั่วโมง โดยเหตุดังกล่าวไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ
นางเจริญ ประจงจัด อายุ 57 ปี ชาวบ้านที่อยู่ในจุดที่เกิดเหตุได้เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนกำลังทำอาหารให้ลูกค้าอยู่ ๆ ได้มีพายุฝนตกลงมาและล้มพัดมาอย่างแรงติดต่อกันตนจึงได้รีบออกมาเก็บข้าวของเข้าบ้าน ระหว่างที่ตนกำลังง่วนอยู่กับการเก็บข้าวงของก็ได้เสียงเสาไฟฟ้าล้มลงมากระแทกพื้น ตนจึงหันไปดูได้พบว่าเสาไฟฟ้ากำลังล้มลงมาทีละต้นผ่านหน้าบ้านตนไปด้วยความตกใจและกลัวว่าจะถูกไฟฟ้าช๊อตจึงได้รีบวิ่งหนีเข้าไปในบ้าน
ด้านนายวรชัย แจ่มจันทร์ ที่เห็นเหตุการณ์ได้เล่าว่า ขณะเกิดเหตุตนได้เห็นเสาไฟฟ้าล้มไล่มาจากข้างสะพานข้ามคลองก่อนที่จะไล่ล้มกันมาทีละต้น ซึ่งขณะนั้นได้มีรถยนต์กระบะขับขับสวนทางมา และกำลังจะเลี้ยวมาทางด้านขวา เพื่อหลบเสาไฟฟ้าที่กำลังทยอยล้มอยู่ข้างหน้า แต่ก็เลี้ยวหลบไม่ทันถูกเสาไฟฟ้าล้มลงบนกระบะท้ายได้รับความเสียหาย
ด้านนางลำพู ปาละพล อายุ 36 ปี หนึ่งในผู้เสียหาย ได้เล่าว่าก่อนเกิดเหตุตนกำลังขับรถยนต์กระบะเพื่อจะไปโรงงานที่อยู่ในซอยรัตนโชค โดยตนใช้เส้นทางรัดเข้ามาทางด้านถนนคลองเก้า โดยระหว่างที่ขับรถมามีลมกรรโชกแรงมาก ตนจึงขับรถมาเลื่อย ๆ จนมาถึงที่เกิดเหตุได้เห็นเสาไฟฟ้าที่อยู่ด้านหน้าเอนลงมากำลังจะล้ม ด้วยความตกใจตนจึงหยุดรถ พอตนหยุดรถเสาไฟฟ้าต้นดังกล่าวก็ล้มลงมาเลยหลังจากนั้นสายไฟก็พาดลงบนตัวรถของตน ตกและลูกสาวที่นั่งมาด้วยตกใจมากจนลูกสาวร้องไห้ก่อนที่จะพากันลงมาจากรถเพราะเกรงว่าจะถูกกระแสไฟฟ้าช๊อตเอา ขณะที่ยังมีรถยนต์ของชาวบ้านที่จอดอยู่ริมถนนถูกเสาไฟล้มลงมาทับได้รับความเสียหายไปอีก 3 คัน
ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่การไฟฟ้านครหลวงได้ระดมกำลังพร้อมเครื่องจักรหนักเข้าเร่งดำเนินการเคลียร์พื้นที่ถอนเสาที่หักออกและปักเสาต้นไปลงไปแทนที่ก่อนที่จะขึงสายส่งกระแสไฟฟ้าใหม่เกือบทั้งหมด คาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงกลางดึกของคืนนี้ แต่ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าได้ทำการบายพาสกระแสไฟฟ้าให้ชาวบ้านใช้เป็นการช่วยคราวเพื่อบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนให้กับชาวบ้าน
