หนุ่มแปดริ้วพึ่งซื้อกระบะมาจากเพชรบุรี ขากลับบ้านซิ่งลองเครื่องอ้างถูกเก๋งจี้ตูดเลยซิ่งหนี้ก่อนเสียหลักพุ่งชนแท่งปูกั้นกลางทางด่วนปาดหน้ากระบะนิสสันขณะกำลังขับพาครอบครัวกลับไปทำงานที่ชลบุรี หักหลบชนแท่งปูนกั้นข้างทางด่วนพลิกคว่ำ ส่วนรถชวาบ้านที่ขับตามหลังมาเบรกไม่ทันชนกันสนั่น 6 คันรวด กลางด่วนบูรพาวิถีขาออกมุ่งหน้าชลบุรี หลักกิโลเมตรที่ 33 + 500 ต.บางพลีน้อย อ.บางบ่อ สมุทรปราการ
เมื่อเวลา 19.30 น.วันที่ 15 เมษายน 2564 เจ้าหน้าที่ตำรวจทางด่วนพิเศษบูรพาวิถี ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถชนกันจำนวนหลายคนมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายรายที่บริเวณทางด่วนบูรพาวิถีขาออกหลักกิโลเมตรที่ 33 + 500 ต.บางพลีน้อย อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยกู้ภัยทางด่วนและมูลนิธิร่วมกตัญญูเดินทางเข้าตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุได้รับรถยนต์เก๋งและรถยนต์กระบะเกิดอุบัติเหตุชนกันจำนวน 8 คัน สภาพพังยับเยินโดยหนึ่งในนั้นมีรถยนต์กระบะถูกชนจนพลิกคว่ำ กีดขวางการจราจรทั้ง 3 เลนรถไม่สามารถวิ่งผ่านได้ และในที่เกิดเหตุยังพบผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 5 รายผู้ใหญ่ 4 ราย เด็กชายวัย 6 ขวบอีก 1 ราย เจ้าหน้าที่มูลนิธิได้เร่งให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนรีบนำส่งรักษาที่โรงพยาบาลจุฬารัตน 11 และโรงพยาบาลรวมชัยประชารักษ์ โดยคันแรกเป็นรถยนต์กระบะ 4 ประตูยี่ห้อ อีซูซุดีแม็ก สีขาว ทะเบียน กฉ 3884 เพชรบุรี สภาพรถแต่งซิ่ง ด้านหน้าพังยับเยิน ซึ่งมีนายศุภพล ทองยั่งยืน อายุ 28 ปี ชาวจังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นคนขับ / คันที่ 2 เป็นรถยนต์เก๋งยี่ห้อ ฮอนด้า ซีวิค สีน้ำเงิน ทะเบียน ฏข 7887 กรุงเทพมหานคร ถูกเฉี่ยวได้รับความเสียหายเล็กน้อย / คันที่ 3 เป็นรถยนต์กระบะแคป ยี่ห้อ นิสสัน นาวาร่า สีขาว ทะเบียน ฒร 8066 กรุงเทพมหานคร ถูกชนจนพลิกคว่ำ ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 3 ราย เป็นผู้ใหญ่ 2 ราย เด็กชายวัย 6 ขวบซึ่งเป็นลูกชายอีก 1 ราย / คันที่ 4 เป็นรถยนต์เก๋งยี่ห้อ มิตซูบิชิ แลนเซอร์ สีบรอนซ์เทา ทะเบียน 7 กล 5018 กรุงเทพมหานคร ข้างขวาพังยับเยิน / คันที่ 5 เป็นรถยนต์กระบะดีแม็ก สีบรอนซ์เทา ทะเบียน 6 กฆ 4100 กรุงเทพมหานคร ถูกชนด้านท้าย / คันที่ 6 รถยนต์นั่งส่วนบุคคล 7 ที่นั่งยี่ห้อ ฟอร์ด เอเวอร์เรส สีดำ-เทา ทะเบียน 1 ขล 6315 กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าพังยับเยิน ด้านหลังยุบ / คันที่ 7 รถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า ยาริส สีดำ ทะบียน ขจ 4819 ระยอง จอดอยู่ในสภาพด้านท้ายพังยับเยิน และคันที่ 8 เป็นรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า ยาริส สีดำ ทะเบียน งค 8813 ชลบุรี ด้านหน้าพังยับเยิน โดยมีภาพจากกล้องหน้ารถยนต์กระบะคันที่พลิกคว่ำบันทึกเหตุการณ์เอาไว้ได้ โดยตามภาพขณะที่รถยนต์กระบะ ยี่ห้อ นิสสันสีขาว 4 ประตู คันที่พลิกคว่ำกำลังขับมาทางด้านเลนขวา อยู่ ๆ รถยนต์กระบะยี่ห้อ อีซุซุ 4 ประตู สีขาว ทะเบียน. กฉ 3884 เพชรบุรี ที่วิ่งมาทางเลนกลางด้วยความเร็วได้การทรงตัวหมุนตัดหน้าก่อนพุ่งชนแท่งปูนกั้นกลางทางด่าน ส่วนรถกระบะคันที่พลิกคว่ำได้หักหลบออกทางด้านซ้ายชนเข้ากับแท่งปูนกั้นขอบทางด่วนจนพลิกคว่ำ
นายดนุรักษ์ ( เสื้อสีน้ำเงินหัวเกรียน) คนขับรถยนต์กระบะที่พลิกคว่ำและได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ได้เล่าว่าก่อนเกิดเหตุตนพร้อมกับครอบครัวรวม 4 คน ได้ขับรถออกจากกรุงเทพมหานครมุ่งหน้าจะกลับไปทำงานที่จังหวัดชลบุรี ขณะขับมาถึงที่เกิดเหตุ ได้เห็นรถเก๋งและรถกระบะได้ขับแข่งกันมาด้วยความเร็ว โดยรถเก๋งอยู่เลนกลาง ส่วนรถยนต์กระบะ 4 ประตูอยู่เลนซ้าย ส่วนตนขับอยู่เลนขวา อยู่ ๆ รถยนต์กระบะ 4 ประตูได้หักหลบรถกระบะที่ที่ขับอยู่เลนซ้ายออกมาตัดหน้ารถเก๋งที่ขับอยู่เลนกลางด้วยความเร็วทำให้รถกระบะ 4 ประตูคันดังกล่าวเสียการทรงตัวหมุนเข้ามาตัดหน้ารถตนกะทันหันก่อนพุ่งชนแท่งปูนกลางทางด่วน และตนได้หักหลบออกทางด้านซ้ายทำให้พุ่งชนแท่งปูนขอบทางด่วนจนพลิกคว่ำ
ด้านนาย กิตติภณ สิงห์คาม (เสื้อขาวใส่ตุ้มหู) อายุ 29 ปี คนขับรถเก๋งฮอนด้า สีน้ำเงิน ทะเบียน ฎข 7887 กทม. ซึ่งเป็นรถคู่กรณีที่ขับแข่งกันมา ได้ออกมายอมรับว่า ขับมาด้วยความเร็ว เพราะจะรีบเดินทางกลับบ้านพัก โดยใช้ความเร็วมาประมาณ 130-140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่วนรถกระบะอีซุซุ สีขาว 4 ประตูขับมาในเลนซ้าย ส่วนตนมาเลนกลางและเข้าใจว่า รถอีซุซุ สีขาว คิดว่าตนจะแข่งด้วยหรือท้าแข่งจึงขับตีคู่กันมาส่วนกระบะนิสสัน ที่พลิกคว่ำขับอยู่เลนขวา ถูกรถกระบะอีซุซุ ปาดเข้ามาและเสียหลักพุ่งชนแท่งปูนกลางถนน กระบะนิสสันจึงหักหลบเข้ามาทางซ้ายชนแท่งปูนกั้นขอบทางด่วนจนพลิกคว่ำ ส่วนคันอื่น ๆ ที่ตามหลังมาน่าจะเบรกกะทันหันและเกิดชนท้าย
ด้านนาย ศุภพล คนขับกระบะ อีซุซุ 4 ประตู สีขาว คันต้นเหตุ ให้การรับสารภาพว่า ตนเพิ่งไปซื้อรถคันนี้มาจากจังหวัดเพชรบุรีและกำลังเดินทางกลับจังหวัดฉะเชิงเทรา ยอมรับว่าขับมาด้วยความเร็วเพราะต้องการลองรถด้วยจนมาเจอรถเก๋งฮอนด้า สีน้ำเงิน ขับจี้ตูดมาตนเข้าใจว่ามีการท้าทายจะประลองความเร็วจึงเหยียบคันเร่งเพื่อหนีจนมาเกิดอุบัติเหตุดังกล่าว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จะได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่ใกล้จุดที่เกิดเหตุเพื่อลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
