ผู้เสียหายถูกขาใหญ่ยกพวกรุมทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส ได้เดินทางมาพร้อมทนายเกรียงศักดิ์ พินทุสรศรี เข้าพบ พ.ต.อ.นิรันดร ฟักสุบัน ผกก.สภ.บางเสาธง เพื่อร้องขอความเป็นธรรมหลังคดีผ่านไปเกือบปีแต่คดีไม่คืบ ที่ สภ.บางเสาธง สมุทรปราการ
เมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 23 เมษายน 2564 ทนายเกรียงศักดิ์ พินทุสรศรี ทนายความ พร้อมด้วยนายอิลฟานส์ หนิโซ๊ะ อายุ 22 ปี ผู้เสียหายที่ถูกวัยรุ่นเจ้าถิ่นกว่า 10 คนเข้ารุมทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดที่บริเวณหน้าคลังสินค้าช็อปปี้ ภายในซอยวัดบัวโรย ต.บางเสาธง อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ เหตุเกิดเมื่อช่วงหัวค่ำของวันที่ 21 พฤษภาคม 2563 จนมาถึงวันนี้เวลาผ่านไปเกือบปียังไม่มีความคืบหน้าของคดี หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่จับกุมผู้ก่อเหตุได้เพียงคนเดียว หลังจากนั้นเรื่องก็เงียบหายไปยังไม่มีอะไรคืบหน้า
นายอิลฟานส์ ผู้เสียหาย ได้กล่าวว่า หลักจากเกิดเหตุ ตนและแฟนต้องลาออกจากงานไม่กล้าอยู่ญาติ ๆ จึงให้กลับไปรักษาตัวมาอยู่ที่บ้านในจังหวัดนราธิวาส และทางตำรวจนัดให้มาพบ 4-5 ครั้งตนก็ต้องนั่งเครื่องบินมา ค่าใช้จ่ายทั้งหมดตนก็ต้องออกเองทั้งค่าเดินทางและค่าที่พักครั้งละเกือบหมื่น แต่ละครั้งที่มาพบตำรวจก็ได้แค่สอบเพิ่มเติมและก็เซ็นเอกสารเท่านั้นแต่ก็ไม่มีความคืบหน้าใด ๆ และทางคู่กรณีเคยมาคุยด้วยว่าครั้งหนึ่งว่าเขาก็บอกว่าไม่มีถ้าอย่างนั้นก็ไปคุยกันที่ศาล ขนาดรถจักรยานยนต์ของตนที่ถูกทุบเสียหายจนถึงวันนี้ตนก็ยังไม่ได้ซ่อมเลย
ทนาย เกรียงศักดิ์ พินทุสรศรี ทนายความได้กล่าวว่า ในเรื่องนี้ก็จะดูก่อนว่าในคดีนี้ช้าหรือบกพร่องที่ใครตนก็จะฟ้อง 157 ประพฤติมิชอบ ถ้ามาเหตุประพฤติมิชอบเรื่องนี้ต้องชัดเจนเพราะทำให้เขาเสียหายประชาชนเดือดร้อนเสียหาย อยู่เฉยมาถูกรุมทำร้ายคนผิดและไม่ทำอะไรกันเลย บ้านเมืองก็อยู่ยาก วันนี้ตนก็เลยทำคำร้องขอความเป็นธรรมให้กับผู้เสียหาย และถ้าเลยจากวันนี้เดือนหรือ 2 เดือน ถ้ายังไม่มีความคืบหน้า ตนก็คงฟ้องก่อน ฟ้องละเมิด ฟ้องแพ่ง และคงจะฟ้องอาญา ขอไตรสวนเอง ต้องพึ่งบารมีของศาลแล้ว หลังจากนั้นทนายเกรียงศักดิ์ ได้พาผู้เสียหายได้เข้ายื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมในเรื่องคดีต่อ พ.ต.อ.นิรันดร ฟักสุบัน ผกก.สภ.บางเสาธง สมุทรปราการ ใช้เวลานานกว่าครึ่งชั่วโมง
พ.ต.อ.นิรันดร ฟักสุบัน ผกก.สภ.บางเสาธง ได้ออกมาชี้แจงต่อสื่อมวลชนว่า จากที่ทางผู้เสียหายและทนายความได้เข้ามาร้องขอความเป็นธรรมในเรื่องคดีนี้นั้น ซึ่งเป็นเรื่องความเดือดร้อนที่ทางผู้เสียหายได้รับ เราก็ได้นำสำนวนขึ้นมาดูก็ได้ทราบถึงความล่าช้า แต่หลังจากนี้ไปก็พยายามจะทำให้อยู่ในกรอบเวลาและจะพยายามเร่งรัดให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่ายให้รวดเร็วที่สุด ซึ่งก็ได้มีการนัดผู้เสียหายและทนายไว้แล้วว่าห่วงเวลาไหนเราจะดำเนินการให้เร็วที่สุด ส่วนในเรื่องความซับซ้อนของคดีนี้ ก็น่าจะเป็นในเรื่องของพยานและหลักฐานในช่วงที่เกิดเหตุเป็นเหมือนชุลมุน และภาพจากกล้องวงจรปิดเป็นช่วงเวลากลางคืน ทำให้ภาพวงจรปิดไม่ค่อยชัดเจน ซึ่งก่อนหน้านี้เราได้ออกหมายจับผู้ต้องหาไปแล้ว 1 คน ซึ่งก็มีการจับกุมตัวได้แล้วและอยู่ระหว่างแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มอีกคน ซึ่งขณะนี้ส่งสำนวนเรื่องไปที่อัยการแล้ว ซึ่งระหว่างนี้อยู่ระหว่างส่งสำนวนให้อัยการคาดว่าน่าจะแล้วเสร็จภายในต้นเดือนพฤษภาคม ที่จะถึงนี้อย่างแน่นอน
