เกิดเหตุระทึก พายุถล่มซัดหลังคาบ้านปลิวว่อนเสาไฟล้มทับรถเสียหายหลายคัน และบ้านอีกหลายหลังคาเรือน กล้องหน้ารถจับภาพขณะฟ้าผ่าลงเสาไฟและพายุพัดผ่านเพียงแค่แวบเดียวหลังคาทับรถและต้นไม้ลอยมาทับรถ โชคดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดภายในซอยโรงงานเบนซ์ ถนนบางนา-ตราดขาเข้า หลักกิโลเมตรที่ 19 หมู่ 9 ตำบลบางโฉลง อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ
เมื่อเวลา 21.00 น.วันที่ 23 เมษายน 2564 ได้เกิดฝนตกลงมาอย่างหนักในหลายพื้นที่ของจังหวัดสมุทรปราการ และได้เกิดฟ้าผ่าลงเสาไฟฟ้าภายในซอยโรงงานเบนซ์ ถนนบางนา-ตราดขาเข้า หลักกิโลเมตรที่ 19 หมู่ 9 ตำบลบางโฉลง อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ทำให้เสาไฟฟ้าหักล้มลงมาทับรถยนต์ของชาวบ้านที่จอดอยู่ริมถนนได้รับความเสียหายหลายคัน และมีลมกรรโชกอย่างรุนแรงก่อนที่จะเกิดพายุหมุนหอบเอาหลังคาสังกะสีและหลังคากระเบื้องปลิวว่อนไปตกอยู่กลางถนนบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายกว่า 20 หลังซึ่งส่วนใหญ่เปิดเป็นร้านอาหารตามสั่งและอยู่อาศัย ทำให้กระแสไฟฟ้าดับเป็นวงกว้างโรงงานอุตสาหกรรมที่ตั้งอยู่ภายในซอยดังกล่าวหลายสิบโรงงานต้องหยุดการทำงานเนื่องจากกระแสไฟฟ้าดับ โดยขณะที่ฟ้าผ่าลงเสาไฟฟ้าจนเสาไฟฟ้าหักล้มลงมากล้องหน้ารถของแท็กซี่ได้บันทึกเหตุการณ์เอาไว้ได้ โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเพียงไม่ถึง 2 นาที แต่สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านกว่า 50 ชีวิตไร้ที่อยู่อาศัย และมีรถยนต์ได้รับความเสียหายจำนวน 10 คัน และรถซาเล้งพ่วงข้างขายของอีก 2 คัน ที่ถูกเสาไฟทับ ถูกสายไฟฟ้าขนาดใหญ่พาดใส่ตัวรถและถูกหลังคาสังกะสีปลิวลงมาใส่จนกระจกแตก หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่การไฟฟ้านครหลวง สาขาบางพลีสมุทรปราการ ได้ระดมเครื่องจักรหนักพร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายกองช่างกว่า 50 ชีวิตเข้าทำการรื้อถอนเสาไฟฟ้าที่หักโค่นลงมาและเตรียมปักเสาไฟฟ้าขึ้นใหม่ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จก่อนรุ่งสางของวันพรุ่งนี้
ข่าวน่าสนใจ:
โดยนายไพโรจน์ แจ้งสวัสดิ์ อายุ 55 ปี คนขับรถแท็กซี่ ได้เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้ขับรุแท็กซี่คันดังกล่าวเข้ามาเอากับข้าวที่โทรมาสั่งเอาไว้ โดยขณะที่ขับรถมาถึงร้านอาหารตามสั่งที่ตนสั่งไว้ได้มีฝนตกลงมาอย่างหนักและมีลมกรรโชกแรง ขณะที่ตนขับรถมาถึงหน้าร้านอยู่ ๆ ได้เกิดฟ้าผ่าลงมาที่หม้อแปลงที่ติดอยู่บนเสาไฟฟ้าเสียงดังสนั่นก่อนที่เสาไฟฟ้าจะหักและล้มลงมาทับรถยนต์ของชาวบ้านที่จอดอยู่ริมถนนร่วมทั้งรถแท็กซี่ของตนด้วยซึ่งขณะนั้นได้เกิดพายุลมหมุนดูดเอาหลังคาสังกะสีและหลังคากระเบื้องของบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ในที่เกิดเหตุเกือบ 20 หลังปลิวว่อนก่อนที่จะตกลงมาใส่รถและตกกลางถนนท่ามกลางเสียงหวีดร้องของชาวบ้าน
นางทองจันทร์ ดวงดี อายุ 53 ปี หนึ่งในชาวบ้านที่อยู่ในเหตุการณ์ ได้เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนกำลังทำยืนทำกับข้าวในครัว จู่ก็มีฝนตกลงมาอย่างหนักแบบที่ไม่เคยเจอมาก่อน ฟ้าก็ร้องเสียงดังมากและมีลมพัดมาอย่างแรง หลังคาสังกะสีหลุดปลิวไปกับสายลม ด้วยความตกใจและความกลัวตนได้รีบมุดเข้าไปอยู่ใต้โต๊ะระหว่างที่หลบอยู่ใต้โต๊ะนั้นทั้งหลังคาทั้งโครงสร้างไม้ต่างๆ พังถล่มลงมาใส่เคราะห์ดีที่ตนหลบใต้โต๊ะจึงไม่ได้รับบาดเจ็บ โดยเหตุการณ์มันเกิดขึ้นเร็วมากประมาณ 2 นาที ตั่งแต่ตนเกิดมาจนถึงวันนี้ก็พึ่งเจอครั้งแรกเคยเห็นแต่ในทีวี ไม่คิดว่าจะมาเจอเขากับตัวเอง ยอมรับว่ากลัวมาก
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: