จักรยานยนต์หักหลบเก๋งที่พุ่งออกมาปาดหน้าเฉี่ยวชนกันล้มคนซ้อนท้ายดวงกุดกระเด็นเข้าใต้ล้อรถพ่วง 18 ล้อทับกะโหลกแตกดับคาถนน ที่บริเวณถนนสุขุมวิทขาเข้าตลาดปากน้ำ หน้าตลาดไมอามี่ ต.ท้ายบ้าน อ.เมือง จ.สมุทรปราการ
เมื่อเวลา 17.30 น.วันที่ 25 เมษายน 2564 ร.ต.อ.ปัญญาพล บุญศรี รองสารวัตรสอบสวน สภ.บางปูสมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์เฉี่ยวชนกันและถูกรถพ่วง 18 ล้อทับมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ที่บนถนนสุขุมวิทขาเข้าตลาดปากน้ำ หน้าตลาดไมอามี่ ต.ท้ายบ้าน อ.เมือง จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยมูลนิธิร่วมกตัญญูเดินทางเข้าตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบผู้บาดเจ็บจำนวน 2 รายชื่อนาย ชลิบ คงสะกาง อายุ 33 ปี และนายปรัญชัย ประการแก้ว อายุ 25 ปี มีบาดแผลถลอกตามร่างกาย มูลนิธิได้ให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนนำส่งรักษาที่โรงพยาบาลศิครินทร์บางปู และในที่เกิดเหตุยังพบร่างของนายสุทิน นิมมา อายุ 36 ปี ชาวจังหวัดบึงกาฬ นอนจมกองเลือดเสียชีวิตอยู่กับพื้นถนนในสภาพกะโหลกแตกมันสมองปนเลือดสาดกระจายเกลื่อนถนน ซึ่งพยานที่เห็นเหตุการณ์ได้ระบุว่ากระเด็นเข้าไปใต้ล้อหลังหางพ่วง 18 ล้อทับจนศีรษะแตก แต่รถพ่วงคันดังกล่าวได้ขับหลบหนีไป โดยมีพลเมืองดีคนขับแท็กซี่ที่เห็นเหตุการณ์ติดตามไป ใกล้ร่างผู้เสียชีวิตพบรถจักรยานยนต์ล้มคว่ำอยู่จำนวน 2 คัน คันแรกยี่ห้อ ฮอนด้า เวฟ สีน้ำเงิน ทะเบียน 2 ขน 4672 กรุงเทพมหานคร สภาพด้านท้ายพังยับเยินที่นายชลิบ ผู้บาดเจ็บขับมาและผู้ตายนั่งซ้อนท้ายมา ส่วนคันที่สอง เป็นรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า เวฟ สีแดง ทะเบียน 2 กว 6227 กรุงเทพมหานคร มีลอยถลอกเล็กน้อย ซึ่งมีนายปรัญชัย ผู้บาดเจ็บเป็นคนขับ ในระหว่างเจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบที่เกิดเหตุ พลเมืองดีคนขับแท็กซี่ที่ติดตามรถพ่วงไปได้ย้อนกลับมาแจ้งว่า รถพ่วงคันดังกล่าวไปจอดอยู่ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 500 เมตรพร้อมคนขับ
โดยนายพงษ์ศักดิ์ ทิพปราสัย อายุ 41 ปี คนขับแท็กซี่ที่เห็นเหตุการณ์ได้เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้ขับรถแท็กซี่เลี้ยวออกมาจากตลาดไมอามี่ และเจอรถสองแถวอยู่ด้านหน้าซึ่งขณะนั้นรถติดทางเข้าแม็คโครไมอามี โดยสองแถวได้บอกว่ามีรถยนต์เก๋งขับออกมาจากแม็คโคร พุ่งเข้าเลนที่สอง ซึ่งขณะนั้นรถจักรยานยนต์ทั้งสองคันได้ขี่มาด้วยความเร็วในเลนกลาง และหักหลบรถเก๋งที่พุ่งออกมาจนเกิดเกี่ยวกันจนรถจักรยานยนต์ทั้งสองคันเสียหลักล้ม ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่รถพ่วง 18 ล้อคันดังกล่าวขับมาทางด้านเลนขวาด้านหน้าเลยไปแล้วเหลือเพียงล้อหลังของหางพ่วงที่จะไม่พ้นที่เกิดเหตุ จังหวะที่รถจักรยานยนต์ทั้งสองคันเกี่ยวกันและเสียหลักล้มชายที่ขี่รถจักรยานยนต์ได้กระเด็นตกจากรถออกมาทางซ้าย ส่วนผู้ตายที่นั่งซ้อนท้ายมากระเด็นออกไปทางด้านขวาจึงถูกล้อหลังของหางพ่วงข้างซ้ายทับที่ศีรษะ ซึ่งคาดว่าขณะเกิดเหตุคนขับรถพ่วงน่าจะไม่รู้ จึงได้ขับต่อไปแบบปกติ ตนจึงขับแท็กซี่ตามไปตะโกนว่า คนขับรถพ่วงจึงได้จอดรถเข้าข้างทางห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 500 เมตร
ด้านนายยิงเจริญ ทองแดง อายุ 29 ปีคนขับรถพ่วง 18 ล้อคันดังกล่าวได้เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนกำลังขับรถมาจากบางบ่อ เพื่อไปรับสินค้าที่ท่าเรือย่านถนนท้ายบ้าน ขณะที่ขับมาเรื่อยเนื่องจากขณะนั้นการจราจรหนาแน่นโดยเฉพาะในเลนซ้ายที่มีรถจอดรอเลี้ยวเข้าตลาดไมอามี และมีรถสองแถววิ่งอยู่เลนกลาง ตนจึงได้ออกมาขับทางด้านเลนขวา โดยขับมาเรื่อยเลยที่เกิดเหตุมา จนกระทั่งมาถึงหน้าสวางคนิเวศ ได้มีรถแท็กซี่ขับตามหลังมาได้ตะโกนบอกว่าล้อหลังรถตนทับคนเสียชีวิตที่หน้าตลาดไมอามี ตนจึงได้จอดรถเข้าข้างทางแบบงง ๆ เพราะขณะเกิดเหตุตนไม่รู้เรื่องหรือเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิฐานว่า ขณะที่รถจักรยานยนต์ทั้งสองคันเกิดการเฉี่ยวชนกัน ซึ่งเป็นช่วงที่ด้านหัวของรถพ่วง 18 ล้อคันดังกล่าวเลยขึ้นไปแล้ว จึงได้เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าล้อหลังของหางพ่วงรถของตนเองไปทับคนเสียชีวิต จนมีพลเมืองดีขับรถตามไปบอก อย่างไรก็ตามจะได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่ในละแวกที่เกิดเหตุเป็นหลักฐานในการดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
