คืบหน้า กรณี หนุ่มซิ่งจักรยานยนต์ลักทรัพย์ยายวัย 76 ปี ขณะหลับอยู่ในร้านขายของชำ ภายในซอยบางด้วน ตำรวจเผยเคยก่อเหตุมาอย่างโชกโชน
จากกรณีที่เฟซบุ๊กของหญิงสาวที่ใช้ชื่อว่า ความทรงจำ สีจาง ได้นำรูปภาพและคลิปมาโพสต์บนโซโลกโซเชียล พร้อมระบุข้อความว่า 28/4/64 เหตุเกิดในซอยบางด้วน มีขโมยขี่รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า คลิก ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ได้เข้ามาขโมยกระเป๋าเงินคุณยาย ในร้านค้า เอามือดันกล้องวงจรปิดหนี คุณยายได้แจ้งความแล้ว ทางตำรวจบอกว่าก่อเหตุหลายพื้นที่แล้วค่ะ ใครพอมีเบาะแสจำรูปประพันธ์คนร้ายได้ช่วยแจ้งช่วยแชร์หน่อยค่ะ
ข่าวน่าสนใจ:
- ชมคลิป-เตรียมเที่ยวงาน 10 ชาติพันธุ์ ยิ่งใหญ่กว่าเดิมในรูปแบบใหม่ ชมขบวนแห่กลุ่มชาติพันธุ์อลังการ
- สูงวัยตรัง ปลื้ม เตรียมตัวรับเงินหมื่น ฝันใช้ยามแก่-ต่อยอดอาชีพบั้นปลาย
- วิกฤตพะยูนตรัง 7 วันสำรวจ พบแค่ตัวเดียว ทดลองวางแปลงอาหาร กลับถูกเมินไม่ยอมกิน
- ชาวบ้านผวา พบเสือ 3 แม่ลูก ป้วนเปี้ยนในป่า 100 ไร่ใกล้ฟาร์มเลี้ยงวัว ไม่กล้าเกี่ยวข้าว-กรีดยาง วอนบุกพิสูจน์
ต่อมาเมื่อช่วงบ่ายของวันนี้ที่ 30 เมษายน 2564 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านที่เกิดเหตุ ได้พบนายนิติกุล ฤกษ์งาม อายุ 33 ปีลูกชาย ได้เล่าว่า ในวันที่เกิดเหตุเป็นช่วงที่ตนไปเข้าห้องน้ำส่วนคุณแม่ก็นอนอยู่หน้าบ้านก็เป็นปกติของคนแก่และกินยาทำให้เกิดอาการง่วงนอนก็นอนหน้าบ้านเป็นประจำ และเชื่อว่าผู้ก่อเหตุน่าจะสังเกตมานานแล้ว ตอนที่ดูในกล้องคือวิ่งมาเขาก็มองเข้ามาเลย และก็เห็นแม่ตนหลับอยู่และมีการขี่เลยไปเล็กน้อยแล้วก็ไปกลับรถมาและมาจอดที่ฝั่งตรงข้ามบ้าน และเดินข้ามถนนเข้ามาก็ไม่พูดไม่จาอะไรเพราะตนอยู่ในห้องน้ำก็ไม่ได้ยินเสียงอะไร มองซ้ายมองขวาถือกระเป๋าสตางค์เหมือนจะมาซื้อของ และยืนลังเลอยู่พักหนึ่งก่อนที่จะหมุนกล้องและเอื้อมมือไปจับกระเป๋ามีขยับดูเล็กน้อยว่าแม่ตนจะรู้สึกตัวหรือเปล่า ก่อนที่จะหยิบไปหลังเกิดเหตุได้ประมาณ 1 ชั่วโมงกว่าตนจึงพาคุณแม่ไปแจ้งความ เพราะมัวแต่ไล่กล้องวงจรปิดอยู่ หลังพาแม่ไปแจ้งความเจ้าหน้าที่ได้บอกว่าจากรูปพรรณและรถที่คนร้ายใช้เชื่อว่าเป็นคนร้ายที่เคยก่อเหตุมาแล้วในหลายพื้นที่ ล่าสุดก่อนที่แม่ตนจะโดนที่ร้านขายอาหารตามสั่งหน้าปากซอยก็เคยถูกก่อเหตุลักษณะเดียวกันมาแล้วครั้งหนึ่งแต่ครั้งนั้นไม่มีหลักฐาน
ด้านนางประนอม ฤกษ์งาม อายุ 76 ปี ได้เล่าทั้งน้ำตาคลอเบ้าว่า ทรัพย์สินที่หาย เป็นกระเป๋าคาดเอวสีดำแต่ใบใหญ่ ทุกที่ที่ตนนอนก็จะกอดเอาไว้แต่วันนั้นลืมกอดมันเลยเอาไปหมดเลย ภายในมีเงินสดอยู่เกือบ 1 หมื่นบาทแต่บอกลูกแค่ 5 พันกลัวลูกชายจะเครียด และในวันที่เกิดเหตุตนไม่สบายเลยกินยาเข้าไป มารู้ตัวอีกทีหลังจากที่เกิดเหตุไปแล้วประมาณครึ่งชั่วโมง หลังจากที่ตนตื่นขึ้นก็ไปนั่งเรียงและจัดสินค้าในร้าน พอดีเกิดปวดท้องเลยบอกให้ลูกชายดูหน้าบ้านให้จะไปเข้าห้องน้ำ หากระเป๋าไม่เจอแล้วหาเท่าไหร่ก็ไม่เจอ เพราะตอนที่ตื่นมาก็ยังไม่รู้ตัวเลยว่ากระเป๋าเงินหาย ปกติก็จะสะพายเอาไว้เพราะกระเป๋ามันใหญ่ เมื่อคืนนอนร้องไห้ทั้งคืน ในกระเป๋านอกจากเงินสดแล้วก็มีจำพวกบิลค่าน้ำค่าไฟ ส่วนทรัพย์สินที่มีค่าตนไม่ได้ใส่เอาไว้ และดูจากกภาพที่กล้องบันทึกไว้ได้ มันก็มองไม่เห็นว่าเป็นใคร มันใส่หมวกกันน็อกเห็นเพียงลูกตานิดเดียว แถมใส่แมสก์ปิดปากอีก ถ้าถามว่าเสียดายหรือเปล่าตอบได้เพียงอย่างเดียวเลย ทำให้เขาใช้แท้ ๆ เลยเสียดายน่าดูเลย เพราะเงินส่วนหนึ่งตนเตรียมเอาไปจ่ายค่าเสาที่จะเอาไปทำรั้วรอบบ้าน เพราะไอ้โควิดนี่แหละทำให้ไม่เห็นหน้าเห็นตาเพราะไอ้โควิดนี้แหละที่ต้องปิดแมสก์ แถมใส่หมวกกันน็อกอีกไปกันใหญ่เลย มองไม่เห็นเลย ซึ่งคิดว่าน่าจะเตรียมการมาอย่างดีใส่ถุงมือมาด้วย คงมาดูลาดเลาไว้หลายวันแล้ว
ส่วนทางด้านคดีทาวด้าน พ.ต.อ.เติมรัศมิ์ จินดาวัฒน์ ผกก.เมืองสมุทรปราการ ได้กล่าวว่าขณะนี้พอทราบแล้วว่าคนร้ายเป็นใครและเคยก่อเหตุมาหลายครั้งในหลายพื้นที่ จากรถจักรยานยนต์ที่คนร้ายใช้และรูปร่างของผู้ก่อเหตุซึ่งก็ตรงกันทั้งหมด ซึ่งขณะนี้ได้ส่งกำลังออกไปติดตามหาตัวอยู่ คาดว่าน่าจะสามารถจับกุมได้ในเร็ว ๆ นี้
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: