แม่ร้องสื่อน้องเขยมอมเหล้าลูกสาววัย 13 ปี ก่อนล่วงละเมิดทางเพศ ภายในบ้านพักย่าน ต.ท้ายบ้าน อ.เมืองสมุทรปราการ หลังเกิดเหตุน้าเขย ตัวแสบย่องพบตำรวจ รับสารภาพว่าทำจริง อ้างแค่ใช้นิ้วแหย่ จึงสอบปากคำไว้เบื้องต้น ก่อนปล่อยตัวชั่วคราว ส่วนเด็กหญิงผู้เสียหายได้ส่งตัวไปตรวจร่างกาย ที่โรงพยาบาลสมุทรปราการ พร้อมนัดผู้เสียหายเข้าสอบปากคำต่อหน้าสหวิชาชีพอีกครั้ง เพื่อรวบรวมหลักฐาน ประกอบสำนวนคดี ออกหมายเรียกผู้ก่อเหตุ มารับทราบข้อกล่าวหาเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
เมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 2 พฤษภาคม 2564 นางเอ (นามสมุติ) อายุ 49 ปี พา ด.ญ.บี ( นามสมมุติ) อายุ 13 ปี ผู้เป็นลูกสาวเข้าร้องเรียนต่อสื่อมวลชน หลังจากลูกสาววัย 13 ปี ของตนถูกน้องเขยล่วงละเมิดทางเพศ ภายในบ้านพักในย่าน ต.ท้ายบ้าน อ.เมืองสมุทรปราการ เหตุเกิดเมื่อช่วงเย็นวันที่ 1 พฤษภาคม ที่ผ่านมา หลังทราบเรื่องตนได้พาลูกสาวเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรปราการ
ข่าวน่าสนใจ:
- กกต.ตรัง พร้อมเปิดสนาม จัดเลือกตั้งอบจ. เปิดยิม 4,000 ที่นั่งรับสมัคร พื้นที่กว้างขวางรองรับกองเชียร์ผอ.กกต.ตรัง เผยการข่าวพบ 3…
- พร้อมรับสมัครเลือกตั้งนายกและสมาชิกสภา อบจ.พังงา เชิญชวนคนดีมีความสามารถมาสมัคร 23-27 ธันวาคมนี้
- 33 ปี ยอยศยิ่งฟ้าอยุธยามรดกโลก 13-22 ธันวาคม 67
- ทนายเกรียง พา สาวนักแข่งรถจักรยานยนต์ทีมชาติไทย แจ้งความดำเนินคดีกับนายกสมาคม ข้อหาหมิ่นประมาท และ พรบ.คอม
ด.ญ.บี ได้เล่าว่า บ้านที่เกิดเหตุเป็นบ้านของน้องน้าสาว ปกติจะมีคนอาศัยอยู่ในบ้าน 3 คนประกอบด้วย น้าสาว นายต้า ซึ่งเป็นน้าเขย ซึ่งเป็นพ่อเลี้ยง ของ น.ส.น้อย อายุ 16 ปี ลูกสาวของน้า วันเกิดเหตุ น.ส.น้อย ได้ขี่รถจักรยานยนต์ มารับตนที่บ้านพัก เนื่องจากตนจะไปเล่นกับ น.ส.บี ที่บ้านน้าอยู่เป็นประจำ ในช่วงที่น้าสาว ออกไปทำงาน ก่อนเกิดเหตุน้าเขยได้ออกไปซื้อเหล้าขาวมากิน ก่อนที่จะชักชวนตน น.ส.น้อย ลูกเลี้ยง มานั่งคุยและดื่มด้วยกัน กระทั่งตกเย็นตนเริ่มมีอาการมึน จึงขอตัวเข้าไปนอนในห้องของ น.ส.น้อย โดยมี น.ส.น้อย เข้าไปอยู่เป็นเพื่อน จนเวลาผ่านไประหว่างนั้น น.ส.น้อย ได้ออกจากห้องไปต้มมาม่ากิน ส่วนตนนอนหลับอยู่ในห้องเพียงลำพัง แต่ระหว่างที่หลับอยู่นั้น จู่ ๆ ก็รู้สึกว่า มีคนเอามือมาล้วงที่กางเกงและจับอวัยวะเพศ ตนจึงสะดุ้งตื่นก็ต้องต้องตกใจ เมื่อเห็นน้าเขยมานอนอยู่ข้าง ๆ และใช้มือแหวกขากางเกงขาสั้นที่ตนสวมใส่อยู่ออกไปร่วมอยู่ข้างหนึ่งและลงมือกระทำชำเราตน ซึ่งในช่วงที่ตนนั้นไม่สามารถขัดขืนได้ ระหว่างนั้นน้าเขยได้ยินเสียง น.ส.น้อย เรียก จึงรีบปล่อยตนและเดินออกจากห้องไป ผ่านไปไม่นานน้าเขย ก็กลับเข้ามาในห้องอีกและพยายามลงมืออีกครั้ง แต่ขณะนั้นตนเริ่มมีสติจึงได้ขัดขืน น้าเขยจึงรีบออกจากห้องไป ตนจึงบอก น.ส.น้อย ให้พาไปส่งที่บ้าน และเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้พ่อกับแม่ฟัง
นางเอ ผู้เป็นแม่ เล่าทั้งน้ำตาว่า หลังจากได้ฟังเรื่องราวทั้งหมด ตนรู้สึกช็อคและแค้นใจ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่คิดว่าคนที่ใกล้ตัวจะมาทำกับลูกสาวตนแบบนี้ เพราะคนที่ก่อเหตุน่าละอาย เป็นคนในบ้านก็ว่าได้ เพราะเป็นน้องเขยของตน ซึ่งหลังเกิดเหตุนายต้า ได้ไปขอลงประจำวันที่ สภ.เมืองสมุทรปราการว่า ลงมือกระทำอนาจารลูกสาวตน แต่ไม่ได้ข่มขืนเพียงแต่ใช้นิ้วแหย่เข้าไปเท่านั้น เมื่อตนทราบว่านายต้า ไปที่โรงพักจึงตามไปพร้อมกับญาติพี่น้อง และยืนยันว่าจะดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุด และล่าสุดทราบว่านายต้า ถูกน้องสาวตนไล่ออกจากบ้านไปแล้วโดยขนข้าวของกลับไปอยู่บ้านที่ต่างจังหวัด
น.ส.น้อย ได้เล่าว่า วันเกิดเหตุ ตนไปรับน้องมาอยู่เป็นเพื่อนที่บ้าน ระหว่างนั้นนายต้า พ่อเลี้ยงได้ซื้อเหล้าขาวมากินที่บ้าน และชักชวนตนและน้องดื่มด้วย หลังจากนั้นน้องเริ่มเมา และเข้าไปนอนในห้องของตน และระหว่างเกิดเหตุตนก็ไม่เห็นเหตุการณ์ เนื่องจากออกไปต้มมาม่า แต่เชื่อว่าพ่อเลี้ยงน่าจะทำพฤติกรรมดังกล่าวจริง
ร.ต.ท.หญิงบูลษา ณะบุตรจอม รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองสมุทรปราการ ให้ข้อมูลว่า หลังเกิดเหตุนายต้า ได้เดินทางมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจเอง จึงได้ทำการสอบปากคำไว้เบื้องต้นกับทั้งสองฝ่าย โดยนายต้า รับสารภาพว่า กระทำชำเราเด็กหญิงดังกล่าวจริง ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะปล่อยตัวกลับไปก่อน ส่วนเด็กหญิงผู้เสียหายได้ส่งตัวไปตรวจร่างกาย ที่โรงพยาบาลสมุทรปราการ จากนั้นจะได้นัดผู้เสียหายเข้าสอบปากคำต่อหน้าสหวิชาชีพอีกครั้ง เพื่อรวบรวมหลักฐาน ประกอบสำนวนคดี ออกหมายเรียกนายต้า มาแจ้งข้อหาเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: