สุดสลดพายุกระหน่ำคลื่นซัดบ้านพังนั่งเรือหนีถูกซัดเรือจมแม่กอดลูกวัย 7 ขวบจมหายสุดท้ายลูกไม่รอด เหตุเกิดบริเวณปากคลองวัดศรีคง เชื่อมต่อกับทะเล หมู่ที่ 11 ตำบลแหลมฟ้าผ่า อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ
เมื่อเวลา 07.30 น.วันที่ 6 พฤษภาคม 2564 พ.ต.ท.วุฒิชัย สังวาลทรัพย์ สารวัตรสอบสวน สภ.สาขลา สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีเด็กชายวัย 7 ขวบ จมน้ำเสียชีวิต ที่บริเวณปากคลองวัดศรีคง เชื่อมต่อกับทะเล หมู่ที่ 11 ตำบลแหลมฟ้าผ่า อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยมูลนิธิร่วมกตัญญูเดินทางเข้าตรวจสอบ
ข่าวน่าสนใจ:
- ตรัง การแข่งวิ่งสุดสยองชวนขนหัวลุก "วิ่งหนีเมรุ" ทำถึงธีมผีจัดเต็ม นักวิ่ง 300 คนร่วมวงหลอน
- วธ.จังหวัดนครปฐมส่งเสริมประเพณี “ลอยกระทง วิถีไทย ใส่ใจสิ่งแวดล้อม” ประจำปี 2567 “คืนจันทร์เพ็ญงามอร่ามตา สืบสานรักษาคลองเจดีย์บูชา…
- คึกคัก!! อบต.แสนตอ ร่วมสืบสานประเพณีลอยกระทง 67
- สุดยอดงานกฐินบุญต่อชีวิตคน พระอาจารย์เขียวทอดกฐินสามัคคีจัดซื้อรถพยาบาลฉุกเฉินและอุปกรณ์ทางการแพทย์มุลค่ากว่า5ล้านบาท
ในที่เกิดเหตุได้พบนางสาวจงกล สะงางาม อายุ 42 ปี กำลังนั่งกอดศพเด็กชาย สุริยะ สังเวียน อายุ 7 ขวบ ซึ่งเป็นลูกชายที่สำลักน้ำเสียชีวิตคาอกร่ำไห้ปานจะขาดใจ โดยนายสุรพล เกื้อกาล อายุ 52 ปี ผู้เป็นสามีและเป็นพ่อของเด็กชายวัย 7 ขวบที่เสียชีวิต ได้เล่านาทีชีวิตให้ฟังว่า ตนปลูกบ้านพักอยู่ริมทะเลชายฝั่งหายจากจุดพบลูกเมียประมาณ 1 กิโลเมตร โดยก่อนเกิดเหจุเมื่อช่วงประมาณตี 3 ได้เกิดพายุฝนตกลงมาอย่างหนักและลมพัดมาอย่างรุนแรง จนบ้านที่ปลูกอยู่ชายทะเลซึ่งเป็นบ้านไม้แบบชั้นเดียวถล่มลงมา ตนและภรรยาจึงได้รีบพาลูกชายขึ้นเรือเล็กขับหนีออมาจากบ้านที่พังถล่มลงมา หวังเพียงว่าจะปลอดภัย ขณะที่ตนกำลังขับเรือพาลูกเมียหนีออกมาก็ได้มีคลื่นขนาดใหญ่ซัดเรือล่มตนและภรรยาที่กอดลูกเอาไว้แน่นได้ถูกกระแสน้ำซัดแยกไปคนละทิศคนละทาง ตนพยายามว่ายสู้คลื่นเข้าไปหาลูกเมียที่พยายามลอยคอหาที่ยึดเพื่อเอาชีวิตรอด แต่ก็ถูกคลื่นซัดออกห่างไปอีก ตนพยายามยื่นไม้ให้ลูกเมียจับไว้แต่ด้วยความแรงของกระแสน้ำและคลื่นทำให้ภรรยาและลูก ถูกน้ำซัดหายไปอีกครั้ง ซึ่งตนก็คิดในใจว่าหากเป็นเช่นนี้ภรรยาและลูกคงไม่รอดแน่ ถึงแม้จะพยามช่วยเหลือเต็มที่แล้วแต่ก็สู้กับแรงน้ำไม่ไปไหว ตนลอยคออยู่ในน้ำแบบไร้ทิศทางจนกระทั่งรุ่งเช้าตนก็ได้รับการช่วยเหลือจากเพื่อนบ้านที่มาพบและพาขึ้นฝั่ง ส่วนภรรยาและลูกตนยังไม่ทราบชะตากรรม ตนและชาวบ้านจึงได้ช่วยกันนำเรือออกค้นหา และได้รับแจ้งว่ามีเรือชาวบ้านไปพบและช่วยเหลือภรรยาและลูกชายขึ้นฝั่งได้แล้ว แต่ลูกชายสำลักน้ำเสียชีวิต
นางสาวจงกล ผู้เป็นแม่ที่ได้แต่ร่ำไห้และก้มหอมแก้มลูกชายเป็นครั้งสุดท้าย ได้เล่าทั้งน้ำตาว่า หลังเจอพายุซัดบ้านจมหายไปตนและสามีได้พากันอุ้มลูกชายขึ้นเรือหวังหนีตายแต่สุดท้ายเจอคลื่นยักษ์ซัดจนเรือล่ม ตนตัดสินใจกอดตัวลูกชายไว้แน่นบอกไม่ยอมให้หลุดเพราะลูกชายว่ายน้ำไม่เป็น และพยายามพยุงตัวลอยคออยู่ในน้ำและพยายามมองหาที่เกาะ แต่ก็ไม่มีก่อนที่จะถูกกระแสน้ำซัด จนไปติดอยู่ต้นไม้หวังว่าลูกชายจะรอดแต่สุดท้ายลูกชายสำลักน้ำเสียชีวิตคาอกจนมีชาวบ้านขับเรือผ่านมาพบและให้การช่วยเหลือ
ขณะที่นายนที อ่ำถนอม พลเมืองดี ที่ขับเรือเข้าช่วยเหลือสองแม่ลูกได้เล่าว่า ขณะที่ตนขับเรือกำลังผ่านจะจุดที่พบสองแม่ลูก ก็ได้ยินเสียงผู้หญิงตะโกนว่า ช่วยด้วยช่วยด้วย จึงดับเครื่องเรือและมองหาที่มาของเสียง ตอนแรกก็ไม่เห็นอะไร แต่ก็ไม่ได้ละความพยายามมองหาจนไปพบหญิงคนดังกล่าว ลอยคอเกาะติดกิ่งแสมอยู่ จึงเทียบเรือเข้าไปช่วย แต่ต้องตะลึงเพราะไม่ได้มีแค่หญิงเพียงคนเดียว แต่หญิงคนดังกล่าวได้กอดลูกชายไว้แนบคาอกด้วย จึงรีบนำตัวขึ้นเรือพบว่าตัวลูกชายหมดสติ จึงรีบนำเรือวิ่งเข้าฝั่ง และโทรแจ้งขอความช่วยเหลือจากหน่วยกู้ชีพให้มาแต่ไม่ทันเด็กชายวัย 7 ขวบ ได้สำลักน้ำเสียชีวิตก่อนแล้ว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: