จากกรณี คลัสเตอร์โรงงานย่านบางเสาธง พบผู้ติดเชื้อ โควิด 19 จำนวน 142 ราย คืบหน้าล่าสุด เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอบางเสาธง ลงพื้นที่เก็บตัวอย่างตรวจเชื้อโควิดให้กับชุมชนรอบข้าง ของโรงงาน
จากกรณีเมื่อช่วงเย็นของวานนี้ที่ 12 พฤษภาคม 2564 เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอบางเสาธง พร้อมทีมแพทย์ ได้ร่วมกันเข้าตรวจหาผู้ติดเชื้อรายใหม่ในบริษัทผลิตผลิตอะไหล่รถยนต์แห่งหนึ่งใน ตั้งอยู่ท้ายนิคมอุตสาหกรรมเทพารักษ์ ถ.เทพารักษ์ ต.บางเสาธง อ.บางเสาธง สมุทรปราการ ซึ่งมีพนักงานทั้งชาวไทยและต่างด้าวกว่า 400 คน ผลการตรวจเมื่อวานนี้ในจำนวน 342 คน ได้พบว่ามีผู้ติดเชื้อสูงถึง 129 คน และผลการตรวจพนักงานก่อนหน้านี้จากยอด 24 คนพบติดเชื้อจำนวน 13 คน รวมผลการตรวจในครั้งนี้อีก 129 คน เป็น 142 คน โดยคนงานที่พบว่าติดเชื้อ 129 ราย เป็นแรงงานไทยจำนวน 18 ราย เป็นแรงงานต่างด้าว 111 ราย ซึ่งเป็นไทม์ไลน์ที่มาจากชุมชนคลองเตย ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อช่วงสายของวันนี้ที่ 13 พฤษภาคม 2564 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปสังเกตการณ์ที่หน้าบริษัท ดังกล่าว พบว่า ปิดทำการไปแล้วตามคำสั่งของสาธารณสุข ที่ขอความร่วงมมือให้หยุดดำเนินการยาวไปจนถึงสิ้นเดือน เพื่อความปลอดภัยของพนักงานทั้งหมด มีเพียงพนักงานในส่วนของออฟฟิศเท่านั้นบางส่วนที่เดินทางมาเก็บงาน ขณะที่ทีมสอบสวนโรค ของสาธารณสุขอำเภอบางเสาธง ได้เดินทางมาที่บริษัทอีกครั้งเพื่อเข้าสอบสวนโรคหากลุ่มเสี่ยงเพิ่มเติม
นายพสิษฐ์ แป้นเหมือน สาธารณสุขอำเภอบางเสาธง นำทีมเจ้าหน้าที่และ อสม. บางเสาธงลงพื้นที่ร้านอาหารอันดามัน ซึ่งอยู่ในละแวกใกล้เคียงกับโรงงานดังกล่าว และเป็นชุมชนกลุ่มเสี่ยงที่มีผู้ติดเชื้อในพื้นที่ โดยได้ทำการสุ่มตรวจหาเชื้อในกลุ่มเสี่ยงกว่า 150 คน ทั้งคนในวัยทำงาน ผู้สูงอายุ เด็กและเยาวชน ตามแผนปฏิบัติการเชิงรุถกหาผู้ติดเชื้อ
นายพสิษฐ์ แป้นเหมือน สาธารณสุขอำเภอบางเสาธง ได้เปิดเผยถึงความคืบหน้าของ คลัสเตอร์โรงงานแห่งนี้ โดยผลยืนยันเมื่อวานนี้อยู่ที่ 142 ราย และยังรอผลตรวจวันนี้อีก 65 ราย ส่วนผู้ติดเชื้อได้ส่งตัวเข้ารับการรักษาตามโรงพยาบาลตามสิทธิ์ประกันสังคม บางส่วนโดยเฉพาะแรงงานข้ามชาติมีการนำเข้ารักษาที่โรงพยาบาลสนามบางส่วน ส่วนตัวเลขพนักงานของโรงงานแห่งนี้มีทั้งหมด 433 คน มีการส่งตรวจหาเชื้อแล้ว 342 ราย พบเชื้อ 142 ราย ตามข้อมูลล่าสุดเมื่อวานนี้ ขณะที่ยังมีพนักงานกลุ่มเสี่ยงสัมผัสสูงอีก 247 ราย ที่จะต้องนำเข้าสู่ State Quarantine ซึ่งขนาดนี้ได้เตรียมจัดหาสถานที่ไว้รองรับแล้ว โดย 247 รายนั้น สามารถติดตามตัวมาได้แล้วส่วนหนึ่ง ยังคงต้องเร่งติดตามตัวที่เหลือกว่า 50 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นแรงงานข้ามชาติ ที่มีที่พักไม่ทราบหลักแหล่ง และติดปัญหาเรื่องการสื่อสาร ซึ่งในวันนี้ทีมสอบสวนโรคจะเร่งสอบสวนหาผู้สัมผัสใกล้ชิดให้ได้เร็วที่สุดเพื่อนำเข้าสู่ขวบการ
