อดีตรองนายก อบต.บางปลา ปะทะคารมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สภ.บางพลี ได้เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว โดยเจ้าตัวได้ยอมรับว่ากระทำการดังกล่าวจริงด้วยความโมโห และเผยว่าไม่ได้เบ่งว่าเป็นนักการเมืองแต่อย่างใด แต่วอนสังคมให้ฟังความทั้งสองฝ่าย
จากกรณีที่มีคลิปที่มีการแชร์กันจำนวนมากบนโซเชียล เกี่ยวกับการปะทะคารมระหว่างตำรวจจราจร สภ.บางพลี และคนขับรถยนต์กระบะ 4 ประตู สีน้ำเงิน และมีการกล่าวอ้างรู้จักผู้กำกับ แถมเสียงพูดว่าเป็นถึงรองนายก อบต.ไม่น่าทำแบบนี้ จนทำให้มีการแชร์คลิปดังกล่าวจำนวนมา ขณะที่มือคีย์บอร์ดต่างวิพากษ์วิจารณ์คนขับรถยนต์กระบะ
ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อช่วงสายของวันนี้ที่ 30 พฤษภาคม 2564 พ.ต.ท. โรจนฤทธิ์ โรจนวิศวกรรม รองผู้กำกับสอบสวน สภ.บางพลี สมุทรปราการ ได้เชิญตัวคนขับรถยนต์กระบะที่ปรากฏอยู่ในคลิป ชื่อนายปราโมทย์ อดีตรองนายก อบต.บางปลา มาทำการสอบสวนและรับทราบข้อกล่าวหา คือ รับทราบข้อกล่าวหา โดยเจ้าตัวยอมรับว่ากระทำการดังกล่าวจริงด้วยความโมโห แต่วอนสังคมให้ฟังความทั้งสองฝ่าย โดยในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งสองข้อกล่าวต่อนายปราโมทย์ ผู้กระทำว่า มีความผิดตาม พ.ร.บ. จราจรทางบก ในข้อหา จอดรถในที่ห้าม (ขาวแดง) มีอัตราโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท และข้อหา พ.ร.บ. รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง จากกรณีที่คนขับได้ขยำใบสั่งทิ้งลงพื้นทางสาธารณะ ซึ่งมีอัตราโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท ซึ่งเจ้าตัวยินยอมชำระค่าปรับทั้งสองข้อกล่าวหาแล้วเป็นจำนวน 3,000 บาทใน 2 ข้อกล่าวหา
พ.ต.ท.โรจนฤทธิ์ โรจนวิศวกรรม รองผู้กำกับสอบสวน สภ.บางพลี เปิดเผยว่า เบื้องต้นหลังจากที่ได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรที่ปฏิบัติหน้าที่ตามในคลิป พบว่าผู้ขับขี่รายนี้มีความผิดในสองข้อหา คือความผิดตาม พ.ร.บ. จราจรทางบก ในข้อหา จอดรถในที่ห้าม (ขาวแดง) มีอัตราโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท และข้อหา พ.ร.บ. รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง จากกรณีที่คนขับได้ขยำใบสั่งทิ้งลงพื้นทางสาธารณะ ซึ่งมีอัตราโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท ส่วนประเด็นที่มีการกล่าวอ้างว่ารู้จักกับ พ.ต.อ. วิโรจน์ ตัดโส ผู้กำกับ สภ.บางพลี นั้นซึ่งในวันนี้ได้ลาราชการและได้ฝากชี้แจงว่า ไม่เคยรู้จักกับนายปราโมทย์ ตามที่มีการกล่าวอ้างแต่อย่างใด ส่วนเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยชอบตามกฎหมาย หากเจ้าหน้าที่ไม่บังคับใช้กฎหมายก็จะมองว่าเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
นายปราโมทย์ ได้เปิดใจว่า ตนยอมรับผิดกับการกระทำของตน ที่เกิดจากอารมณ์โมโห และไปแสดงพฤติกรรมขย้ำใบสั่งและโยนทิ้ง ทั้งนี้ตนก็อยากชี้แจงสังคมด้วยว่า ในส่วนประเด็นที่มีการกล่าวพลาดพิงระบุว่าตนเป็นถึงรองนายก อบต. นั้นไม่เป็นความจริง ทุกวันนี้ตนไม่ได้มีตำแหน่งหน้าที่อะไร ส่วนที่ว่าตนเป็นรองนายก อบต.นั้น ยอมรับว่าเคยเป็นจริงแต่หลายปีมาแล้ว ซึ่งเหตุดังกล่าวก็เกิดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ 29 พฤษภาคม ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 16.00 น. โดยตนได้ขับรถยนต์กระบะมาจอดเพื่อทำธุรกรรมการเงินที่ธนาคารดังกล่าว ซึ่งก่อนจะจอดรถนั้นตนก็มองแล้วว่าสามารถจอดได้ ถึงแม้จะเป็นขาวแดงก็ตาม และในเวลาขณะนั้นการจราจรก็ไม่ได้ติดขัดอะไร หรือจอดกีดขวางการจราจรแต่อย่างใด ตนจึงจอดชิดขอบทางเพื่อจะลงไปฝากเงินผ่านตู้อัตโนมัติ ซึ่งใช้เวลาไม่นาน จังหวะนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็ขี่รถจักรยานยนต์สายตรวจมาแจ้งกับตนว่าห้ามจอดเนื่องจากมีการร้องเรียนและทำให้รถติดขัด และเป็นเวลาห้ามจอด ซึ่งตนก็ชี้แจงไปแล้วว่า จอดไม่นานและไม่ได้กีดขวางการจราจรแต่อย่างใด แต่เจ้าหน้าที่ก็ไม่ยินยอม แต่ตนมีความจำเป็นที่ต้องนำเงินเข้าบัญชีผ่านตู้อัตโนมัติและใช้เวลาไม่นาน จึงพยายามขอร้องและอธิบาย จนเกิดการโต้เถียงกันเล็กน้อย ก่อนเจ้าหน้าที่จราจรจะยกโทรศัพท์มาถ่ายคลิป ตนจึงรีบลงจากรถนำเงินไปเข้าบัญชีและกลับมาพบว่ามีใบสั่งแปะหน้ารถจึงเกิดอารมณ์โมโห ขยำทิ้งลงพื้นก่อนที่จะขับรถออกไป และยืนยันว่าตนไม่ได้เบ่งว่าเป็นนักการเมืองแต่อย่างใด
ด้านนายเอนก ก่อนาท เจ้าของร้านจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าจุดที่เกิดเหตุ ได้นำคลิปกล้องวงจรปิดที่ติดอยู่หน้าร้านมาเปิดให้ดู พร้อมยืนยันระบุว่าช่วงเวลาดังกล่าวการจราจรไม่หนาแน่นและติดขัดแต่อย่างใด ซึ่งขัดแย้ง โดยตนมองว่าไม่เป็นธรรมกับคู่กรณี ซึ่งขณะนั้นตนก็อยู่ในร้าน แต่กลับเห็นพฤติกรรมบางอย่างที่ตำรวจแสดงต่อประชาชน ซึ่งตนเองก็รับไม่ได้ในฐานะของประชาชน มิหนำซ้ำยังมองว่าหลังเกิดเหตุฝ่าย หลังจากที่มีการนำเอาคลิปฝ่ายตำรวจฝ่ายเดียวไปเผยแพร่สร้างความเกลียดชังให้กับประชาชนเช่นนี้ ตนมองว่าไม่อยากให้สังคมมองความฝ่ายเดียว ส่วนประเด็นขาวแดง ตรงหน้าร้านนี้ เดิมทีไม่เคยมี แต่ก่อนหน้านี้มีการร้องเรียนว่ามีรถแม่ค้าผลไม้และอื่นๆ มักมาจอดขายริมทางใกล้ทางเข้าออกหมู่บ้าน พอมีลูกค้ามาจอดซื้อผลไม้ก็จะทำให้รถติดขัดสะสม แต่ก็ไม่มีการกวดขันหรือจับกุมแต่อย่างใด ทุกวันรู้ก็ยังจอดขายได้ตามปกติ จนมีการมาตีเส้นขาวแดงตลอดแนว ซึ่งตนก็ไม่ได้ติดใจอะไร ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่จราจรจะมาคอยจะคอยมาเตือนอยู่เป็นประจำหากมีลูกค้าหรือตนจอดรถหน้าร้านก็ขอให้จอดแนวราบชิดฟุตบาทห้ามจอดทะแยงมุมเพราะจะขวางการจราจร ที่ผ่านมาก็จอดกันแบบนั้น จนมาเมื่อวานก็จอดกันปกติและถูกเขียนใบสั่งแปะที่หน้ารถ ตนก็น้อมรับและไม่ได้ติดใจอะไร จนมาทราบว่ามีการปล่อยคลิปจึงอยากออกมาชี้แจงสังคมได้รับรู้ความจริง
