ทนายเกรียงศักดิ์ หอบเอกสารเข้าแจ้งดำเนินคดีพนักงานบริการขนส่งสินค้าเอกชน ปลอมลายเซ็นรับสินค้าไปเอง หลังได้รับมอบอำนาจจากผู้เสียหายซึ่งเป็นน้องชาย เผยเป็นภัยสังคม ถ้าเป็นเอกสารสำคัญมันจะทำให้ตนเสียหายมากเพราะเป็นสำนักงานทนายความ และไม่อยากให้เป็นเยี่ยงอย่าง ซึ่งในกรณีนี้ เป็นการลักทรัพย์เพราะผู้เสียหายติดตามเอาทรัพย์ตลอดเวลาแต่ไม่ได้รับ และมีการลงลายมือชื่อ ซึ่งเป็นการปลอมแปลงเอกสารใช้เอกสารปลอมด้วย และยืนยันจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 12 มิถุนายน 2564 ทนาย ดร.เกรียงศักดิ์ พินทุสรศรี ผู้รับมอบอำนาจจากนายเกริกศุภสัณห์ ธรพิพิธนารอด ผู้เป็นน้องชาย ได้หอบเอกสารเข้าแจ้งความร้องทุกข์ กับ พ.ต.ท.วิเศษ พุ่มพวง สารวัตรสอบสวน สภ.สำโรงเหนือ สมุทรปราการ ให้ดำเนินคดีกับพนักงานขนส่งของบริษัทเอกชนบริษัทหนึ่ง ที่บริการขนส่งสินค้า ในข้อกล่าวหาว่า ปลอมแปลงเอกสารใช้เอกสารปลอม และลักทรัพย์
ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อต้นเดือนมิถุนายน 2564 นายเกริกศุภสัณห์ ธรพิพิธนารอด ผู้เสียหาย ได้สั่งซื้อหนังสือเล่มหนึ่งจากร้านจำหน่ายหนังสือทางออนไลน์ จำนวน 1 เล่ม โดยได้มีการโอนเงินค่าหนังสือเล่มดังกล่าวให้ทางร้านขายหนังสือดังกล่าวไปแล้วจำนวน 180 บาท โดยในจัดส่งมาที่บริษัท ดร.เกรียงศักดิ์และเพื่อนทนายการบัญชีจำกัด เลขที่ 1287-1290 หมู่ 6 ตลาดธรรมสาโรจน์ ถนนสุขุมวิท ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ เวลาผ่านไปจนกระทั่งในวันที่ 10 มิถุนายน ผู้เสียหายก็ยังไม่ได้รับหนังสือเล่มดังกล่าว จึงได้โทรไปสอบถามร้านขายหนังสือที่สั่งซื้อไป ก็ได้รับคำตอบว่าได้ส่งไปให้แล้วโดยใช้บริการของบริษัทขนส่งเอกชนชื่อดังรายหนึ่ง และทางร้านได้แจ้งว่ามีการเซ็นรับสินค้าไปแล้วตั้งแต่วันที่ 8 มิถุนายน ที่ผ่านมา ทั้งที่ผู้เสียยืนยันว่ายังไม่ได้รับสินค้าแต่อย่างใด จึงให้ทางร้านและทางบริษัทรับขนส่งสินค้าดังกล่าว ให้ส่งลายเซ็นในใบรับสินค้ามาให้ดู โดยมีรหัสอ้างอิงถึงตัวผู้จัดส่ง TH02011ER3C4B พบว่าไม่มีลายเซ็นของผู้เสียหายแต่อย่างใด มีเพียงเส้นกากะบาด เท่านั้นซึ่งผู้เสียหายยืนยันว่าไม่ใช่ลายเซ็นของผู้เสียหายแต่อย่างใด ซึ่งครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก แต่มีหลายครั้งที่สั่งซื้อสินค้าไปและไม่รับสินค้า หรือมีคนเซ็นรับแทน โดยที่ผู้เสียหายไม่รู้เรื่องจึงไม่ได้รับสินค้า หรือสั่งซื้ออีกอย่างแต่กลับได้รับสินค้าอีกอย่างหนึ่ง แต่ครั้งนี้แต่ในครั้งนี้มีการปลอมลายเซ็นของผู้เสียหายและทำให้ไม่ได้รับสินค้าที่สั่งซื้อไป ถึงแม้ว่ามูลค่าจะไม่เท่าไหร่ แต่ถ้าเป็นเอกสารสำคัญที่เกี่ยวข้องกับคดีความหากผู้เสียหายหรือตนไม่ได้รับจะเกิดความเสียหายใหญ่หลวง
ทนาย ดร.เกรียงศักดิ์ พินทุสรศรี ได้กล่าวว่า วันนี้ตนในฐานะผู้รับมอบอำนาจจากผู้เสียหายซึ่งเป็นน้องชายของตน ได้มาแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าพนักงานบริการขนส่งสินค้า เนื่องจากผู้เสียหายดั่งซื้อหนังสือกับทางร้านขายออนไลน์ไปจำนวน 1 เล่มตั้งแต่วันที่ 6 มิถุนายน มูลค่าไม่มากแค่หลักร้อย โดยมีการโอนเงินชำระค่าสินค้าให้กับทางร้านไปแล้วแต่กลับไม่ได้รับสินค้า ผู้เสียหายได้ติดต่อสอบถามไปยังร้านที่จำหน่ายหนังสือร้านดังกล่าว กลับได้รับการยืนยังว่ามีการเซ็นรับสินค้าไปแล้วตั้งแต่วันที่ 8 มิถุนายน ที่ผ่านมา ทั้ง ๆ ที่ผู้เสียหายก็ยืนยันว่ายังไม่ได้รับสินค้าและก็ไม่มีใครเซ็นรับสินค้าดังกล่าวด้วย ในวันที่ 10 มิถุนายน ตนจึงได้โทรไปสอบถามทางบริษัทขนส่งดังกล่าว ซึ่งก็ได้รับการยืนยันว่ามีการเซ็นรับสินค้าไปแล้ว แต่เป็นลายเซ็นรูปกากบาท ซึ่งผู้เสียหายก็ยืนยันว่าไม่ใช้ลายเซ็นของตนเอง และก็ไม่มีใครเซ็นรับสินค้าด้วย ต่อมาเมื่อวานนี้พนักงานที่เป็นคนนำสินค้ามาส่งได้โทรติดต่อเข้ามาหาตน บอกว่าจะนำสินค้ามาส่งคืนให้ ก่อนเที่ยววัน สุดท้ายก็ไม่มา
ในวันนี้ผู้เสียหายจึงได้มอบอำนาจให้ตนเดินทางมาแจ้งความดำเนินคดีกับพนักงานขนส่งคนดังกล่าว ในข้อหา ปลอมแปลงเอกสารใช้เอกสารปลอม โดยที่ลงลายมือชื่อ ซึ่งก่อนหน้านี้ก็มีหลายครั้งที่มีการส่งมาแล้วตนไม่ได้รับและบางครั้งของที่ไม่ได้สั่งก็มาส่งให้ บางครั้งสั่งของอีกอย่างแต่กลับได้อีกอย่างมา แต่ตนเห็นว่าไม่เป็นประเด็นอะไรและประกอบกันไม่มีเวลาจึงไม่ได้สนใจ แต่สุดท้ายมันทำให้เกิดความเสียหายและเป็นภัยสังคม ถ้าเอกสารนี้เป็นเอกสารสำคัญมันจะทำให้ตนเสียหายมากเพราะตนเป็นสำนักงานทนายความ และไม่อยากให้เป็นเยี่ยงอย่าง ซึ่งในกรณีนี้เข้าในข้อหาลักทรัพย์ด้วยเพราะผู้เสียหายติดตามเอาทรัพย์ตลอดเวลาแต่ไม่ได้รับ และมีการลงลายมือชื่อ ซึ่งเป็นการปลอมแปลงเอกสารใช้เอกสารปลอมด้วย ซึ่งตนจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด วันนี้จึงได้เดินทางเข้าแจ้งความ และขอเตือนประชาชนทั่วไปที่ถูกกระทำตามพฤติกรรมแบบนี้อย่าปล่อยปะละเลยอาจจะเป็นภัยต่อตัวท่านเองได้ในวันข้างหน้า ซึ่งตนในฐานะทนายความยินดีให้คำปรึกษาและดำเนินการในด้านของกฎหมายให้ เพราะจะได้เป็นเยี่ยงอย่างให้กับพนักงานขนส่งสินค้าทั่วไปไม่ไปทำกับใครอีก เพราะจะทำให้เกิดความเสียหายร้ายแรงมาก และเป็นภัยของสังคมอีกด้วย
