สาวกู้ภัยเครียดไลฟ์สดจะกระโดดสะพานลอยโชคดีเจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้าชาร์จล็อกตัวเอาไว้ทัน ขณะที่เพื่อนระบุว่าหญิงสาวคนดังกล่าวป่วยเป็นโรคซึมเศร้า เครียดเรื่องปัญหาส่วนตัว
เมื่อเวลา 23.30 น. วันที่ 22 มิถุนายน 2564 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางพลีน้อย สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีหญิงไลฟ์สดผ่านเฟสบุ๊คของตนเอง จะกระโดดสะพานลอยฆ่าตัวตายที่บริเวณสะพานลอยข้ามถนนเทพรัตน ขาเข้า หลักกิโลเมตรที่ 33 ตำบลบางพลีน้อย อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงรีบนำกำลังเข้าทำการตรวจสอบ
ข่าวน่าสนใจ:
- พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานผ้าพระกฐิน แด่ภรรยาอดีตนายกฯไปทอดถวาย ณ วัดตันตยาภิรม พระอารามหลวง
- ผู้กำกับบางแก้วสั่งล่าตัวกลุ่มวัยรุ่นเจ้าถิ่น รุมทำร้าย ร้อยตำรวจเอกชุดควบคุมฝูงชนกองกำกับการอารักขา
- จัดใหญ่!! งานสมโภชน์ปึงเถ่ากง-ม่า ปี'67 จ.ขอนแก่น 10 วัน 10 คืน
- ชัยภูมิหนูน้อยวัย 9 ขวบลีลาเป่าแคนนำแก้บนไม่ธรรมดาเตรียมบันทึกประวัติศาสตร์ครั้งใหญ่รอบ 198 ปีเมืองชัยภูมิ
ที่เกิดเหตุพบหญิงสาวอายุประมารณ 22 ปี ได้ขึ้นไปนั่งร้องไห้อยู่บนราวสะพานลอยช่วงกลางช่องทางด่วนและมีที่ท่าว่าจะกระโดดลงมา เจ้าหน้าที่ได้พยายามเจรจาเกลี่ยกล่อมอยู่นานกว่าครึ่งชั่วโมงแต่ก็ยังไม่เป็นผลหญิงสาวคนดังกล่าว เลื่อนตัวเองลงมานั่งอยู่ที่ขอบสะพานลอยด้านนอก เจ้าหน้าที่เห็นท่าไม่ดีจึงได้นำรถยนต์สายตรวจออกไปเป็นสัญญาณไฟไซเรนปิดการจราจรเนื่องจากเกรงว่าหญิงคนดังกล่าวจะกระโดดลงมาและถูกรถที่สัญจรไปมาชนและทับ ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขอความร่วมมือจากรถหกล้อตู้ทึบให้เข้าไปจอดอยู่ด้านล่างตรงจุดที่หญิงสาวคนดังกล่าวนั่งอยู่บนขอบสะพานลอยด้านนอกเพื่อทดความสูงหากหญิงคนดังกล่าวจะกระโดดลงมาจริงและให้บาดเจ็บน้อยที่สุด โดยเจ้าหน้าที่ได้พยามยามเกลี่ยกล่อมอยู่ด้านล่าง ในขณะที่เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูได้ค่อยเดินขึ้นไปด้านบนสะพานลอย รอจังหวะที่หญิงคนดังกล่าวเผลอจึงรีบชาร์จเข้าล็อกตัวหญิงสาวคนดังกล่าวเอาไว้ได้ก่อนที่จะดึงตัวเข้ามาด้านในท่ามกลางความหวาดเสียวของชาวบ้านที่พบเห็น โดยหญิงสาวคนดังกล่าวยังร้องไห้อยู่ตลอดเวลาและมีอาการเกรงตามร่างกาย เจ้าหน้าที่มูลนิธิได้ให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้นจนอาการเริ่มผ่อนคล้ายจึงรีบนำตัวส่งรักษาที่โรงพยาบาลบางบ่อ จากการสอบถามทราบว่าหญิงสาวคนดังกล่าวเคยทำงานเป็นเจ้าหน้าที่กู้ภัยอยู่กับมูลนิธิแห่งหนึ่งในจังหวัดสมุทรปราการ ขณะที่เพื่อนที่รู้จักกับหญิงสาวคนดังกล่าว ได้เล่าว่า ก่อนที่หญิงสาวคนดังกล่าวจะปีนขึ้นไปนั่งบนราวสะพานลอยได้ทำการไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊กของตัวเอง ซึ่งภาพในคลิปพบว่าหญิงสาวคนดังกล่าวร้องไห้ตลอดเวลา และมีการพูดคุยกับเพื่อน ๆ ในเฟซบุ๊กว่าไม่กระโดดหลอกกลัวเจ็บ ก่อนที่ภาพไลฟ์สดจะขาดหายไป จึงรีบเดินทางมาดูและแจ้งเจ้าหน้าที่มาให้การช่วยเหลือ
ขณะที่ดาบตำรวจ อุดร จันทพรม ผบ.หมู่งานป้องกันและปราบปราม สภ.บางพลี น้อย ได้เล่าว่า ขณะที่ตนกำลังตระเวนตรวจพื้นที่รับผิดชอบได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ สภ.บางพลีน้อย ว่ามีหญิงสาวจะกระโดดสะพานลอย จึงได้รีบเดินทางมาตรวจสอบ ได้พบว่าหญิงคนดังกล่าว นั่งร้องไห้อยู่บนราวสะพานแล้ว จึงได้พยายามเจรจาให้หญิงสาวคนดังกล่าวลงมาคุยด้านล่าง แต่ก็ไม่เป็นผล ตนจึงได้สั่งให้เจ้าหน้าที่อีกส่วนหนึ่งนำรถยนต์สายตรวจและกำลังไปปิดกั้นการจราจรตรงจุดที่หญิงสาวคนดังกล่าวนั่งอยู่ และให้นำรถตู้ทึบเข้าไปจอดด้านล่างเพื่อลดความสูง ในขณะที่มีกำลังเจ้าหน้าที่มูลนิธิได้ค่อย ๆ ย่องขึ้นไปด้านบนสะพายลอย เพื่อหาจังหวะเข้าชาร์จล็อกตัวหญิงคนดังกล่าวเอาไว้และช่วยเหลือเอาไว้ได้ และจากการตรวจสอบเฟสของหญิงสาวคนดังกล่าว ได้พบว่ามีการเขียนข้อความในลักษณะสั่งเสีย มีใจความว่า แม่รักหนูสองคนมาก แม่ขอโทษที่ทำให้หนูเกิดมาแล้วแม่ไม่เลี้ยงหนู ขอโทษที่ทำให้หนู 2 คนต้องเป็นลูกไม่มีพ่อ แม่รักหนูทั้งสองคนที่สุดนะ อย่าดื้ออย่าซนเป็นเด็กดีของย่ากับยายนะลูก ขอบคุณทุกคนที่อยู่ข้างหนูตลอด ขอโทษที่หนูเคยทำไม่ดีไว้ ขออโหสิกรรมทุกคน
ด้านนายสมควร แสงทอง หัวหน้าชุดอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู จุด สภ.บางบ่อ ที่ตัดสินใจเข้าชาร์จตัวเอาไว้ได้อย่างปลอดภัย ได้เล่าว่า ก่อนที่จะตัดสินใจเข้าชาร์จล็อกตัว ตนได้ดูท่าทีของหญิงสาวคนดังกล่าวอยู่นาน พบว่ามีลักษณะก้มดูด้านล่างตลอดเวลาคล้ายกำลังลังเล ตนจึงได้อาศัยจังหวะที่หญิงสาวคนดังกล่าวเผลอเข้าชาร์จล็อกตัวเอาไว้ได้โดยให้ทีมงานคอยดึงตนเอาไว้ด้านหลัง ขณะที่ชายซึ่งรู้จักกับหญิงสาวคนดังกล่าว ได้ระบุว่าหญิงสาวคนนี้ ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิฐานว่า หญิงสาวคนดังกล่าวที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า น่าจะเกิดอาการเครียดเรื่องปัญหาส่วนตัว จึงได้เดินร้องไห้ขึ้นมาบนสะพานลอย ก่อนที่จะคิดสั้นพยายามจะกระโดดสะพานลอยเพื่อฆ่าตัวตายดังกล่าว อย่างไรก็ตามจะได้ทำการสอบสวนข้อเท็จจริงอีกครั้งเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: