หนุ่มใหญ่วัย 64 สุดโหดใช่ฉมวกกระหน่ำแทงสุนัขข้างบ้านปางตาย แถมแบกปืนลูกซองมาขู่เจ้าของสุนัข อ้างไปทำลายแปลงผัก พร้อมแสดงอาการสะใจ ขณะที่เจ้าของสุนัขพร้อมด้วยตัวแทนมูลนิธิวอสด็อก เตรียมเข้าแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับชายผู้ก่อเหตุ ในข้อหา ทารุณกรรมสัตว์
เมื่อเวลา 19.30 น.วันที่ 28 มิถุนายน 2564 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางพลี สมุทรปราการได้รับแจ้งจากชาวบ้านที่พักอาศัยอยู่ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งภายในซอยรัตนโชค 3 / 1 หมู่ที่ 3 ตำบลบางโฉลง อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ว่าเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมามีชายสูงอายุได้ใช้ฉมวกแทงสุนัขได้รับบาดเจ็บสาหัสขณะลอยคออยู่ในคลองระบายน้ำข้างหมู่บ้าน จึงรีบเดินทางไปตรวจสอบ
ข่าวน่าสนใจ:
ที่เกิดเหตุได้พบชาวบ้านกำลังจับกุ่มวิพากวิจารเกี่ยวกับการกระทำของชายสูงอายุคนดังกล่าว ว่ามีพฤติกรรมโหดเหี้ยมโดยมีชาวบ้านได้นำคลิปจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกพฤติกรรมของชายสูงอายุคนดังกล่าวเอาไว้ได้ และคลิปวีดีโอที่ชาวบ้านใช้มือถือถ่ายคลิปขณะที่ชาวบ้านกำลังลงไปช่วยเหลือเจ้าสุนัขตัวดังกล่าวขึ้นมาจากในคลองและรีบนำส่งรักษาที่โรงพยาบาลสัตว์ใกล้เคียงโดยสัตว์แพทย์ระบุอาการของเจ้าสุขตัวดังกล่าวสาหัสมากเนื่องจากปลายฉมวกที่เป็นเหล็กแหลมแล้วยังที่เงี่ยงทำให้ไม่สามารถดึงออกได้ต้องทำการผ่าตัดเอาเหล็กฉมวกออกอย่างเดียวอาการเป็นตายเท่ากัน โดยในภาพวงจรปิดจะเห็นว่าเจ้าสุนัขตัวดังกล่าว กำลังวิ่งเล่นอยู่บนฝั่งริมคลองระบายน้ำฝั่งตรงข้ามถนนหน้าหมู่บ้านและกระโดดลงไปในคลองกำลังว่ายน้ำข้ามฝั่ง ได้มีชายสูงอายุคนดังกล่าวซึ่งใส่เสื้อแขนสั้นสีดำกางเกงขาสั้นสีดำวิ่งถือฉมวกออกมาจากบ้านตรงเข้าไปใช้ฉมวกแทงสุนัขตัวดังกล่าวหลายครั้ง ท่ามกลางชาวบ้านที่พบเห็นและพยายามเข้าห้ามปราม แต่ชายคนดังกล่าวก็ไม่ฟังยังคงพุ่งฉมวกอันดังกล่าวใส่ลำตัวของสุนัขจนฉมวกติดคาอยู่ที่ตัวเจ้าสุนัขตัวดังกล่าวที่ลอยคออยู่ในน้ำชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ต่างพากันวิ่งเข้าต่อว่าชายสูงอายุคนดังกล่าวว่าทำเกินกว่าเหตุและมีความโหดเหี้ยมที่ใช้ฉมวกแทงสุนัขที่กำลังลอยคออยู่ในน้ำ แต่ชายสูงอายุคนดังกล่าวกลับไม่สนใจและเกิดการโต้เถียงกับชาวบ้านหาว่าเจ้าสุนัขตัวดังกล่าวไปทำลายแปลงผักที่ตนปลูกเอาไว้ริมคลอง ก่อนที่จะเดินกลับเข้าบ้านหน้าตาเฉยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนชาวบ้านต้องลงไปช่วยนำเจ้าสุนัขตัวดังกล่าวขึ้นมาและนำไปส่งรักษาที่โรงพยาบาลสัตว์
โดยนายสัญญา สุขเจริญ อายุ 52 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ ได้เล่าว่า ขณะที่ตนกำลังขี่รถจักรยานยนต์กลับเข้ามาบ้านได้เห็นชายคนดังกล่าวกำลังก่อเหตุใช้ไม้กดแทงสุนัขอยู่ริมถนน ตอนแรกเข้าใจว่าเป็นไม้ธรรมดา แต่ได้ยินเสียงสุนัขร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดจึงจอดรถลงไปดูพบว่าไม่ใช้ไม้ธรรมดาแต่เป็นด้ามไม้ที่ปลายติดฉมวกสำหรับแทงสัตว์น้ำ ซึ่งชายคนดังกล่าวได้จ้วงแทงตัวสุนัขถึงสองครั้งจนสุนัขตัวดังกล่าวต้องดิ้นรนหนีตายด้วยความเจ็บปวดโดยยังมีฉมวกปักคาตัวอยู่ ตนจึงเข้าไปต่อว่าชายคนดังกล่าวและห้ามปราม และตะโกนเรียกเจ้าของสุนัขตัวดังกล่าวออกมาช่วยกันลงน้ำไปช่วยสุนัขและนำส่งรักษาที่โรงพยาบาลสัตว์
นางสาว วรรณา ภู่เล็ก อายุ 56 ปี เจ้าของสุนัขเปิดเผยว่า ขณะเกิดเหตุตนไปทำงานมาทราบข่าวหลังเลิกงาน ตนจึงได้ไปต่อว่าชายที่ก่อเหตุที่อยู่บ้านติดกัน แต่กลับถูกชายคนดังกล่าวซึ่งอยู่ในอาการเมาสุราถือปืนยาวออกมาขู่ ตนจึงต้องพากันกลับมาที่บ้านเพราะกลัวเรื่องความปลอดภัย ส่วนสุนัขตัวนี้ก่อนหน้านี้เคยมีสุนัขจรจัดมาอาศัยอยู่ที่บ้านตนจึงเลี้ยงไว้จนมีลูกออกมาสองตัว เป็นเพศเมียจึงเลี้ยงเรื่อยมา ที่ผ่านมาสุนัขตัวที่โชคร้ายตัวนี้ ไม่เคยมีนิสัยดุหรือไล่กัดใครและมักชอบกระโดดลงไปว่ายน้ำในคลองดังกล่าวเป็นประจำ ส่วนผู้ก่อเหตุ ซึ่งมีบ้านอยู่ติดกันและไปปลูกผักอยู่ที่ริมคลองฝั่งตรงข้ามบ้าน ทำให้สุนัขเข้าไปกัดผักหรือเหยียบผักเสียหายจึงทำให้ชายคนดังกล่าวไม่ชอบสุนัขตัวนี้แต่ก็ไม่คิดว่าจะโหดเหี้ยมแบบนี้ และยังได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าชายคนดังกล่าวมีพฤติกรรมรุนแรงกับสัตว์โดยก่อนหน้านี้เคยตีตัวเงินตัวทองจนตายและจับแขวนประจานไว้ที่หน้าบ้าน
เจ้าหน้าที่จึงได้เรียกชายผู้ก่อเหตุมาทราบชื่อภายหลังชื่อนาย สกุล ฉัตรทิม อายุ 64 ปี ซึ่งยังคงแต่งกายอยู่ในชุดที่ก่อเหตุ พบว่าเจ้าตัวยังอยู่ในอาการมึนเมา และยอมรับว่าก่อเหตุจริง โดยใช้ฉมวกแทงสุนัขตัวดังกล่าวไปสองครั้ง โดยอ้างว่าเจ้าสุนัขตัวดังกล่าวไปทำลายแปลงผักที่ปลูกเอาไว้ ทำให้เกิดความโมโห จึงลงมือก่อเหตุ ขณะที่ภรรยาและบุตรชายของผู้ก่อเหตุ ต่างพากันต่อว่าบิดา ที่ก่อเหตุและสร้างความเดือดร้อนมาถึงบ้าน และเกิดมีปากเสียงกันรุนแรงต่อหน้าผู้เสียหายและเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่จึงให้ญาตินำตัวชายคนดังกล่าวกลับขึ้นไปนอนสงบสติอารมณ์ในบ้านพัก
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ให้เจ้าของสุนัขตัวดังกล่าวไปแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.บางพลี สมุทรปราการ และยังทราบว่าในวันพรุ่งนี้ตัวแทนมูลนิธิวอสด็อกจะเดินทางเข้าแจ้งความเอาผิดกับชายผู้ก่อเหตุ ในข้อหา ทารุณกรรมสัตว์ ซึ่งจะมีการเชิญตัวผู้ก่อเหตุไปรับทราบข้อกล่าวหาและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: