นายยุทธพฤทธิ์ พูดเกษ หรือผู้ใหญ่หน่อย ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 15 ต.บางพลีใหญ่ ผู้ปิดทองหลังพระ แม้บ้านตัวเองจะถูกแรงระเบิดจนพัง แต่ก็ยังคงออกมาช่วยคนเจ็บจากเหตุการณ์ถังเคมีระเบิดที่บริษัท หมิงตี้
จากเหตุการณ์ถังเคมีในบริษัท หมิงตี้ เคมีคอล ซึ่งตั้งอยู่ภายในซอยกิ่งแก้ว 21 ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี สมุทรปราการ ได้เกิดการรั่วไหลและระเบิดขึ้นเมื่อกลางดึกคืนวันที่ 5 กรกฎาคม 2564 สร้างความเสียหายเป็นวงกว้างบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายหลายร้อยหลังคาเรือน รวมทั้งโรงงานที่อยู่ในละแวกใกล้เคียงหลายโรงงานที่ได้รับความเสียหายจากแรงระเบิดไปด้วย รวมมูลค่าความเสียหายจากเหตุการณ์นี้คาดว่าไม่ต่ำกว่า 1 พันล้านบาท
ข่าวน่าสนใจ:
- ค่ายรถยนต์ ผุดบูธเพิ่มช่องทางปั๊มยอดช่วงปลายปี หลังตลาดยังซบยาวต่อเนื่อง
- สูงวัยตรัง ปลื้ม เตรียมตัวรับเงินหมื่น ฝันใช้ยามแก่-ต่อยอดอาชีพบั้นปลาย
- ผกร.ป่วนไม่เลิก!วางบึ้ม 5 (แตก 4, กู้ 1) ทางไปสนามบิน
- ตรัง จัดใหญ่ 12 วัน งานฉลองรัฐธรรมนูญและงานกาชาดจ.ตรัง 4-15 ธ.ค.นี้ รีแบร์นใหม่! ย้อนยุคงานเหลิมแต่แรก แสดงบินโดรนพิธีเปิด วธ.ทุ่ม 3.4 ล้าน…
นายยุทธพฤทธิ์ พูดเกษ อายุ 52 ปี หรือผู้ใหญ่หน่อย ผู้ใหญ่บ้านหมู่15 ตำบลบางพลีใหญ่ พื้นที่เกิดเหตุ ซึ่งบ้านของตัวเองก็ได้รับความเสียหายด้วยเช่นกัน แต่ด้วยจิตวิญาณของจิตอาสา ที่อาสาเข้ามาดูแลพี่น้องประชาชนด้วยความเป็นห่วงลูกบ้านและผู้บาดเจ็บ ผู้ใหญ่หน่อย ยอมทิ้งบ้านและทรัพย์สินตัวเองวิ่งเข้าไปช่วยคนเจ็บออกมาจากกองเพลิงจนแทบเอาชีวิตตัวเองไม่รอด
ผู้ใหญ่หน่อย ได้พาเข้าดูความเสียหายของบ้านพัก หลังจากที่เหตุการณ์สงบลง ซึ่งอยู่ท้ายซอยกิ่งแก้ว 23 ห่างจากบริษัทที่เกิดเหตุเพียง 250 เมตรเท่านั้น พบว่าเป็นบ้าน 2 ชั้นสภาพได้รับความเสียหายอย่างหนักไม่แพ้บ้านหลังอื่น ๆ ของลูกบ้าน ทั้งกระเบื้อหลังคาที่ปลิวลงมาตกอยู่ที่หน้าบ้าน ฝ้าเพดานที่ถล่มลงมารวมทั้งกระจกหน้าต่างที่แตกกระจายทุกบาน รวมทั้งทรัพย์สินภายในบ้านได้รับความเสียหายด้วยเช่นกัน บ่อน้ำหน้าบ้านที่ที่ปล่อยไหลผ่านคลองชวดลาดข้าวเปลี่ยนสภาพเป็นสีดำ และมีกลิ่นเหม็นของเคมี
ผู้ใหญ่หน่อย ได้เล่าเหตุการณ์วันที่เกิดเหตุว่า คืนที่เกิดเหตุตนยังอยู่ที่บริษัท ซึ่งในซอยกิ่งแก้วซอย 2 ได้ยินเสียงระเบิด หลังจากนั้นได้ไม่นานลูกก็โทรมาบอกว่าบ้านพังหมดแล้วก็เลยรีบขับรถมาเพื่อจะเข้าไปดูที่บ้าน แต่ขณะที่ขับผ่านปากซอยกิ่งแก้ว 21 เห็นแสงเพลิงและทราบว่ามีคนเจ็บหลายราย จึงเลี้ยวรถเข้าไปช่วยเหลือในที่เกิดเหตุก่อน โดนที่ยังไม่เข้ามาดูที่บ้าน เนื่องจากทราบแล้วว่าคนในบ้านของตนไม่มีใครเป็นอะไร จึงตัดสินใจเข้าไปดูในที่เกิดเหตุก่อน ขณะที่เข้าไปถึงที่เกิดเหตุได้เห็นคนเจ็บวิ่งออกมาเนื้อตัวเปื้อนไปด้วยสารเคมี แต่เรายังไม่เห็นบาดแผลเพราะว่าช่วงนั้นมันมืดมาก เพราะที่เข้ามาไฟฟ้าดับหมดแล้วมีเพียงแสงจากเปลวเพลิงเท่านั้น และก็อยู่ช่วยเหลืออยู่ที่หน้างานมาตลอดและพึ่งกลับมาดูที่บ้านเมื่อ 2 วันที่ แล้วก็ตกใจเหมือนกัน เพราะมันก็เสียหายเยอะส่วนลูก ๆ ก็อพยพไปอยู่ที่บ้านญาติข้างสนามบิน และเมื่อเทียบกับหลังอื่น ๆ บ้านของตนพังเยอะกว่ามันร่วงกราวลงมาทั้งหมดวงกบประตูมันเสียหายทั้งหมด
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: