ตำรวจบางแก้ว ตามรวบยกแก๊งค์อ้างตัวเป็นแพทย์โรงพยาบาลดัง หลอกเหยื่อให้โอนเงินเพื่อจองฉีดวัคซีน ซิโนฟาร์ม ผู้เสียหายหลงเชื่อและชวนพรรคพวกรวม 34 คน มาทำการจอง รวมยอดเงิน 61,200 บาท สุดท้ายไม่รอด
เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 14 กรกฎาคม 2564 พ.ต.อ.มงคล อ่อนแก้ว ผกก.สภ.บางแก้ว สมุทรปราการ พ.ต.ท.ศุภฤกษ์ จงรักษ์ รอง ผกก.สส. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ได้ร่วมกันจับกุมตัวนายสิทธิโชค วิสิทธิ อายุ 24 ปี ชาวจังหวัดนครราชสีมา ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดสมุทรปราการ ที่ 311 / 2564 ลงวันที่ 12 กรกฎาคม 2564 ในข้อหาทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชนและร่วมกันฉ้อโกงประชาชน โดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น โดยจับกุมได้ที่บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 193 / 1 หมู่ 9 ต.ตาลเดี่ยว อ.แก่งคอย จ.สระบุรี
ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมาได้มีหญิงผู้เสียหาย ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.บางแก้ว สมุทรปราการว่า เมื่อประมาณต้นเดือนมิถุนายน 2564 ได้พบข้อความใน เฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อ สุจิตตรา วงษ์มาลี ซึ่งอ้างตัวว่าเป็นแพทย์ อยู่ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ซึ่งผู้เสียหายได้สอบถามเกี่ยวกันข้อมูลการฉีดวัคซีน ต่อมาวันที่ 8 มิถุนายน ได้มาชายโทรศัพท์มาหาผู้เสียหายอ้างว่าเป็นนายแพทย์ประจำอยู่โรงพยาบาลศิริราช ชื่อนายแพทย์สิทธิโชค ทวีประดิษฐ์ผล มีวัคซีนป้องกันโควิด 19 ยี่ห้อ ซิโนฟาร์ม เหลือจากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ซึ่งได้สั่งซื้อจากราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ หากต้องการฉีดต้องชำระเงินวัคซีนรายละ 1,800 บาท รวม 2 โดส ผู้เสียหายหลงเชื้อ และได้เข้าไปในกลุ่มไลน์ชื่อ Vaccine Sinopharm และกลุ่มไลน์ ระบบไอที วัคซีนทางเลือก ซึ่งมีสมาชิก อยู่จำนวนมาก และ มีการ โพสต์ข้อความต่าง ๆ ที่ดูน่าเชื่อถือ ผู้เสียหายจึงได้ชักชวนเพื่อน ๆ ที่รู้จักกันให้มาลงชื่อจองวัคซีนพร้อมรวบรวมเงินจากเพื่อนรวม 34 คนให้หญิงผู้เสียหายเป็นคนโอนเงินจำนวน 61,200 บาท ไปตามหมายเลขบัญชีที่คนร้ายให้มา โดยผู้เสียหายลงชื่อฉีดวัคซีนที่โรงพยาบาลศิครินทร์ แต่เมื่อผู้เสียหายเดินทางไปรับการฉีดวัคซีนที่โรงพยาบาลตามที่ได้ลงชื่อจองเอาไว้ปรากฎว่าไม่มีชื่อจองฉีดวัคซีนตามที่คนร้านกล่าวอ้างแต่อย่างใด จึงรู้ว่าถูกหลอกจึงเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าว
ต่อมาเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2564 เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.บางแก้ว สมุทรปราการ ได้ร่วมกันจับกุมตัวนายจีรวัฒน์ อำพานทอง อายุ 24 ปี ซึ่งหลบหนีไปบวชเป็นพระอยู่ที่วัดแห่งหนึ่งในจังหวัดสุพรรณบุรี และจับกุมนายสิงขร วัฒนะ อายุ 20 ปี ได้ที่หน้าบ้านเลขที่ 614/1 ต.ปากเพรียว อ.เมืองสระบุรี จ.สระบุรี ก่อนทำการสอบสวนขยายผล ไปจับกุมตัวนายสิทธิ์โชค วิสิทธิ์ อายุ 24 ปี ได้ในช่วงเย็นของวันนี้ที่ 14 กรกฎาคม 2564 นายสิทธิ์โชค ได้ให้การว่า ไม่มีส่วนรู้เห็นในขบวนการนี้ โดยอ้างว่าก่อนหน้านี้เคยมีเพื่อนแนะนำให้รู้จักกับนายรนกร ที่ทำงานด้วยกันจนมีความสนิทสนมกันพอสมควร จนมาระยะหลังนายรนกร ได้มาขอยืมเลขบัญชีของตนไป โดยอ้างว่าจะให้เพื่อนจะโอนเงินมาให้ โดยอ้างว่าบัญชีของตัวเองปิดปรับปรุง ตนจึงให้เลขบัญชีไปหลังจากนั้นก็มีการโอนเงินเข้ามาในบัญชี ตนก็กดเงินสดให้กับนายรนกร ไป 8,100 บาท และนายรนกร ได้ให้ค่าตอบแทนตนมา 500 บาท จนกระทั่งมาทราบข่าวจากพี่สาวว่านายรนกร ถูกจับกุมและมีการนำเอาเลขบัญชีของตนไปใช้ก่อเหตุ
พ.ต.อ. มงคล อ่อนแก้ว ผกก.สภ.บางแก้ว เปิดเผยว่า สำหรับในคดีนี้ สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้เมื่อประมาณต้นเดือน มิถุนายน 2564 มีผู้เสียหายมาแจ้งความกับทางพนักงานสอบสวนว่า ได้พบข้อความใน เฟซบุ๊ก ชื่อ สุจิตตรา วงษ์มาลี ซึ่งอ้างว่า มีอาชีพเป็นแพทย์บุคลากรทางการแพทย์อยู่ที่โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา และอ้างว่า สามารถจองฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ยี่ห้อ “ซิโนฟาร์ม” ได้ในราคา 1,800 บาท ผู้เสียหายหลงเชื่อและชวนพักพวกรวม 34 คนมาทำการจอง และรวมยอดเงิน 61,200 บาท โอนไปให้ตามเลขบัญชีที่ผู้ก่อเหตุให้มา แต่พอผู้เสียหายเดินทางไปรับการฉีดวัคซีนตามโรงพยาบาลที่ได้จองเอาไว้ กลับพบว่าไม่มีชื้อจองวัคซีน ตามที่ผู้ก่อเหตุอ้างแต่อย่างใด จึงมาแจ้งความ และเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมามีผู้เสียหายจำนวนมากไปแจ้งความร้องทุกข์กับทางตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี จนกระทั่งมีการจับกุม นายวีระศักดิ์ สุขสำแดง และ นายรนกร พุทธรักษา อายุ 31 ปี ซึ่งอ้างตัวเป็นนายแพทย์หลอกให้จองวัคซีน ได้ ปัจจุบันถูกควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำจังหวัดอุดรธานี จากนั้นจึงมีการขยายผลจนติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่เหลือได้ดังกล่าว
