จบภารกิจดับเพลิงและเก็บกู้สารเคมีที่ยาวนานถึง 13 วัน จากกรณีเหตุระเบิดและเพลิงไหม้ บริษัท หมิงตี้ เคมีคอล จำกัด ซอยกิ่งแก้ว 21 นักผจญเพลิงร่วม สดุดี น้องพอส นักผจญเพลิงวัย 19 ปี ที่สังเวยชีวิตตัวเองกลางกองเพลิง หมิงตี้ ขณะเจ้าหน้าที่ดับเพลิงกว่า 100 คน ที่เข้าปฎิบัติการต้องเข้ากักตัว หลังพบนักผจญเพลิงหลายนายติดเชื้อโควิด
จบภารกิจดับเพลิงและเก็บกู้สารเคมีที่ยาวนานถึง 13 วัน จากกรณีเหตุระเบิดและเพลิงไหม้ บริษัท หมิงตี้ เคมีคอล จำกัด ซอยกิ่งแก้ว 21 ตำบลบางพลีใหญ่ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ที่เกิดระเบิดและเพลิงไหม้ได้รับความเสียหายทั้งโรงงาน และ แรงระเบิดได้สร้างความเสียหายในรัศมีหลายกิโลเมตร โดยเหตุเกิดเมื่อช่วงกลางดึกคืนวันที่ 5 กรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมา จนนายอำเภอบางพลีต้องมีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่และประชาชนโดยรอบรัศมีกว่า 5 กิโลเมตร ต้องอพยพออกจากพื้นที่ และ ปิดถนนกิ่งแก้ว เป็นการด่วนนานหลายวัน ก่อนที่สถานการณ์จะคลี่คลายและกลับสู่สถานการณ์ปกติ และเข้าสู่การขนย้ายการเคมี สไตรีนโมโนเมอร์ ที่อยู่ในถังกักเก็บขนาดใหญ่ ที่มีสารเคมีตัวดังกล่าวกว่า 1,100 ตัน ออกจากพื้นที่ไปกำจัดอย่างถูกวิธีที่นิคมอุตสาหกรรมบางปู ล่าสุดเมื่อช่วงเย็นของวานที่ 16 กรกฎาคม 2564 รถขนถ่ายสารเคมีเที่ยวสุดท้ายได้ออกพื้นที่ไป ถือเป็นอันจบภารกิจการขนย้ายสารเคมี สไตรีนโมโนเมอร์ 1,000 ตัน
ต่อมาช่วงสายของวันนี้ วันที่ 17 กรกฎาคม 2564 นักดับเพลิงจากอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ที่ร่วมกันดับเพลิงและอยู่สแตนบายระหว่างการขนย้ายสารเคมี กว่า 100 นาย ได้เข้าแถวยืนสงบนิ่ง และ ไว้อาลัย กับน้องพอส นายกรสิทธิ์ ลาวพันธ์ อายุ 19 ปี นักผจญเพลิงที่เสียชีวิตระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ โดยที่นักดับเพลิงทั้งหมดได้มีการนำดอกไม้มาวางตรงจุดที่พบร่างของน้องพอส เพื่อเป็นการไว้อาลัยเป็นครั้งสุดท้าย และสุดดีการเสียสละของน้องพอส โดยถือเป็นการจบภารกิจในครั้งนี้ ด้วย บรรยากาศเป็นไปอย่างความโศกเศร้าที่ต้องมาเสียเพื่อนร่วมอุดมการณ์ในเหตุการณ์นี้ โดยหลังจากนี้ นักดับเพลิงทั้งหมดกว่า 100 นาย ที่มาจาก อบต. ราชาเทวะ อบต บางพลีใหญ่ และ อบต บางโฉลง ต้องเข้ากักตัว จำนวน 14 วัน เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่ที่ร่วมปฏิบัติในครั้งนี้ติดเชื้อโควิด 19 ไปแล้วหลายนาย
