ศพสาวติดโควิดเสียชีวิตคาห้องเช่าที่อยู่ภายในซอยไพโอเนีย 2 ต.บางโฉลง อ.บางพลี จ.สมุทรปราการได้เผาแล้ว ณ.วัดบางพลีใหญ่กลาง ต.บางพลี อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ขณะที่ผลการตรวจเด็กทั้งสองอยู่ในขั้นสีเขียวคือยังไม่ลงปอดและสภาพจิตใจขณะนี้ก็ค่อนข้างที่จะดีขึ้นแล้ว
ล่าสุดเมื่อเวลา 16.00 น.ของวันนี้ที่ 27 กรกฎาคม 2564 ร่างของ นางอาภาภรณ์ สุนทรารชุน อายุ 44 ปี ที่ติดโควิด 19 นอนเสียชีวิตอยู่ภายในห้องเช่าซึ่งอยู่ภายในซอยไพโอเนีย 2 ต.บางโฉลง อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ โดยมีลูกสาววัย 9 ขวบ และ 11 ขวบ นอนเฝ้าร่างไร้วิญาณของผู้เป็นแม่ทั้งคืน เจ้าหน้าที่ชุดเฉพะกิจ ต่อต้านโควิด มูลนิธิร่วมกตัญญู ได้นำร่างของนางอาภรณ์ จากโรงพยาบาลรามาสมุทรปราการ เคลื่อนย้ายมาทำการเผาที่เมรุวัดบางพลีใหญ่กลาง ต.บางพลี อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ที่ได้รับความเมตตาจากพระครูปลัดสุวัฒนศิลคุณ หรือพระอาจารย์แจ้ เจ้าอาวาส เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ในการทอดผ้า พันเอก รณรงค์ โรจนแสน ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 111 และนายแพทย์ พิเชษฐ์ พัวพันกิจเจริญ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลบางพลี เป็นประธานฝ่ายฆราวาส ในการจุดดอกไม้จันก่อนที่พระสงฆ์จำนวน 4 รูปจะทำการเจริญพระพุทธมนต์ โดยมี น.ส.อุษณีย์ สุนทรารชุน อายุ 40 ปี ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องต่างมารดาเดินทางมาร่วมในพิธี
น.ส.อุษณีย์ ได้กล่าวว่า ตนเป็นพี่น้องต่างมารดากับ นางอาภาภรณ์ ผู้เสียชีวิต ซึ่งปกติก็ไม่ค่อยรู้เรื่องของครอบครัวของผู้เสียชีวิตเท่าไหร่ และผู้เสียชีวิตมาขออาศัยอยู่ในทะเบียนบ้านของตน โดยส่วนตัวแล้วตนกับผู้เสียชีวิตก็ไม่สนิทกันเท่าไหร่ แต่ตนก็เป็นญาติคนเดียวที่ลูกสาวของผู้เสียชีวิตรู้จัก นาน ๆ ที่เวลาเขาเดือดร้อนก็จะมาขอความช่วยเหลือจากตน และเท่าที่ตนได้ถามลูกสาวของผู้เสียชีวิต ซึ่งก็มีศักดิ์เป็นหลานของตนว่ามีญาติคนอื่น ๆ ที่รู้จักบ้างหรือเปล่าหรือญาติทางพ่อ ลานทั้งสองก็บอกว่าไม่มี ที่ตนทราบข่าวก็เพราะว่ามีคนแชร์เข้ามาในเฟสของตนจึงได้ทราบว่าเป็นผู้เสียชีวิตซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องต่างมารดากัน เมื่อวานจึงเดินทางมาดู ส่วนที่ตนมาในวันนี้เนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ของพัฒนาสังคมเพื่อความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสมุทรปราการ ได้ติดต่อให้ตนมาเซ็นหนังสืออนุญาตให้นำหลานทั้งสองคนเข้ารับการรักษาโดยที่อยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมเพื่อความมั่นคงของมนุษย์ ซึ่งตนเป็นญาติคนเดียวที่ติดต่อได้ ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าตนเองมีอำนาจในการอนุญาตตรงนั้นหรือเปล่า ส่วนยายของเด็กทั้งสองก็ติดต่อได้อยู่นะ แต่ยายของเด็กทั้งสองบอกว่าไม่สะดวกมาและบอกให้ตนเซ็นอนุญาตไปเลย โดยที่เขาบอกว่าไม่สะดวกที่จะมาหรือไม่สะดวกที่จะทำอะไรเลย ขนาดให้เจ้าหน้าที่โทรไปคุยกับยายเองเขาก็บอกว่าไม่สะดวกคือปฎิเสธทุกอย่าง ตนจึงเป็นญาติคนเดียวที่ติดต่อได้เพราะผู้เสียชีวิตและเด็กทั้งสองอยู่ในทะเบียนบ้านของตน และถ้าตนไม่มาทุกอย่างก็จะทำอะไรไม่ได้ตนจึงเดินทางมาทำให้พี่เขาเป็นครั้งสุดท้าย
ในส่วนของเด็กทั้งสองที่คุณชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม ประธานหอการค้าจังหวัดสมุทรปราการ ที่ได้พูดผ่านทาง สจ.พื้นที่มาว่าจะรับเด็กทั้งสองไปอุปการะเองนั้น ตนก็คงยังตัดสินใจอะไรไม่ได้ ส่วนตนก็ต้องค้าขายและตนก็ยังไม่มีลูกเป็นของตัวเองด้วยจึงไม่มีความสามารถที่จะดูแลเขาได้ และก็ไม่มีอำนาจในการตัดสินใจอะไรขนาดนั้น หากตนเซ็นอนุญาตตรงนั้นไปเดี๋ยวพ่อของเด็กทั้งสองจะมาว่าตนได้ว่าตนมีอำนาจอะไรที่ไปส่งมอบลูกของเขาไปให้คนอื่น ในส่วนที่มีผู้ใหญ่ใจดีอย่างคุณ ชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม ที่แสดงความจำนงผ่านทาวท่าน สจ.พื้นที่มาว่าจะรับอุปการะเด็กทั้งสองไว้ ซึ่งถ้าเป็นไปได้ตนก็คิดว่าน่าจะเป็นการดีเด็กทั้งสองจะได้มีอนาคต ในวันข้างหน้า ตนก็ทำอะไรไม่ถูกเพราะไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้
ขณะเดี่ยวกันผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปสอบถามอาการของเด็กทั้งสองที่โรงพยาบาลบางพลี ได้ทราบจากเจ้าหน้าที่ว่าผลการตรวจสอบหาเชื้อของเด็กทั้งสองพบว่าอยู่ในขั้นสีเขียวคือยังไม่ลงปอดและสภาพจิตใจขณะนี้ก็ค่อนข้างที่จะดีขึ้นแล้ว โดยที่ผู้สื่อข่าวได้รวบรวมเงินได้ไม่มากก็เลยไปซื้อพวกขนมเบเกอรี่แล้วไปฝากให้น้องทั้งสอง พอน้องได้รับเขาดีใจมาก เขาบอกว่าขนมแบบนี้เขาพึ่งเคยกินครั้งแรกในชีวิต และน้องก็ยังบอกว่าก่อนที่แม่ของเด็กทั้งสองจะเสียชีวิตหลายเดือนแม่ไม่มีเงินเลย และแม่ก็โทรหาญาติบอกว่าลูกอยากกินปลาทูทอดมีเงินเปล่าขอแค่ซื้อปลาทูให้ลูกกิน มันก็เลยเป็นความรู้สึกว่าเขาทั้งสามคนพยายามสู้ชีวิตซึ่งเราก็เข้าใจในปัจจัยหลาย ๆ อย่าง ในวันนี้นักข่าวก็เลยรวมเงินก็ซื้อปลาทูทอดไปฝากเด็กทั้งสองได้กินตามความฝันของผู้เสียชีวิตที่อยากให้ลูกได้กินปลาทูทอด ส่วนคุณลุงที่อยู่ข้างห้องที่คอยดูแลครอบครัวของเด็กทั้งสองนั้นอาการน่าเป็นห่วงเหมือนว่าเชื้อจะลงปอดหมอได้เอ็กซเรย์ปอดของเด็กทั้งสองไม่มีปัญหาส่วนของคุณลุงมีจุดที่ปอดนิดหน่อยแต่ก็ยังโชคดีที่คุณลุงได้รับการรักษาอย่างรวดเร็ว
