คณะแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม และ เจ้าหน้าที่ กอ.รมน. สมุทรปราการ ลงพื้นที่ตรวจสอบพร้อมสั่งการให้เร่งแก้ไขน้ำเน่าเสียในทะเลสาบกลางหมู่บ้านย่านบางปู
เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 15 พฤศจิกายน 2561 นายชนะ หงวนงามศรี ประธานคณะแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม อบจ.สมุทรปราการ พร้อมด้วยพันเอก กฤษภาณุ จำนงวงศ์ หัวหน้ากลุ่มงานนโยบายแผนและการข่าว กอ.รมน.จังหวัดสมุทรปราการ และเจ้าหน้าที่กองสาธารณสุข อบต.แพรกษาใหม่ ได้เข้าตรวจสอบระบบการบำบัดน้ำเสียภายในหมู่บ้านพฤกษา 15 ถนนตำหรุ-คลองเก้า หมู่ 3 ต.แพรกษาใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ หลังได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่าระบบการบำบัดน้ำเสียของหมู่บ้าน ซึ่งอยู่ในความดูแลของนิติบุคลของหมู่บ้านดังกล่าวชำรุด ไม่สามารถบำบัดนำเสียภายในหมู่บ้านได้ ทำให้น้ำในทะเลสาบกลางหมู่บ้านที่มีขนาดใหญ่กว่า 50 ไร่เกิดการเน่าเสียส่งกลิ่นเหม็นไปทั่วหมู่บ้านที่มีอยู่กว่า 3,280 หลังคาเรือนได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก
หลังเข้าตรวจสอบพบว่าพื้นที่บ่อน้ำของทะเลสาบขนาดใหญ่เนื้อที่กว่า 50 ไร่ กลางหมู่บ้านกลายเป็นน้ำขุ่นสีเขียวเข้ม แม้ว่าจะมีน้ำพุซึ่งเป็นระบบเติมอากาศของทะเลสาบดังกล่าวที่ยังคงทำงานได้แต่ก็ไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้ โดยน้ำในทะเลสาบยังส่งกลิ่นเหม็นคละคุ้งไปทั่วหมู่บ้าน จากการสอบถามเจ้าหน้าที่นิติบุคลของหมู่บ้านดังกล่าวซึ่งได้รับการถ่ายโอนอำนาจในการดูแลความเรียบร้อยภายในหมู่บ้าน ได้แจ้งว่าระบบบำบัดน้ำเสียของหมู่บ้านเกิดการชำรุดมานานกว่า 1 ปี ประกอบทะเลสาบดังกล่าวเป็นบ่อแรกที่รองรับน้ำเสียของหมู่บ้านที่มีอยู่ทั้งหมด 3,280 หลังคาเรือน ก่อนที่จะไปเข้าระบบบำบัดน้ำเสียและปล่อยลงสู่คลองสาธารณะ เมื่อระบบบำบัดน้ำเสียเกิดการชำรุดใช้การไม่ได้ จึงทำให้น้ำในทะเลสาบดังกล่าวไม่มีการไหลเวียนจึงทำให้น้ำในทะเลสาบกลางหมู่บ้านเกิดการสะสมและเน่าเสียส่งกลิ่นเหม็น โดยทางนิติบุคลของหมู่บ้านกล่าวว่าไม่มีงบประมาณในการซ่อมแซมระบบบำบัดน้ำเสียที่เกิดการชำรุด เพราะการซ่อมแซมระบบบำบัดน้ำเสียต้องใช้เงินกว่า 1 ล้านบาท ในขณะที่นิติบุคคลของหมู่บ้านเรียกเก็บค่าสาธารณูปโภคส่วนกลางเพียงหลังคาเรือนละ 150 บาท และเรียกเก็บได้ไม่ครบทุกหลัง ทำให้ไม่มีงบประมาณในการซ่อมแซมระบบบำบัดน้ำเสียของหมู่บ้านที่ชำรุดมานานกว่า 1 ปีแล้ว
เบื้องต้นประธานคณะแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม อบจ.สมุทรปราการ และ กอ.รมน. ได้สั่งการให้นิติบุคคลของหมู่บ้านดังกล่าวเร่งหาทางแก้ไขโดยเร็วที่สุดเพื่อลดปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้าน โดยให้ประสานขอน้ำยา อีเอ็ม จากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มาทำการปรับสภาพน้ำ ให้คืนสู่สภาพปกติและให้ใช้อีเอ็มบอล มากำจัดกากตะกอน ที่สะสมอยู่หน้าดินเลนก้นบ่อทะเลสาบ ปรับสภาพน้ำและกำจัดกลิ่นเหม็นที่รบกวนชาวบ้าน และหาทางซ่อมแซมระบบบำบัดน้ำเสียให้สามารถใช้การได้ เพื่อทำการบำบัดน้ำเสียในทะเลสาบให้ได้โดยเร็ว เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในระยะยาว โดยให้ระยะเวลาในการแก้ไขให้แล้วเสร็จภายใน 90 วัน โดยจะส่งเจ้าหน้าที่มาติดตามการแก้ไขปัญหาดังกล่าวจนกว่าจะสามารถใช้การได้ตามปกติต่อไป
