บิ๊กโจ๊ก พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ( สบ.9) ลงพื้นที่ สภ.เมืองสมุทรปราการ ตรวจดูการดำเนินงานโครงการสมาร์ทเซฟตี้โซน 4.0 ของ สภ.เมืองสมุทรปราการ ซึ่งเป็นสถานีนำร่องใช้เทคโนโลยีกล้องวงจรปิดสอดส่องอาชญากรรม และตั้งกล้องในจุดล่อแหลมแจ้งเหตุด่วน
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 8 กันยายน 2564 ที่ห้องประชุมชั้น 5 กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ( สบ.9) ได้เดินทางมาตรวจโครงการสมาร์ทเชฟตี้โซน 4.0 ของสถานีตำรวจภูธรเมืองสมุทรปราการ โดยมี พล.ต.ต.ชุมพล พุ่มพวง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ พร้อมด้วยข้าราชการตำรวจระดับผู้กำกับการทุกสถานีตำรวจภูธรทุกสถในจังหวัดสมุทรปราการ กต.ตร. ตัวแทนห้างร้านและชาวบ้านชุมชนต่าง ๆ เข้าร่วมรับฟังการบรรยายสรุป โดยมี พ.ต.อ.เติมรัศมิ์ จินดาวัฒน์ ผกก.สภ.เมืองสมุทรปราการ กล่าวรายงานผลสรุปการดำเนินงานโครงการสมาร์ทเชฟตี้โซน 4.0 ในเขตพื้นที่รับผิดชอบของ สภ.เมืองสมุทรปราการ ซึ่งมีการประสานงานกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในระบบการติดตั้งกล้อง CCTV และซ่อมแซมกล้อง รวมทั้งหมด 180 ตัว ตามถนนเส้นทางต่าง ๆ และชุมชน ติดตั้งกล่อง แจ้งเหตุฉุกเฉิน SOS BOX ซึ่งเป็นตู้สีเหลืองขนาดความสูง 60 เซนติเมตร ความกว้าง 40 เซนติเมตร ภายในกล่องติดตั้งกล้องวงจรปิดจำนวน 3 ตัว มีไมโครโฟน และลำโพง และกล่องสัญญาณอินเตอร์เน็ท ซึ่งสามารถพูดตอบโต้กันได้ รวมทั้งระบบกล้องวงจรปิดจำนวน 180 ตัว จะส่งสัญญาณภาพไปยังศูนย์ปฏิบัติการและควบคุมสั่งการ (CCOC ) การจราจรและการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม สถานีตำรวจภูธรเมืองสมุทรปราการ และมีการเชื่อมโยงกับกล้องวงจรปิดของภาคเอกชน ร้านสะดวกซื้อร้านค้าทอง และกล้อง CCTV ขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่นในแต่ละพื้นที่รวมทั้งภายในชุมชน โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง ในการรับแจ้งเหตุ นอกจากนี้ยังมีการใช้โดรนในการบินสังเกตการณ์รอบพื้นที่เป็นระยะ และมีสายตรวจรถจักรยานสีแดง คอยขี่ตรวจตราตามชุมชุน โดยได้รับความร่วมมือจากอาสาและผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง ช่วยในการสอดส่องและแจ้งเบาะแสยามเมื่อมีเหตุร้าย
ข่าวน่าสนใจ:
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ( สบ.9) เปิดเผยว่า วันนี้ท่าน ผบ.ตร.ได้มอบหมายให้ตนลงมาในพื้นที่ของจังหวัดสมุทรปราการ เพื่อติดตามความคืบหน้าของโครงการสมาร์ทเซฟตี้โซนซึ่งเป็นโครงการนำร่องที่ท่าน ผบ.ตร.ได้ริเริ่มเอาไว้ ในโครงการดังกล่าวได้กำหนดนำร่องเอาไว้ในพื้นที่ของจังหวัดสมุทรปราการ คือสถานีตำรวจภูธรเมืองสมุทรปราการเป็นที่แรก ในเรื่องของโครงการสมาร์ทเซฟตี้โซนเป็นการนำเทคโนโลยีทั้งหมดเข้ามาใช้ในโครงการ ก็เป็นเหมือนแซนด์บ็อก เพื่อที่จะให้เกิดความปลอดภัยแก่ประชาชนอย่างจริงจังตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ในเรื่องของความมั่นคงความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนให้มีเพิ่มขึ้นทุก ๆ ปี เพราะฉะนั้นในโครงการจะเห็นได้ชัดเจนว่าในพื้นที่ 1 ตารางกิโลเมตรกว่า ๆ ของเมืองจังหวัดสมุทรปราการ ประชาชนมีความพึงพอใจและมีความต้องการให้โครงการนี้ดำเนินการไปอย่างต่อเนื่อง จากการดำเนินการโครงการนี้จะเห็นได้ว่า ความหวาดกลัวภัยของประชาชนต่ออาชญากรรมต่าง ๆ ในพื้นที่นั้นลดลง ความเชื่อมั่นของประชาชนต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมามากขึ้น แต่ก็ยอมรับอาจจะไม่ได้เป็นภาพที่ชัดเจน แต่อย่างไรก็ตามเมื่อดำเนินการในลักษณะนี้ไปอย่างต่อเนื่อง เมื่อมีการติดตั้งกล้องวงจรปิดไปในพื้นที่ชุมชนทุกชมชน ทุกพื้นที่ต้องมีเจ้าภาพโดยมีตำรวจเป็นพี่เลี้ยง นั่นหมายถึงว่าความใกล้ชิดตำรวจกับประชาชนมีมากขึ้น ความห่างระหว่างตำรวจกับประชาชนมีน้อยลง สิ่งเหล่านี้ทำให้ข้อมูลข่าวสารที่ตำรวจจะได้รับมีมากขึ้น พื้นที่เสี่ยงบุคคลกลุ่มเสี่ยง บุคคลพ้นโทษบุคคลที่เข้ามาในชุมชนแล้วมีพฤติการณ์ที่น่าเชื่อว่าน่าจะก่อเหตุรวมทั้งยาเสพติดต่าง ๆ ก็จะไม่สามารถอยู่ในชุมชนได้ เพราะฉะนั้นในวันนี้ความใกล้ชิดระหว่างตำรวจกับชุมชนมีมากขึ้นเท่าไหร่ บุคคลที่จะอยู่ในชุมชนโดยผิดกฎหมายก็อยู่ไม่ได้ แล้วก็ข้อมูลข่าวสารที่เราจะได้รับก็มีมากขึ้น เพราะฉะนั้นในโครงการเหล่านี้สิ่งสำคัญคือเมื่อไหร่ที่ตำรวจทำงานและประชาชนเขาจะรู้เอง
ในโครงการนี้ท่าน ผบ.ตร.ได้สั่งการมาอย่างชัดเจนว่าให้ดำเนินการอย่างจริงจังแล้วเข้มข้นเพื่อให้ผลประโยชน์ต่อยู่กับประชาชนโดยแท้จริง ซึ่งโครงการนี้จะมีการขยายไปทั่วประเทศ แต่เรามานำร่องที่จังหวัดสมุทรปราการ และจะให้โรงพัก สภ.เมืองสมุทรปราการ เป็นแม่ไก่ เป็นที่เรียนรู้ของโรงพักต่าง ๆ ในตำรวจภูธรภาค 1 ที่จะมีการขยายวงรอบในปลายปีนี้ ซึ่งจะมีการติดตามการดำเนินการและการประเมินผลในชุดแรกสถานีตำรวจนำร่องจะมีการประเมิลผลในสิ้นเดือนกันยายน หลังจากครบ 3 เดือนแล้ว เมื่อประเมินแล้วก็จะขยายต่อไปยังสถานีตำรวจในเมืองลอง เพื่อที่จะรองรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยมากยิ่งขึ้นในห่วงไตรมาสที่ 4 หรือไฮซีซั่นและรองรับการเปิดประเทศในเวลาอันใกล้นี้ อันถือว่าเป็นนโยบายหลักของท่าน ผบ.ตร.
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: