เฮียเม้ง คลองถม ประธาน บริษัท นครทอง แมชชีน 2552 จำกัด พร้อมกับ นายเกรียงศักดิ์ พินทุสรศรี ทนายความ หอบหลักฐานเดินทางเข้าแจ้งตำรวจให้ดำเนินคดีกับขบวนการปลอมใบกำกับภาษี ที่ทำให้เสียหายกว่าร้อยล้าน
เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 24 กันยายน 2564 นายพรเทพ เห็นศิวิสกุล อายุ 69 ปี หรือ เฮียเม้ง คลองถม ประธาน บริษัท นครทอง แมชชีน 2552 จำกัด ทำธุรกิจเกี่ยวกับเครื่องมือก่อสร้าง พร้อมด้วยนายเกรียงศักดิ์ พินทุสรศรี ทนายความ ได้หอบเอกสารหลักฐานเดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับกับพนักงานสอบสวน สภ.สำโรงเหนือ สมุทรปราการ ให้ดำเนินกับขบวนการซื้อขายใบกำกับภาษี ปลอมผ่านแอปพลิเคชั่นไลน์ทำให้ความสูญเสียมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท
ข่าวน่าสนใจ:
- เปิดพร่องระบายน้ำเพื่อเร่งไหลลงทะเล รับมืออีกระลอก
- พร้อมรับสมัครเลือกตั้งนายกและสมาชิกสภา อบจ.พังงา เชิญชวนคนดีมีความสามารถมาสมัคร 23-27 ธันวาคมนี้
- ทนายเกรียง พา สาวนักแข่งรถจักรยานยนต์ทีมชาติไทย แจ้งความดำเนินคดีกับนายกสมาคม ข้อหาหมิ่นประมาท และ พรบ.คอม
- หนุ่มวัย 21 นัดเคลียร์กับรุ่นน้องวัย 16 แต่คุยกันไม่ลงตัวเกิดชกต่อยกัน ก่อนชักมีดแทงรุ่นน้องดับ
นายเกรียงศักดิ์ พินทุสรศรี ทนายความ เปิดเผยว่า ผู้เสียหายถูกขบวนการซื้อขายใบกำกับภาษีปลอมผ่านแอปฯไลน์ มีกลุ่มบริษัทได้ซื้อและนำไปยื่นกรมสรรพากร เพื่อขอรับเงินส่วนต่างขอคืนภาษีจนสร้างความเสียหายให้กับบริษัท ถึง 47 ครั้ง ที่พบหลักฐาน จึงได้รวบรวมหลักฐานเอาผิดกับบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด นอกจากนี้แล้วยังได้ทดลองล่อซื้อใบกำกับภาษีจากเจ้าของบัญชีเฟซบุ๊กรายหนึ่ง ซึ่งมูลค่าสินค้าวัสดุก่อสร้าง ประเภท หิน ปูน ทราย ราคา 4 หมื่นกว่าบาท ได้ใบกำกับภาษีปลอมส่งมาให้ในราคาที่จ่ายเงินจริง 1,400 กว่าบาทเท่านั้น
นายพรเทพ ผู้เสียหาย กล่าวว่า ตนรู้เรื่องที่ บ.นครทองฯ ถูกปลอมใบกำกับภาษีมาตั้งแต่ปี 58-59 เพราะสรรพกรเขตพลับพลาไชย สอบถามมาที่บริษัท ซึ่งขายแต่เครื่องมือก่อสร้าง แต่รายละเอียดในใบกำกับภาษีปลอมลงเป็นวัสดุ ประเภท อิฐ หิน ทราย ที่บริษัทนครทอง ไม่ได้จำหน่าย จึงได้พยายามแจ้งความตำรวจให้ดำเนินคดีมาโดยตลอด
จากการตรวจสอบบริษัทถูกขบวนการขายใบกำกับภาษีปลอมดังกล่าวแอบอ้างไปยื่นกรมสรรพากร มากว่า 5 ปี แล้วสร้างความเสียหายอย่างหนัก โดยบริษัทได้มีการล่อซื้อใบกำกับภาษีปลอมจากช่องทางไลน์ และนำหลักฐานไปยื่นหลายหน่วยงานซึ่งก่อนหน้านี้ตนเคยเข้าแจ้งความตำรวจ สน.พลับพลาไชย เมื่อปี 2559 แต่คดีไม่มีความคืบหน้า และเมื่อเดือน เมษายน 2564 ได้เข้าแจ้งกองบังคับการปราบปราม แต่ก็ไม่มีดำเนินการเช่นกัน จึงไปที่ ปอท. ช่วยตรวจสอบเอาผิดขบวนการกันโกงภาษี ทั้งหมดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย และในวันนี้จึงได้รวบรวมหลักฐานเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.สำโรงเหนือเพื่อให้สอบสวนดำเนินคดีแก่ผู้รวมกระบวนการ เนื่องจากสืบทราบมาว่าบริษัทที่ร่วมกระทำผิดอยู่ในพื้นที่สำโรงเหนือ จังหวัดสมุทรปราการ
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: