แม่ค้าออนไลน์พร้อมทนายความเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.บางเสาธง หลังสั่งซื้อชุดตรวจโควิดทางไลน์แล้วไม่ได้สินค้าแถมไม่คืนเงินสูญไปกว่า 2 แสนบาท ด้านทนายเผย เชื่อว่าน่าจะทำกันเป็นกระบวนการมีผู้เสียหายหลายรายมูลค่าความเสียหายหลายล้านบาท
เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 4 ตุลาคม 2564 ผศ.ดร. เกรียงศักดิ์ พินทุสรศรี ทนายความ พร้อมด้วย น.ส.ศศิธร ภูมิเจริญ อายุ 33 ปี ผู้เสียหายซึ่งเป็นแม่ค้าออนไลน์ ถูกหลอกโอนเงินซื้อชุดตรวจโควิด ในไลน์ สูญเงินไปกว่า 2 แสนบาท เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบ สภ.บางเสาธง สมุทรปราการ
โดย น.ส.ศศิธร ผู้เสียหายได้เล่าว่า ตนมีอาชีพขายของออนไลน์ โดยก่อนหน้านี้เมื่อประมาณวันที่ 22 กันยายน 2564 ตนได้สั่งซื้อชุดตรวจวิด 19 จากไลน์กลุ่มที่ใช้ชื่อ ชุดตรวจโควิด โดยในกลุ่มไลน์ดังกล่าว ได้มีการโฆษณาว่า มีชุดตรวจโควิดจำนวนมากขาย โดยมีสินค้าคุณภาพราคาไม่แพงมาก โดยระบุว่าถ้าโอนเงินให้แล้วจะส่งสินค้าให้ทันที โดยมีการลงเลขบัญชีของธนาคารกสิกรไทย ระบุชื่อเจ้าของบัญชี เป็น บจก. ตนจึงได้สั่งซื้อชุดตรวจโควิดไปจำนวนมากเพื่อนำมาขายทางออนไลน์ โดยตนได้โอนเงินไปตามหมายเลขบัญชีตามที่มีการระบุไว้ในกลุ่มไลน์จำนวน 202,230 บาท แต่กลับไม่ได้สินค้าตามที่ได้ตกลงกันไว้ หลังจากที่ตนทวงถามเจ้าของบริษัท เจ้าของบัญชีที่ตนโอนเงินไป แต่กลับได้รับคำตอบว่าไม่สามารถส่งสินค้าให้ได้เนื่องจากโกดังยังไม่เปิดและไม่ยอมโอนเงินคืนให้กับตน ซึ่งเท่าที่สอบถามกันในกลุ่มไลน์พบว่ายังมีผู้เสียหายอีกหลายรายที่ถูกกระทำแบบเดียวกับตน จึงรู้ว่าถูกหลอกจึงได้เข้าร้องขอความเป็นธรรมกับทนายเกรียงศักดิ์ พินทุสรศรี ก่อนที่จะพากันเดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.บางเสาธง สมุทรปราการ ให้ดำเนินคดีกับเจ้าของบริษัทดังกล่าว ในข้อหาฉ้อโกง
ผศ.ดร.เกรียงศักดิ์ พินทุสรศรี ทนายความ ได้กล่าวว่า ในวันนี้ได้พาผู้เสียหายมาแจ้งความดำเนินคดี โดยที่ผู้เสียหายเป็นแม่ค้าออนไลน์ ซึ่งได้มีการสั่งซื้อของทางไลน์เป็นชุดตรวจโควิด 19 เป็นจำนวนเงินกว่า 2 แสนบาท ซึ่งมีการตกลงว่าหลังจากที่ผู้เสียหายโอนเงินค้าสินค้าให้ก็จะส่งสินค้าให้ทันที โดยมีการนำชุดตัวอย่างมาให้ดูและบริษัทรวมทั้งใบกำกับภาษีส่งมาให้ดู สุดท้ายผู้เสียหายก็ไม่ได้สินค้าที่โอนเงินซื้อไป และไม่มีการคืนเงินให้กับผู้เสียหาย จึงได้มาร้องขอความเป็นธรรมกับตนก่อนที่จะพามาแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.บางเสาธง เพราะตัวผู้เสียหายต้องสูญเงินไปกว่า 2 แสนบาท และตนได้สืบทราบมาว่ายังมีผู้เสียหายอีกหลายรายที่ถูกก่อเหตุในลักษณะเดียวกันซึ่งเชื่อว่าน่าจะเป็นการทำกันเป็นกระบวนการ วงเงินค่าเสียหายหลายล้านบาท
