สี่ในสิบโจ๋ย่องเข้ามอบตัว ที่สภ.เมืองสมุทรปราการ พร้อมปฎิเสธไม่ได้วางแผ่นดักทำร้ายอ้างเจอโดยบังเอิญ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังไม่เชื่อในคำให้การเนื่องจากพฤติกรรมในกล้องวงจรปิดขัดแย้งกันคำให้การ จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น จนทำให้ได้รับอันตรายและบาดเจ็บสาหัส และข้อหาพกพาอาวุธมีดไปในเมืองหมู่บ้านโดยไม่มีเหตุอันควร
เมื่อเวลา 19.00 น.วันที่ 16 ตุลาคม 2564 นายศิริชัย พัฒนแก้ว และพวกอีก 3 คน ประกอบด้วย นายสรวิชญ์ สมมา อายุ 23 ปี นายศักทอง ทองเสงี่ยม อายุ 22 ปี และ นายพาลานา สนมีทองนะ อายุ 23 ปี เดินทางมาที่ สภ.เมืองสมุทรปราการ ได้เดินทางเข้ามอบตัวกับ ร.ต.อ.ชัชวาล กุลกำลัง รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองสมุทรปราการ ร้อยเวรเจ้าของคดี พร้อมให้ปากคำหลังตกเป็นผู้ต้องหาร่วมกันก่อเหตุทำร้ายร่างกายนายเทวัญ พุ่มผกา อายุ 28 ปี หนุ่มโรงงานเดียวกันเหตุแค่มองหน้า จนได้รับบาดเจ็บสาหัส
นายศิริชัย ได้กล่าวว่า ไม่เคยรู้จักนายเทวัญ เป็นการส่วนตัว แต่รู้ว่านายเทวัญ เป็นขาใหญ่ในที่ทำงาน ก่อนเกิดเหตุเมื่อวันที่ 13 ต.ค. ขณะตนเองกำลังจะไปตอกบัตรเข้าทำงานกะดึก ส่วนนายเทวัญ กำลังออกกะ จู่ ๆ นายเทวัญ หันมาถามตนว่ามองหน้าทำไม มีอะไรหรือป่าว จากนั้นตนจึงตอบว่าไม่มีอะไร ขณะนั้นเพื่อนเห็นเหตุการณ์จึงเข้ามาห้าม และบอกให้ตนไปทำงาน คล้อยหลังระหว่างเดินอยู่จะเข้าทำงาน นายเทวัญคาใจยังตะโกนมาบอกว่า แถวนี้ถิ่นกูบ้านกูอยู่สายลวด มึงจะทำไม ก่อนที่จะมีปากเสียงกันเล็กน้อย และต่างคนต่างแยกไป
ต่อมาวันเกิดเหตุ 14 ต.ค. เป็นวันที่ตนลางานเพื่อเตรียมจะไปเที่ยวชะอำ ก่อนเกิดเหตุ ตนเดินออกจากบ้านซึ่งอยู่ไม่หางจากจุดเกิดเหตุมากนักเพื่อจะไปซื้อของ และเป็นเวลาเลิกงานของกะเช้าพอดี ระหว่างทางตนพบเห็นนายเทวัญ และเพื่อนในกลุ่มขี่รถจักรยานยนต์ไล่ตามกันมา จากโรงงานซึ่งอยู่ในซอยดังกล่าว จนถึงช่วงสะพานข้ามคลอง นายเทวัญ ได้ชักมีดออกมาจะแทงเพื่อน แต่จังหวะนั้นเพื่อนที่ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ เห็นท่าไม่ดีจึงกระโดดลงจากรถ จังหวะนั้นนายเทวัญ คุมรถไม่อยู่จึงเสียหลักล้มไปเอง โดยเพื่อนตนไม่ได้ถีบรถให้ล้มแต่อย่างใด กระทั้งเกิดเหตุชุลมุนตามคลิปที่ปรากฏ ต่อมาตนจึงเดินทางไปเที่ยวทะเลที่ชะอำ กระทั้งเห็นข่าวจึงชวนเพื่อน มอบตัวเนื่องจากวันเกิดเหตุตนและเพื่อนทั้งสามคน ไม่ใช่คนเข้าไปรุมแต่จะเข้าไปห้าม และจำไม่ได้ว่ามีเพื่อนคนไหนบ้างที่เป็นคนใช้อาวุธเข้าไปทำร้ายนายเทวัญ ทั้งนี้ยืนยันว่าไม่ได้นัดเพื่อนมาดักทำร้ายนายเทวัญแต่อย่างใด แต่เป็นการมาพบโดยบังเอิญ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังไม่เชื่อในคำให้การเนื่องจากพฤติกรรมในกล้องวงจรปิดขัดแย้งกันคำให้การ จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น จนทำให้ได้รับอันตรายและบาดเจ็บสาหัส และข้อหาพกพาอาวุธมีดไปในเมืองหมู่บ้านโดยไม่มีเหตุอันควร ทั้งหมดยังให้การปฏิเสธ ก่อนบันทึกทำประวัติและปล่อยตัวกลับไปรอสรุปสำนวนส่งฟ้องศาล เนื่องจากทั้ง 4 คน แสดงความบริสุทธิ์ใจเข้ามามอบ โดยในวันจันทร์ที่ 18 ตุลาคม จะนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 ไปฝากขังที่ศาลจังหวัดสมุทรปราการ ส่วนผู้ร่วมก่อเหตุที่ยังเหลืออีกไม่ต่ำกว่า 5 คน อยู่ระหว่างติดตามตัวมาสอบสวนและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
