กลุ่มชายกว่าสิบคนยกพวกมาตามเคลียร์ปัญหาแต่ไม่ลงตัวชักเหล็กขูดชาร์ปแทงจำนวน 4 แผล ที่บริเวณหน้าท้อง ภายในอู่ซ่อมรถใกล้จุดเกิดเหตุพบปลอกหนังและหูเหน็บตกอยู่
เมื่อเวลา 22.30 น.วันที่ 18 พฤศจิกายน 2561 พ.ต.ท.สมัย เจริญราช สารวัตรเวรสอบสวน สภ.บางปู จ.สมุทรปราการ รับแจ้งมีเหตุชายถูกรุมทำร้ายได้รับบาดเจ็บสาหัสถูกเหล็กขูดชาร์ปแทงเข้าที่หน้าท้องหลายแผล ที่บริเวณหน้าอู่ซ่อมรถแก้วเซอร์วิส ตั้งอยู่ริมถนนพุทธรักษา ต.แพรกษา อ.เมือง จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนและอาสามูลนิธิป่อเต็กตึ๊งเดินทางเข้าตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุพบพรรคพวกของผู้บาดเจ็บประมาณ 10 คน กำลังช่วยกันพยุงร่างของนายธวัชชัย ไพจินดา อายุ 26 ปี ที่มีบาดแผลถูกแทงด้วยเหล็กขูดชาร์ป จำนวน 4 แผลที่หน้าท้อง อยู่บริเวณหน้าอู่ซ่อมรถดังกล่าว อาสามูลนิธิจึงเข้าทำบาดแผลให้เบื้องต้นก่อนรีบนำส่งรักษาที่โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 3 ในที่เกิดแหตุพบกองเลือดแดงฉานอยู่ที่หน้าอู่ ภายในอู่ซ่อมรถพบปลอกหนังและหูเหน็บ ซึ่งเป็นซองพกของเหล็กขูดชาร์ปตกอยู่ แต่ตัวเหล็กขูดชาร์ปหายไป คาดว่าผู้ก่อเหตุน่าจะนำติดตัวไปด้วย
จากการสอบถามเจ้าของอู่ซ่อมรถและพรรคพวก ซึ่งอยู่ในอาการมึนเมาส่งเสียงเอะอะโวยวาย ให้การไม่รู้เรื่องแต่พอจับใจความได้ว่า ผู้บาดเจ็บเป็นเพื่อนของตนอยู่ในย่านอำเภอบางพลี และวันนี้ได้ชักชวนกันมานั่งดื่มเบียร์กันที่อู่ซ่อมรถของตนพร้อมด้วยพรรคพวกรวมประมาณ 10 คน โดยนั่งดื่มกันมาตั้งแต่ช่วงเย็นจนกระทั่งอยู่ในมึนเมา ได้มีกลุ่มคู่อริของผู้บาดเจ็บประมาณ 10 คนขับขี่รถจักรยานยนต์มาจอดฝั่งตรงข้าม ก่อนเดินข้ามถนนเข้ามาตามผู้บาดเจ็บที่ในอู่ของตน จากนั้นได้พากันไปพูดคุยกันอยู่ที่หน้าอู่ ก่อนที่ผู้บาดเจ็บจะถูกคู่อริใช้เหล็กขูดชาร์ปแทงเข้าที่หน้าท้องหลายแผลจนล้มฟุบอยู่กับพื้นถนน และกลุ่มผู้ก่อเหตุได้วิ่งข้ามถนนและขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป ด้วยความตกใจตนและพรรคพวกจึงได้วิ่งไล่กลุ่มผู้ก่อเหตุไปแต่ไม่ทัน ก่อนโทรศัพท์แจ้งขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าผู้บาดเจ็บและผู้ก่อเหตุน่าจะรู้จักกันและอาจจะเคยมีเรื่องกันมาก่อน วันนี้หลังผู้ก่อเหตุรู้ว่าผู้บาดเจ็บมานั่งดื่มเบียร์ที่อู่ซ่อมรถที่เกิดเหตุ จึงยกพวกตามมา แล้วเรียกผู้บาดเจ็บออกมาเคลียร์ แต่เคลียร์ไม่ลงตัวจึงได้ชักเหล็กขูดชาร์ปออกมาแทงผู้บาดเจ็บก่อนจะหลบหนีไป อย่างไรก็ตาม คงต้องรอสอบสวนผู้บาดเจ็บเพื่อเป็นแนวทางในการติดตามจับกุมกลุ่มผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
