ประมวลภาพบรรยากาศงานสวดพระอภิธรรมศพน้องวาฤทธิ์ ณ วัดน้อยสุวรรณนาราม หรือวัดคลองเก้า ต.แพรกษาใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ โดยก่อนหน้านี้ น้องวาฤทธิ์ถูกกระสุนปริศนายิงเข้าที่ลำคอ ในขณะที่ไปร่วมชุมนุมทางการเมืองบริเวณสามเหลี่ยมดินแดง เมื่อกลางเดือนสิงหาคม 2564 จนต้องเข้ารักษาที่ รพ. นานกว่า 2 เดือนกับอีก 12 วัน
เมื่อเวลา 18.00 น.วันที่ 28 ตุลาคม 2564 ที่ศาลา 3 วัดน้อยสุวรรณนาราม หรือวัดคลองเก้า ต.แพรกษาใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ซึ่งทางญาติของน้องวาฤทธิ์ ที่ถูกกระสุนปริศนายิงเข้าที่ลำคอ ต้องเข้ารักษาตัวนานกว่า 2 เดือนในโรงพยาบาลก่อนที่จะเสียชีวิต ในขณะที่ไปร่วมชุมชนทางการเมืองที่สามเหลี่ยมดินแดง เมื่อกลางเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา โดยญาติได้นำร่างไร้วิญญาณของน้องวาฤทธิ์ สมน้อย อายุ 15 ปี มาตั้งสวดพระอภิธรรมอยู่ที่วัดดังกล่าว บรรยากาศทั่วไปเป็นไปอย่างเงียบเหงามีเพียงญาติและคนรู้จักไม่ถึง 20 คนที่เดินทางมาร่วมฟังพระสวดอภิธรรมศพท่ามกลางความโศกเศร้าของพ่อและแม่ของน้องวาฤทธิ์ ที่ต้องสูญเสียลูกชายคนโตที่ยังเรียนอยู่แค่ชั้น ม 3 ของโรงเรียนวัดแพรกษา สมุทรปราการ โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างเรียบง่าย มีเพียงพวงหรีดของ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และพวงหรีดของ สถานีตำรวจนครบาลดินแดง เท่านั้นที่ส่งมาร่วมในงาน แต่ไร่เงาผู้ที่เกี่ยวข้องมาร่วมในงานแต่อย่างใด ซึ่งศพจะถูกตั้งสวดอภิธรรมไปจนถึงวันเสาร์ที่ 30 ตุลาคม และในเวลา 09.00 น.ของวันอาทิตย์ที่ 31 ตุลาคม ก็จะทำพิธีฌาปนกิจ หลังจากที่พระสงฆ์ได้สวดพระอภิธรรมแล้วเสร็จ
ข่าวน่าสนใจ:
- สูงวัยตรัง ปลื้ม เตรียมตัวรับเงินหมื่น ฝันใช้ยามแก่-ต่อยอดอาชีพบั้นปลาย
- วิกฤตพะยูนตรัง 7 วันสำรวจ พบแค่ตัวเดียว ทดลองวางแปลงอาหาร กลับถูกเมินไม่ยอมกิน
- ตรัง คู่ซี้ พระ-ฆราวาส เมาแอ๋ด่าทอชาวบ้านใกล้ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อาละวาดอ้างมีปืน ทำชาวบ้านแตกตื่น ตร.หิ้วปีกบังคับสึก กร่างไม่เลิกบอกรู้จักพระผู้ใหญ่
- ขาดสภาพคล่องขั้นรุนแรง! อธิบดีกรมท่าฯ ร่อนนส.ด่วน! แจ้งบอกเลิกสัญญาทิ้งงานก่อสร้างอาคารผู้โดยสารสนามบินตรัง 1.2 พันล.แล้ว…
น.ส.นิภาพร สมน้อย อายุ 37 ปี และ นายสุชาติ ชัยนอก อายุ 45 ปี แม่และพ่อของน้องวาฤทธิ์ ได้กล่าวว่า ตั้งแต่เกิดเหตุมาตั้งแต่วันที่ 16 สิงหาคม 2564 ก็ไม่มีใครติดตามมาเลยโดยเฉพาะในเรื่องความคืบหน้าของคดี มีเพียงเมื่อเช้าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจติดต่อมาสอบถามว่าศพตั้งที่ไหนและชันสูตรน้องที่โรงพยาบาลไหนแค่นั้นเอง แต่เรื่องคดีไม่เคยติดต่อมาบอกเลยว่าคืบหน้าไปอย่างไร น้องเขาไปตั้งแต่วันที่ 16 สิงหาคม และก็เกิดเหตุวันนั้นเลย ถูกกระสุนปืนเข้าที่ลำคอข้างขวาเข้าไปโดนก้านสมอง น้องต้องเข้ารักษาที่โรงพยาบาลนานกว่า 2 เดือนกับอีก 12 วัน คือช่วงที่น้องรักษาตัวอยู่อาการตอนแรกเขาลืมตาได้ แต่ทางการแพทย์บอกว่า เขาไม่รับรู้ แต่ตนเชื่อว่าเขารับรู้ได้ เพราะเขาพยายามเหลือบตามองเราอยู่และก็มีน้ำตาไหลออกมา ก็ทำให้เรามีความหวัง ซึ่งทางคุณหมอบอกว่าถ้าเขาฟื้นขึ้นมาช่วงล่างตั้งแต่ลำคอลงมาก็เป็นอัมพาต และน้องพึ่งมาเสียชีวิตตอนตีสองของวันนี้ คุณหมอโทรมาบอกว่าอาการของน้องไม่ดีนะ ทำให้ใจคอของคนเป็นพ่อและแม่ก็ไม่ดีแล้ว ตนและสามีก็รีบเดินทางไปที่โรงพยาบาลทันที เวลาผ่านไปไม่ถึง 5 นาทีเขาก็โทรมาบอกว่าน้องหัวใจหยุดเต้น จะให้คุณหมอปั้มหัวใจมั้ย ตนก็ยังยืนยันให้ปั้มหัวใจขึ้นมา ปั้มอยู่นานกว่า 20 นาทีสัญญาณชีพจรก็ยังขึ้น เราก็ยังให้ปั้มต่อให้พยายามยื้อให้เต็มที่ คือตนคิดว่าเขาสู้มากเพราะเท่าที่ฟังจากหมอพยาบาลพูดเขาบอกว่าน้องเขาสู้มากเลย ตั้งแต่แรก ๆ ตนแทบจะไม่มีความหวังเลย ถ้าถามว่าคนเป็นแม่ทำใจได้มั้ย มาถึงวันนี้ตนยอมรับว่าทำใจไม่ได้ เจอรายที่เขาเจ็บ เจอแผลที่เขาโดนผ่า ไม่มีใครทำใจได้ โดยเฉพาะน้องวาฤทธิ์ เป็นลูกคนแรกของครอบครัว ส่วนลูกคนที่สองเป็นผู้หญิงยังเล็กอยู่เลย และน้องวาฤทธิ์ ก็ยังเรียนของชั้นมัธยมปีที่ 3 โรงเรียนวัดแพรกษา ถ้าถามว่าการเรียนน้องเป็นอย่างไร น้องเป็นคนที่เรียนไม่เก่งอยู่ในระดับปานกลาง ก่อนหน้านี้เคยเกเร มาระยะหลังมาเขาจะกระตือรือร้นเองโดยที่พ่อแม่ไม่ต้องจ้ำจี้จ้ำไชว่าจะต้องเรียน ส่วนที่น้องไปร่วมกับเขาแม่เองก็ยังไม่มีโอกาสได้ถามเขาเลยว่าไปทำไม
หลังจากที่เกิดเรื่องขึ้นมาจนถึงวันนี้ก็ไม่เคยมีใครหรือหน่วยงานไหนโทรมาบอกถามคืบหน้าเรื่องคดีแต่อย่างใด มีแต่วันนี้มีตำรวจโทรมาถามว่าพ่อแม่อยู่ที่ไหนและก็แสดงความเสียใจเท่านั้น แต่ก็ไม่บอกในเรื่องความคืบหน้าของคดีแต่อย่างใด เห็นแต่ในข่าวว่าจับคนร้ายได้แล้วแต่ก็ไม่มีใครโทรมาบอกแต่อย่างใด ตั้งแต่วันที่เขาแถลงข่าวว่าจับคนก่อเหตุได้แล้ว ตนก็ไม่เคยได้รับสายจากเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าจับได้แต่อย่างใด แล้วยังไงต่อ คือเราก็อยากจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนสอบสวนให้ความเป็นธรรมเด็กคนหนึ่งที่เขาถูกทำร้ายต้องนอนโรงพยาบาลนานกว่าสองเดือน จนสุดท้ายเขาก็ทนไม่ไหวและเสียชีวิต และขอให้จับคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้ ซึ่งตอนนี้เราก็มีคำถามอยู่ในใจหลายอย่าง ว่าทำไมก่อนหน้านี้ประมาณ 1 เดือนเราไปส่งเอกสารหลาย ๆ หน่วยงาน ที่ทาง ส.ส.พรรคก้าวไกล เขารวบรวมข้อมูลจากกล้องวงจรปิดตนว่ามันเพียงพอที่จะจับคนร้ายได้ แต่ตอนนี้ตนก็ไม่รู้ว่าเขาจับคนร้ายได้หรือยัง เพราะทางตำรวจไม่ได้แจ้งอะไรให้พวกตนทราบเลย แต่เขาไปแถลงว่าจับคนร้ายได้ ซึ่งเราก็คาใจว่าใช่คนร้ายตัวจริงหรือเปล่า เพราะเขาให้การภาคเสธว่าไม่ได้เป็นคนยิง เพราะตอนที่ยิงแนวกระสุนมันมาจากแนวตรงข้ามกะที่น้องล้ม ซึ่งเป็นสน. เพราะคนทั่งไปน่าจะเข้าไปใน สน.ไม่ได้ ซึ่งเราก็ไม่อยากไปโทษทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า เป็นคนทำ แต่ว่าเด็กคนหนึ่งเขาเสียอนาคตและสูญเสียชีวิตไปแล้ว มันไม่ใช่แค่เสียชีวิต แต่มันเป็นแผลในใจให้กับครอบครัวของเราทั้งหมด คือครอบครัวเราขาดรอยยิ้มไปรอยหนึ่ง ดวงใจของแม่ขาดไปดวงหนึ่ง ในแทบจะสลายแล้ว มันทำอะไรไม่ถูก เราก็เลยอยากรู้ว่าคดีนี้มันก็ควรที่จะกระจ่างมันไม่ควรจะเงียบ พอเราถามไปทีก็บอกว่าจับได้แล้ว แต่ไม่บอกว่าทำยังไงต่อ คนร้ายอยู่ไหนแล้วดำเนินคดีอย่างไรเรายังไม่ทราบเลย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: